สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวมเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 16.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.75% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัวที่เติบโตดีขึ้นตามการท่องเที่ยวในประเทศ และรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น 12.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.14% เนื่องจากบริษัทในเครือมีการให้เช่าเครื่องล้างจานเพิ่มขึ้นจากธุรกิจร้านอาหาร กำไรขั้นต้นจากการขายในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 105.07 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 45.44% สูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 42.90% ซึ่งเป็นผลจากราคาวัตถุดิบหลักปรับลดลง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากค่าเช่าและค่าบริการลดลงเล็กน้อยจาก 42.40% ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เหลือ 41.97% ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 6.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.95% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งและค่าส่งเสริมการขาย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 1.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.07% โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างไม่ได้มีนัยสำคัญ กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 17.49 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.96% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 3.74%

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของบริษัทมุ่งเน้นไปที่การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การควบคุมต้นทุน และการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มขึ้น 10% จากผลของการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

จากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัท PRAPAT มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างมากจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลังพบว่า D/E อยู่ในระดับต่ำที่ 1.33 บ่งบอกถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
YIELD อยู่ที่ 2.91% ถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล P/E อยู่ที่ 9.74 บ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ราคาเฉลี่ยย้อนหลังของหุ้น PRAPAT มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 1.67 เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ 2.1 P/BV อยู่ที่ 0.97 แสดงถึงราคาหุ้นที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 161.037194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ที่ -155.208567 ล้านบาท บ่งบอกถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ
วงจรเงินสดอยู่ที่ 125.53 แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้า

โดยรวมแล้ว บริษัท PRAPAT มีโอกาสการลงทุนในระดับปานกลาง ถือว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และสามารถรับเงินปันผลได้
อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงบางประการที่นักลงทุนควรพิจารณา
ดังนี้

**โอกาส**

* บริษัท PRAPAT มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ต่ำ
* มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ
* ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ P/E และ P/BV ที่ต่ำ
* บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
* มีโอกาสในการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ


**ความเสี่ยง**

* การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง
* การเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบ
* ความเสี่ยงด้านการเงินและเศรษฐกิจ
* ความเสี่ยงจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
* ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล