สรุปงบล่าสุด PPPM
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บมจ. พีพี ไพร์ม (PPPM) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายรวม 135.03 ล้านบาท ลดลง 33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (202.42 ล้านบาท) โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ อาหารสัตว์ปีก และอาหารสัตว์เลี้ยง คิดเป็นสัดส่วน 13%, 40% และ 11% ของรายได้จากการขายรวมตามลำดับ
บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 55.44 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 31% เมื่อเทียบกับปีก่อน (ขาดทุน 80.13 ล้านบาท) สาเหตุหลักของผลขาดทุนในไตรมาสนี้มาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทย่อยในต่างประเทศ (อ้างอิง: หน้า 1)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในเอกสารที่ให้มา)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** ลดลง 33% สาเหตุหลักมาจาก
* **ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ:** รายได้ลดลง 69% เนื่องจากสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งในไทยซบเซา บริษัทฯ จึงมีนโยบายหยุดการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า
* **ธุรกิจอาหารสัตว์ปีก:** รายได้เพิ่มขึ้น 15% เนื่องจากมีลูกค้ารายใหม่และตลาดอาหารสัตว์ปีกเติบโตต่อเนื่อง
* **ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง:** รายได้ลดลง 24% แม้ตลาดจะมีความต้องการสูง แต่ยอดขายบริษัทฯ ลดลงเนื่องจากการแข่งขันรุนแรงและการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยง
* **ต้นทุนขาย:** ลดลง 32% สอดคล้องกับการลดลงของรายได้จากการขาย โดยต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็น 75% ของต้นทุนขายทั้งหมด
* **ค่าใช้จ่ายในการขาย:** ลดลง 36% เนื่องจากการปรับโครงสร้างพนักงานในปี 2567
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** ลดลง 15% เนื่องจากการปรับโครงสร้างพนักงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
* **กำไร (ขาดทุน) ด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น:** ขาดทุนเพิ่มขึ้น 393% เนื่องจากการตั้งค่าเผื่อเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บริษัทอื่น (อ้างอิง: หน้า 2)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 799.21 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2567 (2.44 ล้านบาท) สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น และการลดลงของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์
* **หนี้สิน:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 345.65 ล้านบาท ลดลง 2% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น และการลดลงของเงินมัดจำรับจากสัญญาขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ 0.76 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.74 เท่า ณ สิ้นปี 2567
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้น 453.56 ล้านบาท ลดลง 1% จากสิ้นปี 2567 เนื่องจากการเพิ่มทุน ผลขาดทุนสุทธิ และการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบอื่นของส่วนของเจ้าของ (อ้างอิง: หน้า 2)
**สภาพคล่อง:** ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิที่ใช้ไปในกิจกรรมการดำเนินงาน 22.15 ล้านบาท มีกระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมการลงทุน 2.94 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน 18.20 ล้านบาท ส่งผลให้เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง 1.00 ล้านบาท และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด 4.51 ล้านบาท (อ้างอิง: หน้า 2)
**เรื่องอื่นๆ:**
* **เงินจ่ายล่วงหน้าสำหรับสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ:** อยู่ระหว่างดำเนินการขอเฉลี่ยทรัพย์เพื่อเรียกร้องเงินมัดจำจำนวน 93 ล้านเยน
* **เงินจ่ายล่วงหน้าสำหรับโครงการริเวอร์ไซด์:** คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติไม่ฟ้องดำเนินคดีกับบริษัทที่ร่วมทุนเพื่อเรียกร้องเงินมัดจำส่วนที่เหลือ เนื่องจากได้รับคืนมาแล้วประมาณ 81% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีสูง
* **เงินจ่ายล่วงหน้าสำหรับลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม:** คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้ยุติการฟ้องร้องคดีโรงงานไฟฟ้าพลังงานลม เนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ PPSN CO.,LTD. แพ้คดี และการต่อสู้คดีต่อไปต้องใช้ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายอีกมาก โดยไม่สามารถคาดหวังผลและได้รับเงินคืน
* **เงินมัดจำรับจากสัญญาขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ:** บริษัทฯ บันทึกกลับรายการเงินมัดจำรับล่วงหน้าจำนวน 200 ล้านเยน และรับรู้รายการดังกล่าวในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมในรายการรายได้อื่น (อ้างอิง: หน้า 3-7)
(13.54%)
(32.99%)
(240.56%)
(69.36%)
(224.04%)
(54.26%)
(13.88%)
(14.55%)
(24.42%)
(30.81%)
(54.42%)
(89.76%)