สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (PTL): ไตรมาส 2/2566 - ผลประกอบการยังคงได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลก และการลงทุนในสหรัฐอเมริกา

บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (PTL) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2566 โดยมีรายได้รวม 5,106 ล้านบาท ลดลง 30.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 135 ล้านบาท ลดลง 80.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายฟิล์มโดยรวมลดลง 8% จากความต้องการที่ชะลอตัวลงในตลาดโลก โดยเฉพาะฟิล์มพื้นฐานและฟิล์มเคลือบปลายนำ เช่น ฟิล์มเคลือบซิลิโคน อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

**การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญด้านงบดุล**

* **สินทรัพย์หมุนเวียน** ลดลง 426.1 ล้านบาท หรือลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ
* **สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน** เพิ่มขึ้น 353.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกันที่บริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซีย และการลงทุนในที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์
* **หนี้สินรวม** ลดลง 173.1 ล้านบาท หรือลดลง 4% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 สาเหตุหลักมาจากการชำระคืนเงินกู้ยืมที่บริษัทย่อยในอินโดนีเซีย และบริษัทย่อยที่ประเทศไทย รวมถึงการจ่ายชำระเงินสกุลเงินยูโรล่วงหน้าโดยบริษัทย่อยที่อินโดนีเซีย
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น** เพิ่มขึ้น เนื่องจากกำไรจากการแปลงงบแสดงฐานะการเงินของบริษัทย่อย จากการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเงินยูโร เงินเหรียญสหรัฐอเมริกา และเงินรูเปียอินโดนีเซีย

**แผนธุรกิจในอนาคต**

PTL มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และควบคุมต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด บริษัทกำลังลงทุนในโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ สายการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง และสายการผลิตฟิล์ม PET ชนิดหนา ในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2 ปี 2567-68

**PTL เป็นโอกาสการลงทุนหรือไม่?**

จากการวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง พบว่า PTL มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 36.22 และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.54 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เทียบกับราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10-15 บาท สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการเติบโตในอนาคตของบริษัท ถึงแม้กำไรสุทธิในไตรมาสล่าสุดจะลดลงก็ตาม

นอกจากนี้ PTL มี D/E ล่าสุดที่ 0 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินที่ไม่มีภาระหนี้สิน ทำให้มีความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจหรือลงทุนในอนาคต ส่วนเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 490 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดได้ดี อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาติดลบ หมายถึงบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว หากการลงทุนไม่ประสบความสำเร็จ

**โอกาส**

- บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้สิน
- การขยายตลาดไปสู่ตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาคเอเชีย
- ความต้องการของฟิล์ม PET มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว
- การลงทุนในสหรัฐอเมริกา อาจช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรในอนาคต

**ความเสี่ยง**

- การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการของฟิล์ม PET
- การแข่งขันในตลาดฟิล์ม PET ที่รุนแรง
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
- การลงทุนในสหรัฐอเมริกา อาจไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

**สรุป** PTL เป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีความอดทนต่อความผันผวนของผลประกอบการ และมีความเชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการลงทุนของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสของการลงทุน

**หมายเหตุ:** บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์และไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทด้วยตนเอง ก่อนตัดสินใจลงทุน