สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน): ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567

บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ในไตรมาส 2 ปี 2567 มีผลประกอบการที่น่ากังวล โดยบริษัทขาดทุนสุทธิ 584.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.13 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) จาก 4,681.5 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 751.7 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการโอนห้องชุดในโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ และ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ ได้ทยอยหมดลง รายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาส 2 ปี 2567 ลดลงเป็น 5.8 ล้านบาท จาก 9.0 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ค่าเช่าและบริการในงวด 6 เดือน ปี 2567 เปรียบเทียบกับปี 2566 ลดลง 2.3 ล้านบาท จาก 17.7 ล้านบาท เป็น 15.4 ล้านบาท

แผนธุรกิจในอนาคตของ RML มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ เนื่องจากบริษัทได้สังเกตเห็นว่าผู้ซื้อในกลุ่มสินค้าระดับลักชัวรี่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไม่มากนัก นอกจากนี้ RML ยังคงเน้นการบริหารจัดการโครงการที่มีอยู่เพื่อรักษาผลตอบแทนจากการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่จะตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฟื้นตัวขึ้นในอนาคต

RML มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เท่ากับ 0.99 เท่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม การที่ D/E ลดลงจาก 1.06 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อาจสะท้อนถึงการใช้เงินสดที่มากขึ้นในการดำเนินงาน บริษัทยังมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2566 ที่ติดลบ 498.0 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการใช้เงินสดในการดำเนินงานที่มาก แม้ว่าจะมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนในปี 2566 เป็นบวก 454.8 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียน

ในแง่ของ P/E, P/BV และ YIELD นั้น RML ไม่มีข้อมูลในช่วงเวลาที่ผ่านมา และล่าสุด P/E ติดลบ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่ค่อยเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัท รวมถึงราคาหุ้นเฉลี่ยของ RML ในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในปี 2556 โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.36 บาท ถือว่าต่ำมาก

โดยรวมแล้ว RML อาจไม่ใช่โอกาสการลงทุนที่น่าดึงดูดในปัจจุบัน เนื่องจากผลประกอบการที่น่ากังวล ราคาหุ้นที่ต่ำ และข้อมูลการเงินที่บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของธุรกิจ แม้ว่าบริษัทจะมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและแผนธุรกิจที่ชัดเจนก็ตาม RML อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้นโดยคาดหวังว่าบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นในอนาคต แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว RML อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากความเสี่ยงที่สูง และผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน


**โอกาส**

* การมุ่งเน้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ อาจช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
* ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอาจช่วยให้ RML มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
* การพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อาจช่วยเพิ่มรายได้และกำไรของบริษัท
* การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร

**ความเสี่ยง**

* ผลประกอบการที่น่ากังวลอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
* ราคาหุ้นที่ต่ำอาจส่งผลต่อการระดมทุนในอนาคต
* การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่รุนแรงอาจส่งผลต่อผลกำไรของบริษัท
* ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อความต้องการอสังหาริมทรัพย์
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบสะท้อนถึงการใช้เงินสดที่มากและอาจส่งผลต่อการลงทุนในอนาคต
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเป็นบวกแสดงถึงการขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียน ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีในการทำธุรกิจ

โดยสรุป RML อาจเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น แต่ความเสี่ยงที่สูงและผลตอบแทนที่ไม่แน่นอนอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว