SALEE
บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

SARI Oppday: เจาะลึกกลยุทธ์ สาลี่อุตสาหกรรม ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทสาลี่อุตสาหกรรมจำกัดมหาชน ผมสุพจน์สุนทรินทร์ครับ ในฐานะกรรมการและเลขานุการบริษัท วันนี้ขออนุญาตมาชี้แจงใน Opportunity Day ของบริษัทสำหรับงบการเงินประจำปี 2567

ก่อนอื่นขออนุญาตอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทก่อนนะครับ ของในกลุ่มสาลี่อุตสาหกรรมเองธุรกิจหลักเราจะมีอยู่ 3 อันด้วยกันก็คือธุรกิจทางด้านฉีดพลาสติกที่ดำเนินการโดยบริษัทแม่นะครับ แล้วก็ธุรกิจของบริษัทลูก 2 อันก็คือธุรกิจที่ทำทางด้านสินค้าพลาสติกขายผ่าน Modern Trade นะครับ และก็อีกอุตสาหกรรมหนึ่งก็คือธุรกิจพินฉลากสินค้า

สำหรับ Vision ของตัวกลุ่มบริษัทเราก็เราจะเป็นผู้นำทางด้านสินค้าพลาสติกคุณภาพสูงนะครับ ซึ่งสำหรับตัวบริษัทสาลี่อุตสาหกรรมเองเราเข้าจดทะเบียนในตลาดทรัพย์ตั้งแต่ปี 2505 นะครับแล้วก็ตั้งมาประมาณ 30 กว่าปีแล้วนะครับ ปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 320 คนนะครับ

แล้วก็ในกลุ่มเราเองเรามีบริษัทแม่ที่ทำพวกทางด้านค้าเคมีนะครับเพราะฉะนั้นเราก็จะมีตั้งแต่ต้นน้ำคือทางด้านเคมีภัณฑ์แล้วก็มีบริษัทในกลุ่มที่เป็นบริษัทร่วมทุนของเรานะครับชื่อบริษัทสาลี่คัลเลอร์นะครับ อันนี้ก็จะอยู่อีกที่นึงที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูอันนี้เราจะถือหุ้นอยู่ประมาณสัก 6%-7% นะครับ จะทำพวก Master Batch หรือว่าเม็ดสีพลาสติกนะครับ แล้วก็ตัวสาลี่อุตสาหกรรมเองเราก็เป็นคอนเวอร์เตอร์ที่แปลงจากตัวเม็ดพลาสติกต่างๆ มาเป็นสินค้าแล้วก็บริษัทลูกที่พูดถึงที่ทำลาเบลคือฉลากสินค้านี่ก็คือบริษัทชื่อสาลี่พริ้นติ้งนะครับ อยู่ในตลาดทรัพย์เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นในกลุ่มบริษัทเราก็จะทำสินค้าอย่างครบวงจรนะครับตั้งแต่ต้นน้ำก็คือทางด้านเคมีจนกระทั่งมาทางด้านพวกเม็ดพลาสติกในการทำเม็ดสี Master Batch แล้วก็ทำพิมพ์ฉลากสินค้าครับ

สำหรับตัวสาลี่อุตสาหกรรมเองนะครับตั้งอยู่ที่ปทุมธานี คลอง 4 คลองหลวงครับ พื้นที่เราจริงๆ เรามีที่ดินอยู่ประมาณสักประมาณ 70 กว่า 80 ไร่นะครับ ปัจจุบันเราใช้อยู่เพียงแค่ 30 ไร่ที่เหลือก็ยังเป็นที่ดินเปล่ารองรับการขยายตัวได้นะครับ ในตัวที่ปทุมธานีคลองหลวงคลอง 4 นี่นอกเหนือจากสาลี่อุตสาหกรรมเองแล้วเราก็บริษัทลูกอีกบริษัทก็คือสาลี่พริ้นติ้งที่พิมพ์ฉลากสินค้าก็อยู่ในบริเวณเดียวกันนะครับในรั้ว 30 ไร่ตรงนี้นะครับ

อันนี้ครับผังที่ผมพูดถึงคือบริษัทในกลุ่มเราบริษัทแม่ชื่อ VV The Kem นะครับอันนี้จะเป็นบริษัทค้าทางด้านเคมีภัณฑ์ต่างๆนะครับ แล้วก็ตัวสาลี่อุตสาหกรรมเองเราจะทำทางด้านเกี่ยวกับการฉีดพลาสติกแล้วก็ thermoforming หรือว่าขึ้นรูปพลาสติกนะครับซึ่งเดี๋ยวอธิบายในรายละเอียดต่อไปแล้วก็ที่ตะกี้เรียนว่าเรามีบริษัทในกลุ่มคือสาลี่คัลเลอร์ที่ทำพวก Master Batch เม็ดพลาสติกเม็ดสีนะครับในการที่ทำชิ้นงานออกมาเป็นสีเราก็สามารถใช้ตัว Master Batch หรือเม็ดสีจากทางด้านสาลี่คัลเลอร์ได้นะครับ แล้วก็ทางสาลี่อุตสาหกรรมเรามีบริษัทลูกอยู่ 2 บริษัทนะครับก็คือสาลี่พริ้นติ้งที่อยู่ในตลาดทรัพย์เช่นเดียวกันนะครับอันนี้ทำพวกฉลากสินค้าและอีกบริษัทนึงก็คือบริษัทเพชรสยามประเทศไทยซึ่งอันนี้อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์นะครับ ทำสินค้าพลาสติกนะครับแต่ว่าเอ่อไม่ได้เป็นลักษณะสินค้าที่ขายผ่านพวก Modern Trade นะครับก็เดี๋ยวจะลงอธิบายในรายละเอียดก็จะเป็นสินค้าพลาสติกที่เราค่อนข้างเห็นในชีวิตประจำวันเรานะครับพวกกล่องพลาสติก เอ่อตู้พลาสติกต่างๆหรือว่าถังพลาสติกที่เราใช้ในบ้านนะครับแล้วก็ในตัวเพชรสยามประเทศไทยเองก็มีบริษัทลูกนะครับที่ค้าตัวชุดสังฆทานผ่าน Modern Trade ต่างๆชื่อบริษัทมงกุฎแก้วประเทศไทยนะครับซึ่งอันนี้บริษัทเพชรสยามประเทศไทยจะถือในมงกุฎแก้วประเทศไทยอยู่ 100% ครับ

สำหรับในตัวบริษัทแม่สาลี่อุตสาหกรรมเองในแผนกของทางด้านฉีดพลาสติกเรามีเครื่องฉีดพลาสติกอยู่ประมาณ 86 เครื่องนะครับตั้งแต่ 18 ตันถึง 850 ตันนะครับ ก็จะมีตั้งแต่เครื่องเล็กจนถึงเครื่องไซส์ใหญ่เลยนะครับ ส่วนใหญ่ลูกค้าของทางด้านสาลี่อุตสาหกรรมเราจะเป็นงานลักษณะรับจ้างผลิตนะครับ สินค้าก็จะอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมนะครับ ไม่ว่าพวกที่เป็นชิ้นส่วนยานยนต์นะครับหรือว่าพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็ตามหรือว่าพวก Household product ส่วนใหญ่ Household product ก็จะเป็นสินค้ากระติกน้ำของญี่ปุ่นที่มาจ้างทางสาลี่อุตสาหกรรมฉีดสำหรับชิ้นส่วนที่เป็นตัวส่วนพลาสติกนะครับ เพราะงั้นงานของสาลี่อุตสาหกรรมก็จะเป็นงานลักษณะ OEM เค้าเรียกว่า OEM ก็คือรับจ้างผลิตนะครับ บางครั้งลูกค้ามีแม่พิมพ์มาแล้วก็ให้ทางสาลี่อุตสาหกรรมฉีดชิ้นงานขึ้นมาหรือบางทีลูกค้าอาจจะมีแค่ไอเดียหรือมีแค่แบบดีไซน์แล้วก็ให้สาลี่อุตสาหกรรมทำแม่พิมพ์แล้วก็ฉีดชิ้นงานออกมาได้ด้วยนะครับ เราก็สามารถที่จะทำแม่พิมพ์แล้วก็ฉีดชิ้นงานมาตามที่ลูกค้าต้องการซึ่งในกระบวนการฉีดพลาสติกนี่ก็คือตัววัตถุดิบก็จะเป็นตัวเม็ดพลาสติกนะครับ ซึ่งถ้าเราต้องการชิ้นงานเป็นสีอะไรเช่นเป็นสีดำเป็นสีเขียวเราก็สามารถที่จะใช้ตัว Master Batch ของตัวเม็ดสีจากตัวสาลี่คัลเลอร์เข้ามาผสมนะครับแล้วก็ทำให้เป็นชิ้นงานสีได้ตามที่ต้องการนะครับ

ส่วนอีกแผนกนึงของทางด้านสาลี่อุตสาหกรรมเองก็เรียกว่า vacuum pressure forming หรือการขึ้นรูปพลาสติกนะครับ ลักษณะการขึ้นรูปพลาสติกตัววัตถุดิบจะเป็นอีกแบบนึงจะเป็นแผ่นชีสใสๆ นะครับลักษณะถ้านึกภาพก็จะเหมือนกล่องอาหารที่เราเห็นในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพียงแต่ว่าของสาลี่อุตสาหกรรมเองเราจะเป็นกล่องที่ใช้ในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่แล้วก็คือใส่ชิ้นงานทางด้านพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนยานยนต์นะครับลักษณะการขึ้นรูปก็คือจะเป็นวัตถุดิบแผ่นใสมาแล้วเราก็มีตัวแม่พิมพ์กดแล้วก็ใช้ระบบสุญญากาศดูดเพื่อให้แนบกับตัวแม่พิมพ์แล้วก็ตัดออกมาเป็นชิ้นงานครับ ซึ่งอันนี้ของสาลี่อุตสาหกรรมเราก็จะพิเศษตรงว่าเราผลิตอยู่ในห้อง Clean Room ที่เป็นห้องสะอาดมากเพราะว่าเนื่องจากสินค้าเราถ้าเห็นพวกเนี้ยครับจะเป็นลักษณะเทที่บรรจุชิ้นงานซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นชิ้นงานทางด้านอิเล็กทรอนิกส์หรือยานยนต์ซึ่งบางลูกค้าเค้าต้องการความสะอาดค่อนข้างสูงนะครับเพราะว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เนี่ยจะต้องเป็นสินค้าที่ผลิตอยู่ในห้อง Clean Room เพราะงั้นเราก็จะมีห้อง Clean Room ที่สำหรับผลิตภาชนะบรรจุชนิดนี้ด้วยเพื่อที่ว่าป้องกันไม่ให้ฝุ่นไปติดกับชิ้นงานของลูกค้านะครับ งั้นในกลุ่มลูกค้าของสาลี่อุตสาหกรรมสำหรับตัวขึ้นรูปพลาสติกส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กับพวกชิ้นส่วนยานยนต์ Automotive นะครับ

แล้วก็ในสาลี่อุตสาหกรรมเองเรายังมีธุรกิจหนึ่งก็คือตัวทำ Corrugated Box นะครับ Corrugated Box ก็คือตัววัตถุดิบเราก็จะนึกถึงแผ่น PP Board อะครับคล้ายๆ แผ่นที่นักเรียนเอาไปทำกิจกรรมกันที่เป็นแผ่นพลาสติก แต่ว่าของเรานำมาผ่านกระบวนการผลิตแล้วก็เสริมความแข็งแรงโดยการที่เสริมบางส่วนก็อาจจะเป็นอลูมิเนียมหรือเป็นพลาสติกเข้ามุมต่างๆ เพื่อทำให้ภาชนะตัวแผ่น PP Board เนี่ยมีความแข็งแรงแล้วก็สามารถที่จะบรรจุของหนักๆ ได้สามารถรับน้ำหนัก 30 กิโล 40 กิโลได้นะครับเพราะงั้นอันนี้ก็จะเป็นที่นิยมสำหรับตัวกลุ่มลูกค้าของอย่างลูกค้ าญี่ปุ่นที่เอาไปใช้แทนพวกกล่องกระดาษต่างๆนะครับ เพราะว่ากล่อง Corrugated Box พอ บรรจุชิ้นงานแล้วก็สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกแต่ว่ากล่องกระดาษเนี่ยใช้ได้ครั้งสองครั้งก็อาจจะมี การเสียหาย เพราะอันนี้ก็จะประหยัดต้นทุนมากกว่าเราก็มีตัวกระบวนการผลิตในการผลิตตัวเกราะ Corrugated Box นี้ด้วยนะครับ

แล้วก็อย่างที่ผมเรียนตอนต้นว่าลูกค้าบางรายก็จะมีแค่ดีไซน์หรือมีแค่ตัวแนวความคิดสินค้าหรือตัวอย่างสินค้ าเราก็สามารถที่จะผลิตแม่ตั้งแต่ต้นน้ำก็คือผลิตแม่พิมพ์แล้วก็ทำออกมาเป็นสินค้าให้กับลูกค้าได้นะครับรวมทั้งการที่เรามีกระบวนการทำแม่พิมพ์เองเนี่ยก็สร้างความเชื่อมั่นว่าถ้าแม่พิมพ์ที่ลูกค้าเอามาให้เราฉีดแล้วเกิดมีปัญหาเราก็สามารถที่จะดูแล Maintenance หรือที่จะปรับปรุงได้ภายในก็จะทำให้การทำงานของเราไม่ล่าช้านะครับแล้วก็ทันกับความต้องการของที่ลูกค้าต้องการได้นะครับ

แล้วก็ในสาลี่อุตสาหกรรมเองเราก็มีระบบคุณภาพนะครับที่ได้ใบรับรองต่างๆ เช่น ISO 9001 นะครับเวอร์ชั่น 2015 หรือเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมก็ ISO 14,001 นะครับแล้วก็ตัวที่เกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ก็คือ IATF 16949 นะครับรวมทั้งอุตสาหกรรมอาหารเราก็สามารถที่จะทำภาชนะบรรจุสำหรับอุตสาหกรรมอาหารได้เพราะว่าเราได้ตัว GMP นะครับที่เป็นมาตรฐานทางด้านสุขลักษณะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารด้วยนะครับแล้วก็ในส่วนระบบการบริหารจัดการภายในเราก็ใช้ระบบที่เชื่อถือได้ก็คือระบบ SAP นะครับเพราะงั้นเราก็เรียกว่าระบบภายในเราก็มีความน่าเชื่อถือแล้วก็มีระบบข้อมูลที่สามารถที่จะทันต่อเหตุการณ์ในการตัดสินใจต่างๆได้นะครับ อันนั้นก็เป็นตัวสรุปคร่าวๆของตัวสาลี่อุตสาหกรรมนะครับ ส่วนบริษัทลูกที่ได้เรียนไปว่าอยู่ในตลาดทรัพย์เช่นเดียวกันคือบริษัทสาลี่พริ้นติ้งนะครับอันนี้จะพิมพ์ฉลากสินค้าแล้วก็สาลี่อุตสาหกรรมเราถือหุ้นอยู่ในสาลี่พริ้นติ้งอยู่ประมาณ 65% นะครับ อันนี้ก็จะตั้งหลังสาลี่อุตสาหกรรมอยู่ 3-4 ปีนะครับ ตัวลูกค้าของสาลี่พริ้นติ้งก็จะเป็นตัวสินค้าที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก consumer product ต่างๆไม่ว่าแชมพูขวดแชมพูหรือเครื่องสำอางนะครับที่ตัวฉลากที่ติดบนขวดต่างๆเหล่านั้นก็คือสาลี่พริ้นติ้งก็เป็นคนทำนะครับลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็น consumer product ที่เราใช้อยู่เป็นประจำเป็นบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆนะครับเช่น P&G นะครับ Johnson & Johnson พวกเนี้ยนะครับบริษัทข้ามชาติเกี่ยวกับตัว consumer product ก็จะเป็นลูกค้าของตัวสาลี่พริ้นติ้งนะครับ

ส่วนบริษัทลูกอีกอันนึงที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์นะครับก็คือเพชรสยามประเทศไทยจำกัดนะครับ ซึ่งอันนี้สาลี่อุตสาหกรรมเราถือหุ้นอยู่ประมาณ 75% นะครับ 75.5% ตัวเพชรสยามประเทศไทยจะทำสินค้าพลาสติกเหมือนกับตัวสาลี่อุตสาหกรรมเพียงแต่ว่าสาลี่อุตสาหกรรมเป็นลักษณะชิ้นงานที่เรา รับจ้างผลิตนะครับเป็น OEM แต่เพชรสยามเนี่ยจะมีสินค้าของตัวเองแล้วก็ขายสินค้าต่างๆเหล่านั้นผ่าน Modern Trade ต่างๆซึ่งส่วนใหญ่สินค้าของสาลี่ของเพชรสยามประเทศไทยก็จะเป็นพวกของใช้พลาสติกที่เราใช้อยู่ในบ้านนะครับคิดว่าทุกคนก็จะมีอยู่ในบ้านนะครับไม่ว่าพวกกล่องพลาสติกลิ้นชักพลาสติกนะครับถังพลาสติกถังขยะพลาสติกต่างๆ งั้นเราก็จะผลิตสินค้าต่างๆเหล่านั้นเกือบทั้งหมดแล้วก็ลูกค้าก็เป็น Modern Trade เกือบทุกรายในประเทศไทยนะครับไม่ว่าบิ๊กซีโลตัสแม็คโครไทยวัสดุ Hom pro เราก็จะมีขายอยู่แล้วก็รวมทั้งของสินสินค้าพลาสติกเราก็มีส่งไปต่างประเทศด้วยนะครับซึ่งของตัวเพชรสยามเองก็มีส่งไปต่างประเทศสักประมาณ 15-20% นะครับหลักๆ ก็จะมีส่งไปออสเตรเลียกับที่อังกฤษนะครับ

ครับ ก็ที่ได้เรียนไปก็จะเป็นธุรกิจหลักๆ เรา 3 ส่วนนะครับนั่นก็คือธุรกิจลักษณะ OEM ทางด้านพลาสติกชิ้นงานพลาสติกนะครับที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ Household product อันนั้นดําเนินการโดยบริษัทแม่นะครับ แล้วก็อีก 2 ธุรกิจก็คือสินค้าพลาสติกที่เป็นสินค้าของเราเองที่เป็นของใช้ในบ้านที่ขายผ่าน Modern Trade ต่างๆซึ่งดําเนินการโดยบริษัทเพชรสยามประเทศไทยแล้วก็อันที่สามก็สินค้าตัวธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าที่ดําเนินการโดยบริษัทย่อยเราคือสาลี่พริ้นติ้งจํากัดมหาชนนะครับ

สําหรับตัวเอ่อฐานะการเงินและงบการเงินของกลุ่มบริษัทนะครับ ตัวฐานะการเงินของบริษัทเราถ้าดูในงบการเงินปี 2567 ที่ผ่านมานะครับเรามีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,710 ล้านบาทนะครับแล้วก็มีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1,511 ล้านบาท แล้วก็มีตัวหนี้สินอยู่ 199 ล้านบาทซึ่งก็จะเห็นว่าตัวหนี้สินต่อทุนเราก็ค่อนข้างต่ํานะครับคือจะเห็น DE Ratio ตอนสิ้นปีอยู่ที่ประมาณ 0.13 เท่าเท่านั้นเองเพราะงั้นก็เรียกว่าฐานะการเงินเราก็ค่อนข้างมั่นคงนะครับเพราะว่าหนี้สินต่ํามากส่วนใหญ่หนี้สินที่มีก็จะเป็นพวกเจ้าหนี้การค้าต่างๆเท่านั้นเองนะครับ งั้นเราก็จะมีรูมในการที่จะขยายกิจการหรือนําเงินไปลงทุนหรือการที่จะใช้ Financing จากแบงค์แล้วก็ไปลงทุนได้อีกมากถ้าเรามีตัวแผนหรือมีโครงการดีๆที่เข้ามานะครับ ในส่วนของสินทรัพย์รวมที่ลดลงนี่ส่วนหนึ่งก็เป็นจากหนี้สินที่เราลดลงนะครับแล้วก็ตัวการจ่ายเงินปันผลซึ่งทุกปีเราก็จะจ่ายตอนประชุมผู้ถือหุ้นนะครับประมาณเดือนพฤษภาคมหลังจากประชุมผู้ถือหุ้นนะครับก็เลยทําให้ส่วนผู้ถือหุ้นกับสินทรัพย์รวมมีสัดส่วนลดลงนะครับ

ส่วนในเรื่องของผลประกอบการของบริษัทนะครับสําหรับในปี 2567 ที่ผ่านมาเรามีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,284 ล้านบาทนะครับแล้วก็มีกําไรสุทธิของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 6.58 ล้านบาทซึ่งถ้าดูรายได้ก็จะลดลงประมาณ เอ่อ 1% นะครับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่อยู่ที่ 1,303 ล้านบาทแล้วก็กําไรสุทธิลดลงประมาณ 60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่อยู่ประมาณที่ 16.65 ล้านบาทซึ่งสาเหตุที่ตัวกําไรสุทธิเราลดลงก็เนื่องจากรายได้เราลดลงนะครับ ทําให้ตัวค่าใช้จ่ายบางส่วนซึ่งมันเป็น Fix Cost ที่ไม่ได้ลดลงตามรายได้ที่ลดลงก็เลยทําให้สัดส่วนกําไรเราลดลงนะครับ ซึ่งอันนี้ก็ในปี 68 นี้เราก็พยายามจะบูทรายได้เราเพิ่มขึ้นมานะครับเพื่อให้สามารถที่จะ Cover กับตัว Fix Cost ต่างๆได้แล้วก็สามารถที่จะ Generate กําไรเพิ่มขึ้นนะครับ

อันนี้ถ้าดูตัว Cost of Sale เรากับ selling and admin นะครับ Cost of Sale เราก็จะเท่าปี 67 ก็เท่ากับปี 66 นะครับอยู่ที่ประมาณ 80% นะครับต้นทุนขาย ส่วน selling and admin เราเพิ่มขึ้นมาจาก 19% เป็น 21% เนื่องจากว่าในปี 67 เนี่ยสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากตัวธุรกิจของบริษัทลูกคือธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าแล้วก็ธุรกิจขายสินค้าพลาสติกผ่าน Modern Trade ซึ่งตัว 2 ธุรกิจเนี่ยตัว selling and admin เนี่ยจะมีเปอร์เซ็นต์ต่อรายได้เนี่ยสูงกว่าตัวธุรกิจรับจ้างผลิตของบริษัทแม่เองก็เลยทําให้ตัว selling admin % มีสัดส่วนที่สูงขึ้นนะครับของกลุ่มบริษัท

นี้ถ้าดูตัว performance เมื่อเทียบอย่างที่เรียนไปครับว่าถ้าดูรายได้ก็ลดลงแค่ 1% แต่ว่าเมื่อดูตัวกําไรลดลง 60% ก็เนื่องจากว่าตัวสัดส่วนค่าใช้จ่ายบางอย่างมันเป็นต้นทุนคงที่ที่ไม่ได้ลดลงตามรายได้นะครับ แล้วก็ตัวธุรกิจที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเนี่ยก็อย่างที่เรียนว่าตัวเปอร์เซ็นต์ของเอ่อค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะมีสูงกว่าตัวรายได้ของธุรกิจของบริษัทแม่เพราะงั้นก็เลยทําให้เมื่อรวมออกมาแล้วก็เลยทําให้กําไรสุทธิลดลงนะครับ แต่ว่า Gross Margin ถ้าดูแล้วของเราก็อยู่ที่ประมาณเท่ากันนะครับที่ของปี 67 กับปี 66 คือตัว Gross Margin อยู่ที่ประมาณ 20% ครับ

นี้ถ้าตัวเอ่อพูดถึงตัวภาพรวมของตัวธุรกิจสําหรับไตรมาส 4 ที่ผ่านมานะครับ เอ่อลูกค้าในกลุ่ม Export Agency ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือตัวของบริษัทแม่นะครับ บริษัทแม่เราไม่ได้ส่งออกโดยตรงแต่เราจะเป็นลักษณะ Export ก็คือกลุ่มลูกค้าเอาสินค้าของบริษัทแม่เราไม่ว่าจะเป็นภาชนะบรรจุหรือว่าเป็นชิ้นส่วนเนี่ยไปประกอบแล้วก็ส่งออกอีกทีนึงซึ่งก็ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรม Automotive อิเล็กทรอนิกส์นะครับ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวนะครับแล้วก็รวมทั้งอุตสาหกรรมบ้านเราที่รังหลักอยู่ในระหว่างช่วงปรับตัวเช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเดิมเราอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นลักษณะรถที่ใช้น้ํามันปัจจุบันก็เริ่มปรับมาเป็นรถ EV นะครับแต่ว่าในช่วงการปรับตัวนี้ก็จะทําให้ยอดขายของอุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบด้วยรวมทั้งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เดิมบ้านเราจะเป็นฐานอิเล็กทรอนิกส์สําหรับพวกตัวฮาร์ดดิสก์ต่างๆซึ่งปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนเทคโนโลยีทําให้ใช้ฮาร์ดดิสก์น้อยลงนะครับแต่ว่าอิเล็กทรอนิกส์ก็มีการเติบโตแต่ว่ากําลังมีการเติบโตในของกลุ่มที่เป็นลักษณะใช้ตัวแผ่น PC มาประกอบเป็นตัวแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ใช้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งอันนี้ก็เริ่มได้รับ BOI และเข้ามาลงทุนจํานวนมากนะครับแต่ก็อาจจะใช้เวลาอีกปีสองปีข้างหน้าที่ จะเริ่มเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมในหมวดนี้นะครับ สําหรับตัว local consumption เองในไตรมาสที่ 4 ก็ปรับตัวดีขึ้นเพียงเล็กน้อยนะครับก็จากมาตรการกระตุ้นต่างๆที่ภาครัฐพยายามออกมา ก็เมื่อเทียบกับตัวไตรมาส 3 ไตรมาส 2 ก็เรียกว่าดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่ว่าก็ยังไม่เห็นภาพชัดเจนมากนักนะครับ ส่วนในเรื่องของตัว Raw Material ราคา Raw Material ก็ค่อนข้างทรงตัวนะครับสําหรับไตรมาสที่ 4 ก็เมื่อเทียบกับตัวต้นๆปีหรือกลางปีก็ถือว่าราคาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักนะครับ สําหรับในตอนไตรมาสที่ 1 ปีนี้นะครับตัวธุรกิจทางด้านส่งออกก็ยังค่อนข้างทรงตัวอยู่นะครับเพราะว่าจากเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวอยู่ถึงแม้ว่าเอ่อเราเริ่มเห็นภาพการขอ BOI เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมส่งออกบางอันพวกเกี่ยวกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างที่ตะกี้เรียนพวกแผ่น CBA PCBA นะครับ ที่เข้ามาลงทุนมากขึ้นก็มีแนวโน้มว่า ในช่วง 6 เดือนหรือปีนึงข้างหน้าเนี่ยพวกอุตสาหกรรมทางด้านนี้ก็น่าจะเริ่มเห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจนขึ้นนะครับ แล้วก็ใน quarter 1 เราก็พยายามนะครับที่จะขายสินค้าไปอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้เช่นพวกอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็กับเอ่อผู้ที่ค่ายรับการส่งเสริมเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจํานวนมากเช่นผู้ผลิตจากประเทศจีนนะครับ ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นการ move ของนักธุรกิจจากจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเนื่องจากว่าทางด้านประเทศจีนกับทางด้านสหรัฐก็มีเรื่องของการกิจการทางการค้าอยู่ทางจีนก็พยายามมาลงทุนในพวกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นลงทั้งไทยด้วยนะครับโดยเฉพาะในพวกสินค้าพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆนะครับที่เราเห็นพวกทางด้านตู้เย็นหรือว่าเอ่อแอร์ต่างๆนะครับ งั้นเราก็จะมีที่จะได้รับงานทางด้านเกี่ยวกับชิ้นส่วนพลาสติกเกี่ยวกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นนะครับ ส่วนในเรื่องของตัว การบริโภคในประเทศนะครับ ก็ยังค่อนข้างทรงตัวนะครับเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 นะครับถึงแม้ภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นต่างๆออกมานะครับแต่ว่าก็อาจจะเห็นผลได้ไม่ชัดเจนนักเพราะว่าตัวเศรษฐกิจโลกที่ซบเซารวมทั้งตัวการปรับโครงสร้างของตัวธุรกิจของประเทศไทยเองที่อาจจะต้องใช้เวลาในการที่จะสามารถดึงดูดตัวธุรกิจใหม่ๆเข้ามาแล้วก็สามารถเห็นผลได้อย่างจริงจังนะครับ อันนี้ก็เป็นตัวภาพรวมของตัวธุรกิจของสาลี่อุตสาหกรรมนะครับสําหรับในเอ่อไตรมาสที่ 4 รวมทั้งปี 2567 นะครับ ขออนุญาต เดี๋ยวขออนุญาตไปที่คําถามดีกว่านะครับเพราะวันนี้เราคงสรุปกันหมดแล้วนะครับ คําถามแรกนะครับมีถามว่า ในปี 2568 นี้ผลการงานของบริษัทแม่จะเป็นอย่างไร เอ่อเท่าที่เราประเมินนะครับตัวบริษัทแม่ผลประกอบการหรือผลการงานน่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นนะครับเพราะว่าผลกระทบจากอุตสาหกรรมของบริษัทแม่เราเนื่องจากเราเป็น OEM แล้วก็อุตสาหกรรมที่เราอยู่ดั้งเดิมเนี่ยเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมเองนะครับไม่ว่าพวกรถยนต์หรืออิเล็กทรอนิกส์ก็ตามอย่างที่ได้เรียนไปตอนต้นนะครับซึ่งปัจจุบันก็เริ่มมีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆที่เป็นแนวโน้มธุรกิจที่เติบโตเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนะครับลงทั้งอุตสาหกรรมที่ บอกว่าหลีกเลี่ยงการกีดกันทางการค้านะครับเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นเพราะงั้นตัวลักษณะงาน OEM ที่เราได้รับก็เห็นเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นของบริษัทแม่นะครับ ซึ่งเราเชื่อว่าในปี 68 นี้ก็น่าจะเริ่มเห็นการเติบโตได้ดีขึ้นนะครับ มีคําถามว่าที่ผ่านมามีการส่งออกไปต่าง ประเทศหรือไม ่ส่วนใหญ่ อย่างที่เรียนครับว่าถ้าของบริษัทสาลี่อุตสาหกรรมเองเราจะลักษณะเป็น export ก็คือเราขายให้กับผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทข้ามชาติในประเทศไทยเราเค้าก็เอาไปผลิตชิ้นงานหรือเอาไปประกอบเป็นชิ้นงานแล้วก็ส่งออกไปอีกทีนึงหรือใช้เป็นภาชนะบรรจุเพื่อส่งออกไปอีกทีนึง ส่วนที่ส่งออกโดยตรงจริงๆก็ส่วนใหญ่ก็จะมีของบริษัทสาลี่พริ้นติ้งนะครับที่เป็นฉลากสินค้าก็ส่งออกไปที่พม่านะครับแต่ก็ไม่ได้เยอะแล้วก็มีของตัวเพชรสยามที่ส่งออกไปที่ออสเตรเลียกับที่อังกฤษนะครับ ถ้าเทียบสัดส่วนของทั้งกลุ่มยอดส่งออกน่าจะไม่ไม่เกิน 5% นะครับ เอ่อสภาพการแข่งมีคําถามว่าสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไรบ้างนะครับ เอ่อถ้าถ้าเทียบแล้วตัวสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมถ้าเป็นทางด้านของบริษัทแม่ที่เป็นรับจ้างผลิตเนี่ยก็การแข่งขันอาจจะไม่ได้รุนแรงมากแต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสภาพตัวกลุ่มที่เป็นลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆเหล่านั้นทําให้มีการชะลอตัวของอุตสาหกรรมที่เรา รับจ้างผลิตอยู่ซึ่งเราก็ต้องพยายาม หรือ หา กลุ่ม ลูก ค้าใหม่ ๆ เพิ่ม ขึ้น นะ ครับ ส่วน ทาง ด้าน ธุรกิจ ฉลาก สินค้า ก็ จาก แนวโน้ม ปี ที่ ผ่าน มา ก็ ยัง เติบโต ได้ดี นะ ครับ ส่วน ทาง ด้าน ธุรกิจ เอ่อ ผลิต สินค้า พลาสติก ผ่าน โมเดิร์น เทรด ก็ หลัง จาก ช่วง โควิด ที่ ห้าง มี การ ปิด หรือ ชะลอ ตัว ไป หลัง จาก เปิด โควิด ก็ มี แนวโน้ม ดี ขึ้น ตาม ลําดับ นะ ครับ มี คํา ถาม ว่า บริษัท จะ มี เข้า ไป ร่วม ลง ทุน ใหม่ ๆ บ้าง หรือ ไม่ ตอน ณ ปัจจุบัน นี้ เรา ยัง ไม่ ได้ มี แผน การ ลง ทุน ใหม่ ๆ เพียง แต่ เรา ไม่ ปิด กั้น โอกาส อย่าง ที่ เรียน ว่า ตัว หนี้สิน ต่อ ทุน เรา ค่อน ข้าง ต่ำ นะ ครับ เพราะ งั้น ถ้า มี โปรเจค หรือ มี อะไร ดี เรา ก็ สามารถ ที่ จะ หยิบ มา ดําเนิน การ ได้ ทันที นะ ครับ การ ขึ้น ค่า แรง มี ผล กระทบ ต่อ บริษัท อย่าง ไร บ้าง หรือ ไม่ เนื่อง จาก ของ อุตสาหกรรม ของ ใน กลุ่ม บริษัท เรา ส่วน ใหญ่ จะ เป็น ไม่ ได้ เน้น การ ใช้ แรง งาน มาก เพราะ งั้น การ ขึ้น ค่า แรง ก็ มี ผล กระทบ บ้าง แต่ ว่า ก็ ไม่ ได้ มาก นะ ครับ ยิ่ง ถ้า เป็น ของ อย่าง บริษัท ลูก เรา สา รี พริ้นติ้ง เนี่ย ส่วน ใหญ่ จะ เป็น การ ใช้ เครื่อง จักร เนื่อง จาก เครื่อง จักร เป็น Capital Intensive คือ เครื่อง จักร ราคา สูง นะ ครับ ใช้ คน จํานวน ไม่ เยอะ การ ขึ้น ค่า แรง ขั้น ต่ำ ก็ ไม่ ได้ กระทบ เพราะ ส่วน ใหญ่ ก็ จะ เกิน ค่า แรง ขั้น ต่ำ แล้ว ส่วน ทาง ด้าน พลาสติก เอง ก็ มี ผล กระทบ บ้าง แต่ ว่า ก็ ไม่ ได้ มาก เพราะ ว่า ส่วน ใหญ่ เรา ไม่ ได้ มี การ ใช้ แรง งาน เยอะ นะ ครับ มี ถาม ว่า อยาก ทราบ สัด ส่วน ราย ได้ ใน ปี 67 สำหรับ แต่ ละ ธุรกิจ นะ ครับ เอ่อ สําหรับ สัด ส่วน ราย ได้ ของ แต่ ละ ธุรกิจ เรา เอ่อ ตัว บริษัท แม่ เอง ที่ เป็น ลักษณะ รับ จ้าง ผลิต ชิ้น งาน พลาสติก ถ้า เทียบ กับ ทั้ง กลุ่ม แล้ว ราย ได้ น่า จะ อยู่ สัก ประมาณ 25% นะ ครับ แล้ว ก็ ส่วน ทาง ด้าน เอ่อ สิน ขาย สินค้า พลาสติก ผ่าน โมเดิร์น เทรด ต่าง ๆ เมื่อ เทียบ กับ ราย ได้ ทั้ง กลุ่ม บริษัท น่า จะ อยู่ ที่ ประมาณ 30% แล้ว ก็ ธุรกิจ พิมพ์ ฉลาก สินค้า จะ อยู่ ที่ ประมาณ 45% นะ ครับ เพราะ งั้น จะ ส่วน ราย ได้ หลัก ของ กลุ่ม ก็ จะ ที่ ผ่าน มา ใน ปี ก่อน นี้ ก็ คือ จะ มา จาก ธุรกิจ พิมพ์ ฉลาก สินค้า เป็น หลัก ครับ คํา ถาม ว่า ปี 68 กลุ่ม บริษัท ตั้ง เป้า ราย ได้ เติบ โต อย่าง ไร คาด หวัง การ เติบ โต จาก ส่วน งาน ธุรกิจ ย่อย อย่าง ไร ครับ เอ่อ ใน ใน ส่วน ตั้ง เป้า การ เติบ โต อย่าง ที่ เรียน ว่า ของ บริษัท แม่ เอง เรา ก็ มี แนว โน้ม ว่า จาก กลุ่ม ลูก ค้า ที่ เริ่ม ได้ รับ บีโอ ไอ เข้า มา ลง ทุน ต่าง ๆ แล้ว ก็ การ เปลี่ยน โครง สร้าง ของ อุตสาหกรรม ไม่ ว่า อุตสาหกรรม ยาน ยนต์ เรา ก็ เห็น มี แนว โน้ม ที่ ดี ขึ้น เพราะ งั้น เรา ก็ คิด ว่า บริษัท แม่ ก็ น่า มี การ เติบ โต ได้ เพราะ ว่า ฐาน ปี ที่ แล้ว ค่อน ข้าง ต่ำ ส่วน ใน ของ บริษัท ลูก ไม่ ว่า ที่ ขาย พลาสติก ผ่าน โมเดิร์น เทรด ก็ หลัง จาก โควิด ก็ มี แนว โน้ม ดี ขึ้น นะ ครับ แต่ ก็ ต้อง ยอม รับ ว่า ตัว กำลัง ซื้อ ใน ประเทศ ยัง อ่อนแอ อยู่ เพียง แต่ ว่า เมื่อ หลัง จาก โควิด มา มี การ เปิด ประเทศ มี กิจกรรม มาก ขึ้น มัน ก็ เริ่ม เริ่ม ดี ขึ้น เป็น ระดับ สําหรับ ตัว สินค้า พลาสติก ผ่าน โมเดิร์น เทรด นะ ครับ ส่วน ทาง ด้าน พิมพ์ ฉลาก สินค้า ก็ จะ เป็น ลักษณะ ตัว สินค้า ที่ อยู่ ใน กลุ่ม อุตสาหกรรม Consumer Product ซึ่ง ก็ ยัง มี แนวโน้ม การ เติบ โต ได้ดี นะ ครับ จาก ที่ เห็น ใน ใน ช่วง ปี ที่ ผ่าน มา ครับ มี คํา ถาม ว่า Quarter 1 ปี 68 ผล ประกอบ การ แนว โน้ม เป็น อย่าง ไร เมื่อ เทียบ Year on Year กับ Q on Q คือ ถ้า เทียบ Q on Q เมื่อ เทียบ ไตรมาส 4 ปี ที่ แล้ว ก็ เอ่อ น่า จะ ดี ขึ้น กว่า พอ สม ควร นะ ครับ เพราะ ว่า อย่าง ที่ เรียน ว่า ใน แต่ ละ ตัว ก็ มี แนว โน้ม ที่ ยัง เติบ โต ได้ นะ ครับ แม้ ว่า อาจ จะ เติบ โต ไม่ ได้ เยอะ ใน บาง ส่วน แต่ ว่า เมื่อ เมื่อ เทียบ กับ ที่ ผ่าน มา ก็ คิด ว่า ยัง อยู่ ใน เทรน ที่ เติบ โต ขึ้น นะ ครับ ส่วน ถ้า เทียบ กับ ปี ก่อน ก็ ยัง น่า จะ มี แนว โน้ม ที่ ดี นะ ครับ เมื่อ เทียบ กับ ปี ปี ที่ แล้ว เพราะ ว่า อย่าง ที่ เรียน ครับ ว่า อุตสาหกรรม หลาย ๆ อัน ที่ เรา เริ่ม ไป ทํา ก็ เริ่ม เห็น ผล ว่า ตัว กลุ่ม ลูก ค้า ก็ เริ่ม มี การ ขยาย เข้า มา ส่วน ใน ของ บริษัท ลูก จาก เอ่อ ตัว เลข ที่ ผ่าน มา ก็ เริ่ม ก็ มี ยัง มี แนว โน้ม เติบ โต ได้ อยู่ ครับ มี คำ ถาม ว่า ใน ปี นี้ กลุ่ม บริษัท มี แผน ขยาย การ ลง ทุน หรือ ไม่ แล้ว ก็ ตั้ง งบ ลง ทุน เท่า ไหร่ นะ ครับ เอ่อ เรา ใน แผน การ ลง ทุน ที่ จะ อย่าง ที่ บอก ว่า ถ้า จะ ไป ร่วม ลง ทุน เนี่ย ยัง ไม่ มี นะ ครับ แต่ แผน การ ลง ทุน ของ เรา ส่วน ใหญ่ ก็ จะ เป็น ลักษณะ การ ที่ อาจ จะ ซื้อ เครื่อง จักร ใหม่ ไป ทด แทน เครื่อง จักร เก่า หรือ ว่า ลง ทุน ใน กระบวน การ ที่ เสริม การ ผลิต เพื่อ ให้ มี ประสิทธิภาพ มาก ขึ้น นะ ครับ ของ ทั้ง กลุ่ม บริษัท เรา ก็ ตั้ง การ ลง ทุน ไว้ อยู่ ประมาณ 150 - 200 ล้าน นะ ครับ ใน การ ที่ จะ ลง ทุน เครื่อง จักร ต่าง ๆ แต่ ว่า ก็ อย่าง ที่ เรียน ว่า ตัว หนี้ สิน ต่อ ทุน เรา ค่อน ข้าง ต่ำ นะ ครับ เพราะ งั้น ถ้า เรา เห็น โอกาส หรือ ว่า มี โปรเจค ที่ ดี ๆ เข้า มา เรา ก็ สามารถ ที่ จะ มี การ ลง ทุน ที่ เพิ่ม มาก ขึ้น ได้ นะ ครับ มี คํา ถาม ว่า สินค้า consumer Product ที่ เป็น ลูก ค้า ของ บริษัท ใน ปี นี้ โดย รวม มี แนว โน้ม เติบ โต หรือ หด ตัว ครับ เอ่อ ถ้า เป็น consumer Product ส่วน ใหญ่ ถ้า เป็น ลูก ค้า ก็ จะ เป็น ลูก ค้า ของ กลุ่ม สินค้า เกี่ยว กับ ฉลาก สินค้า ซึ่ง แนว โน้ม ตัว consumer Product ก็ ยัง มี แนว โน้ม เติบ โต ได้ดี นะ ครับ ถ้า เห็น ตัว ราย ได้ ของ ตัว บริษัท ลูก เรา ที่ ทำ พิมพ์ ฉลาก สินค้า ก็ เติบ โต ได้ ค่อนข้าง ดี นะ ครับ เพราะ ว่า ตัว consumer Product ที่ เป็น ลูก ค้า เรา ไม่ ใช่ เป็น consumer ใน ประเทศ เท่า นั้น เพราะ ว่า บริษัท ที่ ซื้อ ส่วน ใหญ่ เป็น บริษัท ข้าม ชาติ ที่ เป็น ตัว บริษัท ผลิต consumer Product ระดับ โลก นะ ครับ เพราะ ฉะนั้น สินค้า consumer Product ที่ ว่า ก็ คือ เอ่อ ขาย ทั่ว โลก ซึ่ง แนว โน้ม การ เติบ โต ก็ ยัง เป็น ไป ได้ ด้วย ดี อยู่ ส่วน ตัว สินค้า ที่ ขาย ใน ประเทศ ที่ อาจ จะ ไป ถึง ผู้ บริโภค ก็ คือ สินค้า พลาสติก ที่ ขาย ผ่าน Modern Trade ซึ่ง ที่ ผ่าน มา ปี ที่ แล้ว ก็ เติบ โต ได้ ดี นะ ครับ แล้ว เรา ก็ มี การ พยายาม ออก สินค้า ใหม่ ๆ เพื่อ ที่ จะ ขยาย ตลาด ใน กลุ่ม ลูก ค้า Modern Trade เหล่า นี้ ด้วย นะ ครับ การ มี คํา ถาม ว่า การ ใช้ กําลัง ผลิต ของ แต่ ละ อุตสาหกรรม ใน ปี 67 ที่ ผ่าน มา เป็น อย่าง ไร บ้าง นะ ครับ เอ่อ สําหรับ ตัว การ เอ่อ ใช้ กําลัง การ ผลิต ถ้า ตัว ของ บริษัท แม่ เอง เรา น่า จะ ใช้ อยู่ ประมาณ สัก 60% นะ ครับ ส่วน บริษัท ลูก คือ สาลี่ พริ้นติ้ง ที่ ทํา ฉลาก สินค้า เนี่ย น่า จะ ใช้ อยู่ ที่ ประมาณ 80-85% ก็ ค่อน ข้าง เยอะ นะ ครับ ส่วน ถ้า เป็น ของ ทาง ด้าน เพชร สยาม ประเทศ ไทย จะ ใช้ อยู่ ที่ ประมาณ 70-75% ครับ มี คำ ถาม เกี่ยว กับ เป้า หมาย การ เติบ โต ของ ธุรกิจ ใน ปี 68 เป็น อย่าง ไร บ้าง อย่าง ที่ เรียน ครับ ว่า แนว โน้ม เอ่อ ของ ตัว แต่ ละ อุตสาหกรรม ก็ ยัง มี การ เติบ โต ได้ นะ ครับ ซึ่ง เรา ตั้ง เป้า ปี นี้ เติบ โต ไว้ อยู่ ที่ ประมาณ สัก 10% นะ ครับ ของ ทั้ง กลุ่ม นะ ครับ มี คํา ถาม บัดเจท การ ลง ทุน ใน ปี 68 กำหนด ไว้ อย่าง ไร ตะกี้ ได้ เรียน ไป แล้ว นะ ครับ ว่า เรา อาจ จะ ไม่ ยัง ไม่ มี แผน การ ไป ร่วม ลง ทุน หรือ ลักษณะ นั้น แต่ ว่า จะ ลง ทุน สําหรับ ตัว เอ่อ เครื่อง จักร ใหม่ ๆ ที่ สามารถ ที่ จะ ทํา ให้ การ ผลิต เรา มี ประสิทธิภาพ มาก ขึ้น นะ ครับ เพื่อ ทด แทน เครื่อง จักร เก่า หรือ ว่า ตัว กระบวน การ ที่ เอา มา ช่วย ใน การ ผลิต ให้ เรา มี ต้น ทุน ที่ ต่ำ ลง อะไร เป็น ลักษณะ นั้น มาก กว่า ซึ่ง ใน ปี นี้ เรา ก็ ตั้ง เป้า ตัว บัดเจ็ต สำหรับ การ ลง ทุน ของ ทั้ง กลุ่ม บริษัท อยู่ ที่ ประมาณ 150-200 ล้าน นะ ครับ ครับ ครับ ก็ สําหรับ คํา ถาม ก็ วัน นี้ ก็ หมด แล้ว นะ ครับ ก็ สําหรับ วัน นี้ ก็ เป็น Opportunity Day สําหรับ ปี 2567 นะ ครับ ก็ บริษัท จะ พยายาม มา พบ กับ ทาง ด้าน ท่าน นัก ลง ทุน แล้ว ก็ ผู้ ถือ หุ้น บริษัท อยู่ เป็น ประจํา นะ ครับ สําหรับ วัน นี้ ก็ คง ต้อง ขอ จบ เพียง เท่า นี้ แล้ว ก็ ขอบคุณ ท่าน นัก ลง ทุน และ ผู้ ถือ หุ้น ทุก ท่าน ที่ ให้ ความ สน ใจ เข้า มา ดู Opportunity Day ของ บริษัท นะ ครับ ขอบพระคุณ ครับ สวัสดี ครับ ### สรุปภาพรวม

โดยสรุปแล้ว สาลี่อุตสาหกรรมยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม บริษัทฯ มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงเพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนในอนาคต

## ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [1:01:42] * ปี 2568 ผลการงานของบริษัทแม่จะเป็นอย่างไร * น่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้น เพราะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ที่เติบโตเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น * ที่ผ่านมามีการส่งออกไปต่างประเทศหรือไม่ * ส่วนใหญ่เป็น Indirect Export คือขายให้บริษัทข้ามชาติในไทย แล้วเขาส่งออกต่อ สัดส่วนการส่งออกโดยรวมไม่เกิน 5% * สภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร * การแข่งขันไม่รุนแรงมาก แต่มีการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้ต้อง Diversify หาลูกค้าใหม่ * บริษัทจะมีเข้าไปร่วมลงทุนใหม่ๆ บ้างหรือไม่ * ยังไม่มีแผน แต่ไม่ปิดกั้นโอกาส หากมีโปรเจกต์ดีๆ ก็พร้อมดำเนินการ * การขึ้นค่าแรงมีผลกระทบต่อบริษัทอย่างไรบ้างหรือไม่ * มีผลกระทบบ้าง แต่ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักร (Capital Intensive) และจ่ายค่าแรงเกินขั้นต่ำอยู่แล้ว * อยากทราบสัดส่วนรายได้ในปี 67 สำหรับแต่ละธุรกิจ * บริษัทแม่ (รับจ้างผลิต): 25%, ขายสินค้าพลาสติกผ่าน Modern Trade: 30%, พิมพ์ฉลากสินค้า: 45% * ปี 68 กลุ่มบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างไร คาดหวังการเติบโตจากส่วนงานธุรกิจย่อยอย่างไร * บริษัทแม่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการลงทุนของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ, บริษัทลูก (ขายพลาสติก) ดีขึ้นหลังโควิด แต่กำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ, พิมพ์ฉลากสินค้ายังเติบโตได้ดีในกลุ่ม Consumer Product * Quarter 1 ปี 68 ผลประกอบการแนวโน้มเป็นอย่างไรเมื่อเทียบ Year on Year กับ Q on Q * Q on Q น่าจะดีขึ้นกว่าพอสมควร, Year on Year ก็ยังน่าจะมีแนวโน้มที่ดี จากการ Diversify และการเติบโตของบริษัทลูก * ในปีนี้กลุ่มบริษัทมีแผนขยายการลงทุนหรือไม่ แล้วก็ตั้งงบลงทุนเท่าไหร่ *