สรุปงบล่าสุด PSH
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 5,743 ล้านบาท ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง ตามสภาพอุตสาหกรรมโดยรวมที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม รายได้จากกิจการโรงพยาบาลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ PSH จะเน้นไปที่การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในธุรกิจโรงพยาบาล โดยบริษัทฯ มุ่งหวังที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้คงที่ ในขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการปล่อยสินเชื่อบ้าน โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้รวมในปี 2567 จะเติบโตเพียงเล็กน้อยจากผลประกอบการในปี 2566 เนื่องจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
จากผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง พบว่า PSH มีอัตรากำไรสุทธิ 8.95% อัตรากำไรขั้นต้น 1,867 ล้านบาท และ D/E 0.57 โดย P/E และ P/BV ในปัจจุบันอยู่ที่ 19.71 และ 0.41 ตามลำดับ ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ปิดอยู่ที่ 12.57 บาท ซึ่งลดลงจากปี 2566 แม้ว่า PSH จะมี D/E ต่ำกว่า 1 แสดงถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แต่การที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน "ติดลบ" สะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจโรงพยาบาล ที่กำลังขยายกิจการและเพิ่มจำนวนเตียง ทำให้ PSH มี YIELD 11.93% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา และ outlook ในอนาคตของ PSH อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น ดังนั้น PSH จึงเหมาะกับนักลงทุนแบบ “ถือยาวรอการเติบโต” โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพของธุรกิจโรงพยาบาล ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ
**โอกาส**
* ธุรกิจโรงพยาบาลมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
* ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง D/E ต่ำกว่า 1
* อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) ในระดับที่น่าสนใจ
**ความเสี่ยง**
* สภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
* ค่าใช้จ่ายทางการเงินอาจเพิ่มขึ้น
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมโรงพยาบาลอาจรุนแรงขึ้น
**ข้อมูลเพิ่มเติม**
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ ณ 30 กันยายน 2567 ร้อยละ 2.91 และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นร้อยละ 2.02 ลดลงจาก 31 ธันวาคม 2566 เนื่องจากการลดลงของกำไรสุทธิซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดลงของรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก
* อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.57 เท่า ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.36 เท่า เพิ่มขึ้นจากสินปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมธนาคารตามกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อสร้างรายได้ประจำ
* กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานจำนวน 2,052 ล้านบาท และกระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนจำนวน 3,149 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนในกองทุน Wellness และการขยายการลงทุนในโครงการ Wellness ความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตร และการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน
* กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 1,033 ล้านบาท เพื่อใช้ในการชำระเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน หุ้นกู้ และจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ทำให้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีเงินสดคงเหลือจำนวน 1,840 ล้านบาท
* บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593
* ใน 9 เดือนแรกของปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ ลดการปล่อยคาร์บอนลงได้แล้วร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีฐานในปี 2565
* บริษัทฯ ได้ยกระดับนโยบายจัดซื้อจัดจ้าง ให้เป็นการประเมินคู่ค้าใน 3 มิติด้านความยั่งยืน เพื่อเน้นย้ำถึงความใส่ใจในการคัดเลือกคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่ผลิตสินค้าและบริการหรือมีกระบวนการการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
* บริษัทฯ ได้เร่งขยายธุรกิจสู่การให้บริการด้านการจำหน่าย ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบแผงโซลาร์เซลล์ ผ่านแบรนด์ เพื่อเป็นแรงสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด
* บริษัทฯ ได้เป็นผู้ริเริ่มขอการรับรองสำหรับการออกแบบบ้านเดียวประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสถาบันอาคารสีเขียวไทยประเภทที่อยู่อาศัย เป็นรายแรกของไทย
* บริษัทฯ มุ่งสู่การเปิดโครงการระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ เดอะปาล์ม อีก 3 โครงการ
* บริษัทฯ สนับสนุนการเปิดโครงการในรูปแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์ สู่ร้อยละ 50 ของโครงการที่เปิดใหม่ทั้งหมดในปีนี้
* บริษัทฯ จะนำเสนอโปรโมชัน "โอกาสสุดท้าย" นำบ้านในสต๊อกมาปรับราคาในต้นทุนเดิม พร้อมเงื่อนไขการผ่อนชำระร้อยละ 0 จำนวน 12 เดือน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในระดับกลางถึงล่าง
* บริษัทฯ เพิ่มช่องทางการขายผ่านตัวแทนต่างชาติ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงท้ายปี
* บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างศูนย์ความเป็นเลิศ เน้นการดึงแผนกที่มีผลการดำเนินงานที่ดีภายในโรงพยาบาลมาพัฒนาต่อยอด
* บริษัทฯ เร่งดำเนินการตามแผนการเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกวิมุต ทองหล่อ การปรับปรุงโครงการอาคารทิโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ โดยเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดโดยรวม และเตรียมการเปิดโรงพยาบาลผู้สูงอายุเพื่อการฟื้นฟูที่วัชรผลและแบรริง
* กลุ่มวิมุตยังคงมุ่งเน้นความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศของธุรกิจเฮลท์แคร์ของกลุ่มให้สมบูรณ์
* บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างฐานคนไข้ชาวต่างชาติทั้งชาวอาหรับ จีน กัมพูชา พม่า และเพิ่มตลาดใหม่อย่างประเทศเอธิโอเปียผ่านตัวแทนที่นําเชื่อถือ และเริ่มทำการตลาดกับกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ด้วยเช่นกัน
จากข้อมูลทั้งหมด PSH เป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะในธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา และ outlook ในอนาคต อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น PSH จึงเหมาะกับนักลงทุนแบบ “ถือยาวรอการเติบโต” โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพของธุรกิจโรงพยาบาล และมีความเสี่ยงต่ำ
(0.88%)
(7.89%)
(11.26%)
(17.18%)
(12.03%)
(10.11%)
(0.31%)
(15.55%)
(19.04%)
(4.63%)
(100.77%)
(2.90%)