สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการและวิเคราะห์หุ้น PSP (ฉบับปรับปรุงล่าสุด)

**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 และพัฒนาการสำคัญ**

บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้รวม 13,350.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า (12,257.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.92%) และมีกำไรสุทธิ 671.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2566 (427.54 ล้านบาท) โดยรายได้จากการขายคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 96 ของรายได้รวม การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ย ปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะการขยายไปยังประเทศใหม่ๆ) และการจำหน่ายวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น (ทั้งน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและสารเติมแต่ง) รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Solutions) ที่สำคัญคือการเข้าลงทุนใน บริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริง จำกัด และ บริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท ทริปเปิล เอส ลูบริแคนท์ จำกัด ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและผลิตภัณฑ์พิเศษสำหรับยานยนต์และอุตสาหกรรม

**แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต**

PSP วางแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับการเชื่อมโยงกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดได้ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และการพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

บริษัทฯ ตระหนักถึงความท้าทายจากการเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (760,217 คัน ณ สิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 43.6% จากปีก่อนหน้า โดยรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% มีจำนวน 227,490 คัน เพิ่มขึ้น 72.5%) แต่การเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัวลงเนื่องจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภคและราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม PSP คาดว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ EV อย่างสมบูรณ์ต้องใช้ระยะเวลา และบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับโอกาสนี้ โดยลงทุนพัฒนาห้องปฏิบัติการและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น น้ำมันหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี่ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค และจาระบีสำหรับ EV รวมถึงผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ PSP ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความยั่งยืน โดยจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานการพัฒนาความยั่งยืน เพื่อกำกับดูแลและขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายระยะสั้น (ภายในปี 2568) ระยะกลาง (ภายในปี 2570) และระยะยาว (ภายในปี 2572) โดยมีกรอบการดำเนินงานและตัวชี้วัดที่ชัดเจน กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนครอบคลุม 3 ด้านหลัก คือ ด้านเศรษฐกิจ (การสร้างโอกาสทางธุรกิจ การวิจัยและพัฒนา การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลกิจการที่ดี การสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการ และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน) ด้านสิ่งแวดล้อม (การลดการระบายก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การจัดการน้ำและของเสีย และการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ) และด้านสังคม (การพัฒนาทักษะความรู้ของบุคลากร การสร้างสังคมการทำงานที่มีคุณภาพสูง และการสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาชุมชน)

**โอกาสในการลงทุนและข้อควรพิจารณา**

PSP มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 427.54 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 671.67 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.49 และร้อยละ 5.03 ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลงจาก 1.15 เท่า เป็น 0.95 เท่า ณ สิ้นปี 2567 และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 0.58 เท่า เป็น 0.42 เท่า แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการหนี้สินที่มีประสิทธิภาพ การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น การรีไซเคิลสารเคมีและการตรวจ DNA มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตในระยะยาวและเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน ความไม่แน่นอนทางการเมือง การแข่งขันในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียานยนต์

**วิเคราะห์เพิ่มเติม**

* **รายได้และกำไร:** รายได้รวมสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้น 1,093.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.92 โดยรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 1,137.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.71 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น
* **กำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้น:** กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 1,364.48 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1,697.90 ล้านบาท ในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.44 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.13 เป็นร้อยละ 12.72 โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยทั้งในและต่างประเทศและปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
* **กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 427.54 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 671.67 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.49 และร้อยละ 5.03 ตามลำดับ
* **สินทรัพย์รวม:** สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 7,061.57 ล้านบาท เป็น 7,136.06 ล้านบาท โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เช่น การลงทุนในบริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด และบริษัท รีไซเคิลเอ็นจิเนียริง จำกัด
* **หนี้สินรวม:** หนี้สินรวมของบริษัทฯ ลดลงจาก 3,776.23 ล้านบาท เป็น 3,474.58 ล้านบาท โดยหลักมาจากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว

**โอกาส:**

* การเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในเอเชีย
* การสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล
* การลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน
* การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
* การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน
* ความไม่แน่นอนทางการเมือง
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่น
* ความเสี่ยงในการลงทุนในธุรกิจใหม่
* ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียานยนต์ (EV)

**คำเตือน:** การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน