สรุปงบล่าสุด SANKO

บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SANKO)
บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีตามความต้องการของลูกค้า โดยใช้กระบวนการฉีดหล่อความดันสูง (HPDC) และแบบ Gravity บริษัทมีการให้บริการออกแบบและว่าจ้างผู้ผลิตแม่พิมพ์เพื่อผลิตแม่พิมพ์ตามความต้องการของลูกค้า สำหรับผลประกอบการล่าสุดในไตรมาส 4 ปี 2567 พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 10.180 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 68.784 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 25.94% เมื่อเทียบกับปี 2566 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากบทสรุปผู้บริหาร บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพและบริการ รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดและการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารจัดการทรัพยากรการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตนั้น บริษัทไม่ได้ระบุตัวเลขเป้าหมายรายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน แต่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
การพิจารณา SANKO เป็นโอกาสในการลงทุน ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่การลดลงของกำไรสุทธิในไตรมาส 4 อาจเป็นสัญญาณที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ราคาหุ้นเฉลี่ยในอดีตมีความผันผวนพอสมควร แต่ในช่วงปี 2567 เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น P/E Ratio ปัจจุบันอยู่ที่ 5.32 ซึ่งบ่งบอกถึงราคาหุ้นที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น P/BV Ratio อยู่ที่ 1.22 สะท้อนว่าราคาหุ้นไม่ได้สูงเกินมูลค่าทางบัญชีมากนัก และ Yield ที่ 3.45% ถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดจากเงินปันผล
**โอกาส:**
* ความต้องการชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีในอุตสาหกรรมต่างๆ มีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
* บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรและผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น
**ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ เช่น อลูมิเนียมและสังกะสี อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเดียวกันอาจกดดันราคาขายและอัตรากำไร
* ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
* D/E Ratio ค่อนข้างต่ำ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท
* วงจรเงินสดค่อนข้างสั้น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน
โดยรวมแล้ว SANKO เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว แต่การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงโอกาสและความเสี่ยงต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงการติดตามผลประกอบการและพัฒนาการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
(11.70%)
(0.13%)
(14.34%)
(11.98%)
(2.97%)
(11.85%)
(9.67%)
(2.75%)
(51.85%)
(0.29%)
(1.70%)
(56.00%)