SABINA
บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

```html Oppday SABINA สรุปข้อมูลสำคัญจากผู้บริหาร

ไขความลับ SABINA ทำไมกำไร Q4 ถึงลดลง? พร้อมเปิดกลยุทธ์ปี 2565

สวัสดีครับ รอบนี้เป็นการสรุปผลประกอบการปิดปีของ SABINA รวมถึงไตรมาส 4 และเป็นการเปิดตัว CFO ใหม่

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

คำถามสำคัญคือทำไมไตรมาส 4 กำไรน้อยลง ซึ่งเป็นไตรมาสแรกในรอบประวัติศาสตร์ที่กำไรลดลง และทำไมทั้งปี Net Profit Margin อยู่ที่ 13% แต่ได้จริงประมาณ 12% กว่า

คำตอบคือมี One-Time Loss ในช่วงไตรมาส 4 จากการที่ไม่มีโรงงานบุรีรัมย์แล้ว เนื่องจาก OEM ลดลง สินค้าที่ผลิตเองส่วนใหญ่เป็น OEM และสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ รวมทั้ง High Fashion สินค้าทั่วไปใช้นำเข้าจากต่างประเทศ

โรงงานบุรีรัมย์ถูก Downsize โดยควบรวมไปที่ยโสธร ทำให้ยโสธรเป็นโรงงานหลักและใหญ่ การทำครั้งนี้มีการเตรียมการมาตลอดตั้งแต่ต้นปี พอถึงไตรมาส 4 ต้องชดเชยพนักงาน บางส่วนย้ายตามไปยโสธร แต่ประมาณ 150 คนไม่ได้ย้าย ทำให้ต้องใช้จ่ายในค่าชดเชยพนักงานตามสวัสดิการ ส่งผลให้เกิด One-Time Loss ใน Q4

สิ่งนี้จะส่งผลดีคือไม่ต้องเสียค่าเช่าโรงงาน (โรงงานบุรีรัมย์เป็นโรงเช่า) ในขณะที่ยโสธรเป็นเจ้าของ และยังมีพื้นที่ขยายไลน์ผลิตในอนาคตได้ และจะประหยัดต้นทุนพนักงานใน Q4 ซึ่งจะสะท้อนใน Q4 ปีนี้ เพราะเป็นแค่ One-Time Loss

ค่าชดเชยที่จ่ายหนักเมื่อปลายปีทำให้กำไร Q4 ลดลง แต่โดยทั้งปีก็ยังกำไรมากกว่าปีที่แล้ว ทางคุณวาจาจะโชว์ตัวเลขให้ดู ข้อดีคือแต่ละเดือนจะ Save ประมาณ 2 ล้านบาท จากการลด Location ไป 1 แห่ง อีกเรื่องคือเรื่อง 400 บาท ที่ภาครัฐไม่อนุมัติตามที่เกิดขึ้น ทำให้เพิ่มขึ้นแค่ 2% แทนที่จะเป็น 14% ทำให้การเตรียมการที่พนักงานออกแล้วไม่รับทดแทนมาเกือบ 10 กว่าเดือน ตั้งแต่รัฐบาลหลังเลือกตั้งเป็นต้นมา ใช้วิธีเพิ่ม Competency คน เพิ่ม Multi Skill คน และเน้น Training เพื่อให้คนทำได้หลายหน้างาน รวมทั้งควบรวมบางแผนกบางส่วนบางฝ่ายเข้าร่วมกัน ทำให้ปีที่ผ่านมาจำนวนพนักงานลดลงถึง 550 คน ช่วยให้ต้นทุนโรงงานต่ำลง

ใน 150 คนที่บุรีรัมย์ก็อยู่ภายใต้ 550 คน ดังนั้นการเตรียมตัวกลายเป็นการเกิดผลดีต่อต้นทุน เพราะ 400 บาทไม่ได้มาตามนัด

สภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรตลอดจนหลายๆ เรื่อง จริงๆ Presentation เรามีครบทุกเรื่องให้ไปเปิดดูแต่วันนี้เราจะเน้นพูดเฉพาะที่เป็น Highlight ครับ

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

แต่ละเดือนจะ Save ประมาณ 2 ล้านบาท จากการลด Location ไป 1 แห่ง อีกเรื่องคือเรื่อง 400 บาท ที่ภาครัฐไม่อนุมัติตามที่เกิดขึ้น ทำให้เพิ่มขึ้นแค่ 2% แทนที่จะเป็น 14%

ค่าใช้จ่ายของบริษัทลดลง หลังจากย้ายฐานการผลิตไปยังยโสธร ทำให้ไม่ต้องเสียค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากโรงงานเดิม

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

การอนุมัติ 400 บาทยังไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้

เศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขันสูง ทำให้ต้องปรับตัวอยู่เสมอ

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

การปรับลดจำนวนพนักงานและการเพิ่ม Competency ของพนักงานที่มีอยู่

การเน้น Training เพื่อให้พนักงานทำงานได้หลายหน้างาน และการควบรวมบางแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การต่อรองไม่ชำระ Deposit ทำให้มีตัวช่วยตรงนี้

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและระมัดระวัง โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 41:00]

  1. คำถาม: ทำไม NSR ถึงยอด Drop เยอะมาก ๆ มีอะไรผิดปกติหรือไม่?

    คำตอบ: ช่องทางการขายแต่ละช่องทางมี Life Cycle ไม่เหมือนกัน ใน Q4 มักจะ Drop ลงจาก Q1-3 เป็นเรื่องปกติของช่องทางนี้ เนื่องจากเป็นงาน Project ที่ปิดจบใน Q4 และเริ่มต้น Project ใหม่ต้นปี ทำให้รายได้ Q4 ย่อลง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติ

  2. คำถาม: AP (Account Payable) ที่ดีขึ้นเป็น 49 วัน จะเป็น 49 วันตลอดไปหรือไม่?

    คำตอบ: ช่วงนี้จะอยู่ที่ 49 วัน อนาคตอาจมีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง แต่คงไม่ต่างจากนี้เยอะ เพราะที่ผ่านมาบริษัทใจดีจ่ายเงินเร็ว แต่ตอนนี้ควบคุมเรื่องพวกนี้มากขึ้น คิดว่าน่าจะดีขึ้น

  3. คำถาม: รายได้จาก OEM จะกลับมาเป็นปกติแล้วใช่ไหม?

    คำตอบ: คิดว่าดีขึ้นในตัวลูกค้าเดิมที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ เนื่องจากเขาเบรกการซื้อเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตอนนี้ Inventory เขาค่อนข้างคล่อง ผลกระทบจากจีนที่ Western กลัวว่าจะมีภาษีขึ้น ก็เริ่มหันมาผลิตในเมืองไทยเพิ่มขึ้น

  4. คำถาม: ปีใหม่นี้มองว่า OEM น่าจะโตสัก 10% จากปีที่แล้ว การที่ปิดบุรีรัมย์ บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่าไร?

    คำตอบ: บอกไปแล้วว่าประมาณ 2 ล้านต่อเดือน

  5. คำถาม: นโยบายการลดคนยังเน้นอยู่ไหม?

    คำตอบ: ปล่อยเป็นตามธรรมชาติ เรื่อง Training Competency ยังเน้นอยู่ ตำแหน่งไหนที่ออกแล้วสร้างทดแทนได้ภายในจะไม่เพิ่มทดแทน แต่บางตำแหน่งที่จำเป็นและสำคัญก็ยังคงรับอยู่ โดยเฉพาะตำแหน่งของอาชีพใหม่ ๆ

  6. คำถาม: แนวโน้มที่ฟิลิปปินส์จะได้ Growth ตามเป้าหมายไหม?

    คำตอบ: จะดีขึ้นแน่นอน

  7. คำถาม: การตั้งสาขา Stand Alone ในเมืองไทยต้องใช้เงินลงทุนเท่าไรและปกติ Break Even ภายในเท่าไร?

    คำตอบ: ใช้เงินลงทุนพวก Fixture Decoration ประมาณ 2 ล้าน ไม่รวมค่าเช่า คิดว่า Break Even ไม่เกินครึ่งปี

  8. คำถาม: ปีนี้มีแผนลดคนอีกหรือไม่?

    คำตอบ: กล่าวไปแล้ว

  9. คำถาม: ตามปกติสัดส่วนของ NSR ที่แสดงใน Presentation ของ Oppday บริษัทแสดงเป็นรายไตรมาสหรือยอดสะสม?

    คำตอบ: เป็นยอดสะสม

  10. คำถาม: บริษัท SABINA มีกลยุทธ์อย่างไรในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเพื่อรักษาฐานลูกค้า?

    คำตอบ: กล่าวไปเยอะแล้ว

  11. คำถาม: ในปัจจุบันบริษัท SABINA เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าไหนเป็นหลักและมีแผนอย่างไร?

    คำตอบ: ลองฟัง Oppday อีกรอบ

  12. คำถาม: บริษัทมีการปรับตัวอย่างไรกับสังคมคนสูงวัยในประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ยอดขายลดลง?

    คำตอบ: จับ Target ของ Forever Young เมื่อไตรมาส 3 ปีที่แล้ว และในระยะยาวถึงได้ไปฟิลิปปินส์ เศรษฐกิจไทยที่โตต่ำ หนี้สินครัวเรือนสูง ก็อยู่ที่การ Set Pricing และทำให้ตัวเราล้อไปตามซื้อง่ายขายคล่อง ตามสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจเราและคนของเรา

  13. คำถาม: คู่แข่งรอบตัวโดยเฉพาะจีน มีการแข่งด้านราคาและสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนแค่ไหน?

    คำตอบ: ให้ CEO แชร์ความเห็น

  14. คำถาม: กรุณาชี้แจงว่าเหตุผลที่ยอดขายแบรนด์ SABINA ตลาดในประเทศไทย โดยแยกยอดขายแบรนด์ผ่านช่องทาง NSR ออกจากช่องทาง Shop ซึ่งที่แท้จริงแล้วลูกค้ามีการปรับพฤติกรรมการซื้อ ทำให้
    นักลงทุนมีความเข้าใจผิดว่ายอดขายแบรนด์ลดลง

    คำตอบ: ยอดขายแบรนด์ยังไม่ได้ลดลง ไม่ว่าจะเป็น NSR หรือ Offline ที่ตาม Department Store หรือ Stand Alone Shop ก็กลับเพิ่มขึ้นที่ 5.9% ทุนคุณดวงดาวมีเสริมไหมครับ เพื่อให้ชัดเจนขึ้นครับ

  15. คำถาม: ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเท่าไร?

    คำตอบ: ภาพของเป้าหมายการขาย เราเชื่อว่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว พยายามทำให้ Growth อยู่ประมาณ 5-10%

  16. คำถาม: จะใช้ AI มาช่วยพัฒนาการจัดการบริษัทอย่างไรบ้าง?

    คำตอบ:AI มันไม่ใช่เป็นปีแรกที่เราพยายามจะใช้ เราก็ เราก็พยายามคุ้นเคยแล้วก็รู้จักเขาให้มากขึ้นเนี่ยมาหลายปีแล้วนะ คะแล้วก็ต้องบอกว่าวันเนี้ย Sabina เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เรา ให้ความสำคัญในเรื่องของเทคโนโลยีต่างต่างเหล่า นี้นะคะเรา ไม่ได้เชื่อว่าเทคโนโลยีจะมาทดแทนมนุษย์ นะคะแต่เราเชื่อว่ามนุษย์ที่ไม่รู้เทคโนโลยีจะถูก ทดแทนด้วยคนที่รู้เทคโนโลยีนี่ นะคะนี่คือเหตุผลที่เราให้ความสำคัญในเรื่องของ AI นะคะ แล้วก็ภาพของการเข้ามาถ้าวันนี้มีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยม ชม Sabina นะคะ อยากให้ใครที่ยังไม่เคยมาก็อยาก ให้ลอง ลองหาโอกาสนะคะมาเยี่ยมชมดูนะคะแล้วเรา จะเห็นว่าเรา เอ่อได้มีการปรับเอาเทคโนโลยีเนี่ยมาใช้ งานอย่างไรนะคะเรา ไม่ได้ซื้อ เอ่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้วมา ปลั๊กอินนะคะแต่เรา Develop เทคโนโลยีตาม ตามความเป็นอยู่ของเราจริงๆอ่ะค่ะแล้วก็ ทําให้มันเกิดประโยชน์ในการที่จะเอาเทคโนโลยีมาเป็น ตัวช่วยนะคะมา ทํางานที่มนุษย์ไม่ต้องทําให้เร็วขึ้นมาทํา Visualization ให้ชัดขึ้นนะคะมา เร่งกระบวนการต่างๆให้เร็วขึ้นนะคะเรา ก็ใช้วิธีนี้โดยที่ เราเทคโนโลยีเรียกง่ายๆคือเราเอาเทคโนโลยีมา ช่วยในเรื่องของการทําลีนของเราอ่ะค่ะ ให้มัน ให้มันง่าย ไม่เป็นภาระของคนนะคะแล้วก็ นําภาพเนี้ยมาใช้ไม่เฉพาะในเรื่องของการผลิต เท่านั้นแต่เรา เอามาใช้เยอะๆในเรื่องของการทํา ในเชิงของหน้า ร้านทุกๆหน่วยงานนะคะ ขนาด ทีมไฟแนนซ์ของเรา ทีม ทีมบัญชีของเราซึ่งอาจจะดูว่า เอ๊ะจริงๆต้องใช้ AI ด้วยหรอในปัจจุบันเขาก็ เขาก็ถูกนะคะเขาก็ถูกให้เรียนรู้นะคะ แล้วเขาก็นํามาใช้ในการกระบวนการทํางาน นะคะแล้วก็จาก Feedback ที่เราได้รับเนี่ย คนส่วนมากถ้ารู้จักและใช้ เป็นนะคะจะแฮปปี้กับการใช้และมี AI เป็นเพื่อนนะคะ แต่ว่าคนจะเริ่มต้นด้วยความกลัวเพราะว่ายังไม่รู้ ว่าใช้ยังไงแค่นั้นเองนะคะในหน่วยงานของเราใช้ เรียกได้ว่าเกือบทุกหน่วยงานแล้วอ่ะ นะคะเชื่อว่ายังยังมีการเอ่อยัง ใช้ AI แล้วก็ยัง ต้องพัฒนาให้เพิ่มใช้ขึ้นนะ ทุกวันนี้หมวยยังต้องไป เรียนการใช้ AI อยู่เลยเพื่อเราจะได้เข้าใจว่า เอ่อ AI มันช่วยเรื่องของอะไรได้บ้างและเราต้องเข้าใจ ลูกน้องของเราเนาะว่าลูกน้องของเราสามารถใช้ AI ไป ทําอะไรนะคะในส่วนนี้ก็จะเห็นภาพในส่วนของการ Investment ซึ่งเราก็ Invest ในการซื้อระบบหรือว่าใช้ งานการ implementation ต่างๆที่เกี่ยวกับ AI พอสมควรค่ะ"

  17. คำถาม: มีโอกาสที่จะเห็นควบรวมโรงงานหรือไม่?

    คำตอบ: คิดว่ามีโอกาสแต่ไม่ใช่ในระยะสั้น แม้การ Outsource การไปผลิตต่างประเทศน่าจะให้ต้นทุนที่ดีกว่า แต่เราก็ไม่รู้ว่า Geo-Politic โลกเป็นยังไง อย่างไรเราก็ยังคงรักษาโรงงานเราเอาไว้

สรุปแล้ว SABINA ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

```