สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 บ่งบอกถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาง พลาสติก ซิลิโคน แม่พิมพ์ สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยมีรายได้รวม 477.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 0.4% โดยสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์มีการเติบโตอย่างชัดเจนโดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 24.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% ในขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีรายได้ลดลงจากการชะลอคำสั่งซื้อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของลูกค้า และการลดลงของรายได้ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง 2.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2% จากการหดตัวของยอดการผลิต รถยนต์ในประเทศไทย กําไรสุทธิสําหรับงวด 6 เดือนปี 2567 เท่ากับ 93.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50.5 ล้านบาท และมีอัตรากําไรสุทธิเท่ากับ 19.6% โดยมีสาเหตุจากสินค้าที่ขายมีกําไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ทั้งในสินค้ากลุ่มยานยนต์ที่มีสัดส่วนของสินค้าที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูงมีสัดส่วนที่มากขึ้น รวมถึงสินค้ากลุ่มเครื่องมือและกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีอัตรากําไรขั้นต้นที่สูงอยู่แล้วจากความซับซ้อนในการผลิต

แผนธุรกิจในอนาคตของ POLY มุ่งเน้นการขยายตลาดและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้ให้มากขึ้น POLY ได้รับรางวัลวิศวกรรมคุณค่า (Value Analysis and Value Engineering) 77M Toyota Daihatsu Engineering & Manufacturing (Thailand) ซึ่งเป็นรางวัลด้านการลดต้นทุนในการผลิต โดยการนำหลักการทางวิศวกรรมเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์กระบวนการต่างๆ เพื่อลดต้นทุน บริษัทคาดหวังที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเจาะกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์ผลประกอบการของ POLY บ่งบอกถึงโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ บริษัทมีกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีอัตรากำไรสุทธิที่สูง และมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 21.18 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง ดัชนี P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 3.36 ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม แม้ว่า D/E จะอยู่ที่ 0.2 ซึ่งอาจสะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ต่ำและอาจบ่งชี้ถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต ผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) ล่าสุดอยู่ที่ 4.18% ถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากเงินปันผล POLY มีวงจรเงินสดที่สั้นลงจาก 47.03 วัน ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 เป็น 26.78 วัน ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดการเงินสดที่ดีขึ้น POLY มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 150.807612 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 308.132498 ล้านบาทในปี 2566 ในขณะที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนยังคงเป็นติดลบ ( -227.35728 ล้านบาท ) ซึ่งสะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

**โอกาส**
* การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์
* การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
* การพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายตลาดในต่างประเทศ
* ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ
* การเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย

**ความเสี่ยง**
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
* การแข่งขันในตลาด
* ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
* การชะลอตัวของตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์

**ข้อมูลเพิ่มเติม:**
* อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Interest Bearing Debt to EBITDA) ลดลงจาก 0.4 เท่า เป็น 0.3 เท่า
* อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อสินทรัพย์รวม (Interest Bearing Debt to Total Asset) ลดลงจาก 0.31 เท่า เป็น 0.2 เท่า
* อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 17.9% เป็น 19.6%
* อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 14.0% เป็น 18.2%
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 10.7% เป็น 15.2%

โดยรวมแล้ว POLY เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต การลงทุนใน POLY อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวหรือต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเสี่ยงของการลงทุนอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน