สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 โดยมีรายได้รวม 164.524 ล้านบาท ลดลง 5.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้น 18.066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 439.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการลดลงของต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 74.08% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารก็ลดลงเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 22.75% จากการลดลงของค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 15.15% เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าปรับปรุงพื้นที่สำนักงานรวมอยู่ด้วย

ในอนาคต บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและยอดขายตามแผนการตลาด พร้อมทั้งจะยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะเรื่องราคาและปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษากำไรสุทธิให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

จากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่แสดงให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ บ่งบอกถึงศักยภาพในการทำกำไรของ PDG อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางการเงินย้อนหลัง พบว่า ราคาหุ้น PDG เฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 3.5 บาท แต่ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 2.5 บาท P/E อยู่ที่ 16.13 P/BV อยู่ที่ 1.17 และ YIELD อยู่ที่ 3.75% แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ยังอยู่ในระดับปานกลาง แม้ว่า PDG จะมี D/E ต่ำกว่า 1 แสดงถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีโอกาสลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยการกู้เงิน วงจรเงินสดอยู่ที่ 61.05 สะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 76.583771 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ที่ -14.486401 ล้านบาท แสดงถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ โดยรวมแล้ว PDG น่าจะเป็นโอกาสการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการทำกำไรและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

**โอกาส:**

* บริษัทมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แสดงจาก D/E ที่ต่ำกว่า 1 และสามารถกู้เงินได้ง่ายขึ้น
* บริษัทฯ มีศักยภาพในการทำกำไร จากการลดลงของต้นทุนและการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ
* บริษัทฯ มีแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและยอดขาย
* บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด

**ความเสี่ยง:**

* ราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุน
* ยอดขายของบริษัทฯ มีแนวโน้มลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจเป็นผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ขวด PET มีสูง อาจส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทฯ