สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้จากการขาย 160.003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ -13.673 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 7.816 ล้านบาท ลดลง 5.859 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 74.98 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิม ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและการปรับลดต้นทุนการผลิตในส่วนของค่าไฟฟ้า

แผนธุรกิจของ PDG ในอนาคต ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยจะเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ และเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิต บริษัทฯ คาดหวังว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง และเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายเป็น 10% ในปี 2568

PDG เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมี D/E อยู่ที่ 0.2 แสดงถึงการมีภาระหนี้สินต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่เจ้าหนี้จะอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น เมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง พบว่า PDG มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 10.45% P/E เฉลี่ยอยู่ที่ 16.43 P/BV เฉลี่ยอยู่ที่ 1.57 และ YIELD เฉลี่ยอยู่ที่ 5.89% ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 3.43 บาท ในขณะที่ PDG มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเฉลี่ย 93.07 ล้านบาท และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเฉลี่ย -48.58 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว PDG เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้

**โอกาส**

* บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ต่ำ ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
* มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขยายฐานลูกค้า
* มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง และมีความสามารถในการควบคุมต้นทุน
* มีความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และเติบโตได้ในอนาคต

**ความเสี่ยง**

* ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต
* การแข่งขันในอุตสาหกรรม อาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด

โดยรวมแล้ว PDG เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อรอการเติบโตของธุรกิจ และได้รับเงินปันผล เนื่องจาก PDG เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด และวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจลงทุน