สรุปงบล่าสุด PPPM
บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) (PPPM) ไตรมาส 3/2567
บริษัท พีพี ไพร์ม จํากัด (มหาชน) หรือ PPPM ในไตรมาส 3/2567 มีการปรับโครงสร้างรายได้ โดยเน้นการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าอาหารสัตว์น้ำ ส่งผลให้รายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 202 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 34 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 168 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 และร้อยละ 83 ของรายได้จากการขายรวมตามลำดับ บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายลดลงร้อยละ 34 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยในไตรมาส 3/2567 มีผลขาดทุนสุทธิรวม 80 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 52 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5.86 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 3% ต่อรายได้ ลดลงจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 6% ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ส่วนใหญ่เกิดจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทย่อยในต่างประเทศจำนวน 60 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนลง
บริษัทวางแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น โดยเน้นการผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายและกระจายความเสี่ยง บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัทคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยงจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงตั้งเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดและเพิ่มยอดขายในอนาคต
PPPM ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน PPPM มี D/E เท่ากับ 0.76 ในไตรมาสที่ 3/2567 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำ ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง และหากบริษัทต้องการขยายขนาดของกิจการ การที่มีภาระหนี้สินต่ำ จะช่วยเพิ่มโอกาสที่เจ้าหนี้จะอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น PPPM มี P/BV เท่ากับ 1.1 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มูลค่าตลาดของ PPPM ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี และ P/E มีค่าติดลบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังมีผลกำไรสุทธิติดลบ ซึ่งสะท้อนถึงประเด็นที่นักลงทุนควรพิจารณา โดย PPPM เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว รอการเติบโต และรับความเสี่ยงได้
นอกจากนี้ PPPM ยังมีข้อพิพาทกับ 88 2๐๑๓ เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ โดย 88 2๐๑๓ ได้ยกเลิกการซื้อโรงไฟฟ้า 2 โรง และมีการฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินคืน ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย และ PPPM ได้รับเงินมัดจำ 400 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 95.88 ล้านบาท จาก 88 2๐๑๓
**โอกาส**
* ตลาดอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
* บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
* บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
* บริษัทมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง
**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม
* การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ผลกำไรสุทธิติดลบ
* ข้อพิพาทกับ 88 2๐๑๓ เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ
(7.38%)
(32.64%)
(34.29%)
(65.09%)
(38.70%)
(48.16%)
(46.86%)
(50.09%)
(63.22%)
(184.72%)
(638.04%)
(327.94%)