สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการและวิเคราะห์บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) (PEACE)

ในช่วงปี 2567 บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยในไตรมาสที่ผ่านมาไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ที่โดดเด่น แต่บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่มีอยู่ โดยเฉพาะโครงการ เณอเรีย วิธินิติ ราชพฤกษ์-จีษฎาบดินทร์ และโครงการเญอ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ที่มีการเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 รวมถึงโครงการ เณอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ และ เณอ พหลโยธิน-สายไหม ที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังแรกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ภาพรวมงบการเงินปี 2567 พบว่า รายได้รวมอยู่ที่ 881.36 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่ทำได้ 1,057.47 ล้านบาท กำไรสุทธิก็ลดลงเช่นกัน จาก 166.07 ล้านบาท เหลือ 67.57 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32.57% ลดลงจาก 41.85% ในปี 2566 และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.67% ลดลงจาก 15.70% ในปี 2566 ส่วนสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 3,603.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,959.49 ล้านบาท ในปี 2566 ขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 1,268.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 717.19 ล้านบาท D/E Ratio เพิ่มขึ้นจาก 0.32 เป็น 0.57

สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนนัก แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน และกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ คาดว่าบริษัทฯ จะเน้นการบริหารจัดการโครงการที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ สำหรับการคาดการณ์ที่สำคัญนั้น เป็นไปได้ว่าบริษัทฯ จะตั้งเป้ารักษาระดับรายได้และกำไรให้ใกล้เคียงกับปี 2567 มากที่สุด โดยอาจมีการปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงเป็นระยะๆ

การพิจารณาว่า PEACE เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา (1Q2565=5.54, 2Q2565=4.8, 3Q2565=4.12, 4Q2565=4.63, 1Q2566=4.82, 2Q2566=4.13, 3Q2566=4.04, 4Q2566=3.48, 1Q2567=3.23, 2Q2567=2.97, 3Q2567=2.83, 4Q2567=2.6) และ P/BV จะลดลงมาอยู่ที่ 0.54 เท่า ซึ่งอาจดูน่าสนใจ แต่ผลประกอบการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567 เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

**โอกาส:**
* การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต อาจส่งผลดีต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและยอดขายของบริษัทฯ
* บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และมีโครงการที่หลากหลาย

**ความเสี่ยง:**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและกำไรของบริษัทฯ
* การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สูง

**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* ลักษณะธุรกิจ: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
* P/E ล่าสุด: 17.9
* Yield ล่าสุด: 2.5
* D/E ล่าสุด: 0.57

**สรุป:** การตัดสินใจลงทุนใน PEACE ควรพิจารณาจากความเสี่ยงที่รับได้ และคาดการณ์การเติบโตในอนาคต หากมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและบริษัทฯ สามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ ก็อาจเป็นโอกาสในการลงทุนได้ แต่หากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขัน ก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ