สรุปงบล่าสุด SAV
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ไตรมาส 3/2568**
SAV มีรายได้รวม 591.1 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการให้บริการจัดการจราจรทางอากาศในเขตน่านฟ้าประเทศกัมพูชา 450.4 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลัง COVID-19 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้จากการให้บริการลดลงเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล (Low Season) ผลกระทบจากการปิดน่านฟ้าบางส่วนของกัมพูชา และค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ บันทึกรายได้ตามสัญญาสัมปทานตามมาตรฐาน TFRIC 12 จำนวน 139.6 ล้านบาท โดยรับรู้เท่ากับต้นทุนจากงานตามสัญญาสัมปทาน เมื่ออุปกรณ์และระบบที่ลงทุนในสนามบินนานาชาติเตโชพร้อมใช้งาน ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 กำไรในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 128.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 2.1 ล้านบาท (+1.6% YoY) แต่ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า 1.8 ล้านบาท (-1.4% QoQ) (หน้า 1)
**รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า**
ในไตรมาส 3/2568 SAV มีรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้ารวม 590.0 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ตามสัญญาสัมปทาน 139.6 ล้านบาท ซึ่งรับรู้เท่ากับต้นทุนจากงานตามสัญญาสัมปทาน และรายได้จากการบริการ 450.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 15.6 ล้านบาท (+3.6% YoY) แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 25.8 ล้านบาท (-5.4% QoQ) โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing & Take-off: Domestic), รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) และรายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) (หน้า 1-2)
จำนวนเที่ยวบินรวมทุกประเภทในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 29,149 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,248 เที่ยวบิน (+12.5% YoY) แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 1,143 เที่ยวบิน (-3.8% QoQ) (หน้า 2)
**กำไรขั้นต้น**
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 236.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 7.5 ล้านบาท (+3.3% YoY) แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 8.3 ล้านบาท (-3.4% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 40.1% อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายได้ตามสัญญาสัมปทาน บริษัทฯ จะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 52.5% (หน้า 2)
**ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหาร**
บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารรวมทั้งสิ้น 61.6 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1.9 ล้านบาท (-3.0% YoY) และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 1.4 ล้านบาท (-2.3% QoQ) โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น (หน้า 2)
**ค่าใช้จ่ายอื่น**
บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายอื่นจำนวน 13.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3.9 ล้านบาท (+39.9% YoY) สาเหตุหลักมาจากภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัท CATS จำนวน 4.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอัตราร้อยละ 10 คิดเป็น 0.4 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 0.3 ล้านบาท (-2.1% QoQ) (หน้า 2)
**ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน**
บริษัทฯ มีรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.7 ล้านบาท เนื่องจากการแปลงค่าเงินสกุลเหรียญสหรัฐเป็นเงินบาทเพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (หน้า 2)
**ค่าใช้จ่ายทางการเงิน**
บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายทางการเงินจำนวน 0.9 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 0.7 ล้านบาท (-41.9% YoY) และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 0.6 ล้านบาท (-40.5% QoQ) สาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น (หน้า 2-3)
**กำไรสุทธิ**
บริษัทฯ มีผลกำไรในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นรวม 128.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 2.1 ล้านบาท (+1.6% YoY) และลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 1.8 ล้านบาท (-1.4% QoQ) (หน้า 3)
**สินทรัพย์**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,162.7 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 จำนวน 15.4 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง 102.2 ล้านบาทจากการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 และการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 รวมจำนวนทั้งสิ้น 575.4 ล้านบาท รวมถึงลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นลดลง 48.1 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์ไม่มีตัวตนเพิ่มขึ้น 149.6 ล้านบาท (หน้า 3)
**หนี้สิน**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีหนี้สินรวมจำนวน 900.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 จำนวน 248.3 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ประมาณการหนี้สินระยะยาวตาม TFRIC 12 (หน้า 3)
**ส่วนของผู้ถือหุ้น**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 1,261.8 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2567 จำนวน 263.6 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 575.4 ล้านบาท และการรับรู้หุ้นซื้อคืนจำนวน 16.8 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดจำนวน 399.8 ล้านบาท (หน้า 3)
(23.92%)
(35.31%)
(3.40%)
(3.27%)
(22.05%)
(23.68%)
(2.31%)
(2.69%)
(1.40%)
(1.65%)
(13.95%)
(6.62%)