ORI
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ORI สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 พร้อมเปิดแผนธุรกิจและกลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ธุรกิจของ Origin Property แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ คอนโดมิเนียม, Housing, บริการดูแลลูกบ้านต่อเนื่อง (Service Primo), โรงแรม (Origin Hotel) และ Logistics & Warehouse (Alpha)

ภาพรวมสิ้นปี บริษัทดูแล 203 โครงการ มูลค่ารวม 290,000 ล้านบาท

Pre-sale สะสม 9 เดือน ทำได้ 19,000 ล้านบาท

โครงการคอนโดมิเนียมที่จะเริ่ม Transfer ใน Q4 มี Backlog แล้ว 72% ใน 6 โครงการ เริ่มรับรู้ตั้งแต่พฤศจิกายนจนปิดไตรมาส

ปิด Deal โรงแรม Intercon 59 ในไตรมาส 3 ได้ Net cash proceeds 800 ล้านบาท

Alpha มีโครงการที่ดูแล 12 โครงการ พื้นที่ 400,000 ตารางเมตร Operate แล้ว 8 โครงการ (340,000 ตารางเมตร)

Transfer activity อยู่ที่ 3,055 ล้านบาท เป็นโครงการ Joint venture 1,700 ล้านบาท Net profit 184 ล้านบาท

รายได้หลักมาจาก Ready to move 59% (10,000 ล้านบาท) Housing มี Pre-sale เพิ่ม 3,700 ล้านบาท (เกือบ 20% ของพอร์ต)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

กลุ่มโรงแรมมีแผน Reit และ Exit โดยการขายให้กองทุนหรือ Private fund เพื่อเพิ่ม Value added

จับมือกับ IKEA เพื่อ Develop และ Create space ให้มีทั้ง Design และ Function ที่เหมาะสมกับห้องชุดและกลุ่มลูกค้า

ขยายการลงทุนในธุรกิจ Long-term investment อย่าง Alpha ซึ่งมี Occupancy ค่อนข้างคงที่ 93%

Online booking ได้รับผลตอบรับที่ดี เตรียมนำมาใช้เรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการ Spend เงินน้อย

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

การแข่งขันสูงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

สถานการณ์ตลาดอาจไม่เอื้ออำนวยให้เปิดโครงการได้เร็ว และธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

เน้นระบาย Ready to move และบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด (Lean cost)

ใช้ข้อมูลลูกค้าเดิมมา Tracking ต่อ และนำเสนอโครงการที่ใกล้เคียงแต่ราคาย่อมเยากว่า

เจรจากับธนาคารเพื่อใช้ประวัติการผ่อนดาวน์ของลูกค้าช่วยให้ธนาคารมั่นใจมากขึ้น

ช่วยลูกค้าปิดหนี้ในช่วงต้น (ไม่เกิน 300,000 บาท) และแนะนำการรวมหนี้

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

คาดการณ์ผลประกอบการ Q4 จะดีขึ้นจากการ Transfer 6 โครงการ และการปิด Deal โรงแรม

ปี 2569 เน้นกรุงเทพฯ และระบาย Inventory + Ready to move ปี 2570 เริ่มเปิดในหลายโซนมากขึ้น (ขอนแก่น, ระยอง, ชลบุรี) ปี 2571 เพิ่มโซนนนทบุรี

บริษัทตั้งเป้า Net profit ปี 2571 อยู่ที่ระดับ 17,000 ล้านบาท โดยมี Backlog, Lead value จากโรงแรม, และ Alpha เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 7% ภายในปี 2571

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 41:06
  1. Q: ผลประกอบการไตรมาส 3 กำไรสุทธิลดลง เกิดจากสาเหตุใด และมีแผนรับมืออย่างไร?

    A: มีโครงการที่คาดว่าจะโอนในไตรมาส 3 ขยับไปเป็นไตรมาส 4 เพื่อความพร้อมของโครงการและลูกค้า

    มีการยกเลิกสัญญาที่ดินบางแปลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่บันทึกเป็นต้นทุนโครงการ ประมาณ 100 ล้านบาท หากรวมกลับเข้ามาในผลประกอบการ จะมีกำไรเกือบ 300 ล้านบาท

  2. Q: Backlog มูลค่า 41,000 ล้านบาท ทยอยแบ่งรับรู้อย่างไร?

    A: ทยอยรับรู้ใน 4 ปีข้างหน้า ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท ปี 2571 จะถูกเติมด้วยการขายใหม่เพิ่มขึ้น

  3. Q: บริษัทมีแผนเปิดโครงการ 5-6 โครงการในไตรมาส 4 รายละเอียดโครงการที่น่าจับตามองและสร้างรายได้สูง?

    A: โครงการบางเทา (ภูเก็ต) ที่เปิดและมีการรับรู้เงินดาวน์มาค่อนข้างเยอะ

  4. Q: การร่วมมือกับแบรนด์ Marriott ในโครงการ Origin Residence ภูเก็ตบางเทา และแผนพัฒนาเป้าหมายธุรกิจ จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันได้อย่างไร?

    A: ที่ดินที่ติดกันจะพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาวในเครือ Marriott เพื่อ Support บริการให้ลูกค้าของ Origin Residence และไว้คอย Service เพื่อเพิ่ม Value ให้กับคอนโดมิเนียม

  5. Q: ในสภาวะตลาดอสังหาฯ ที่มีการแข่งขันสูง บริษัทมีแนวทางการจัดการต้นทุนและการเพิ่มกำไรอย่างไร?

    A: Lean ค่าใช้จ่าย เช่น การทำ Online booking ลดการเปิดโครงการใหม่ๆ พยายามระบาย Stock และใช้ข้อมูลลูกค้าเดิมมา Tracking ต่อ

    บริษัทมี Component ของรายได้โอนจากทั้งบริษัทที่พัฒนาเองและบริษัท JV กำไรขั้นต้นที่แสดงอยู่เป็นกำไรส่วนที่เป็นโครงการเดิมที่อาจมี PPA โดนอยู่ช่วงต้น

  6. Q: การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ส่งผลต่อยอดขายความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างไร และบริษัทมีแผนรับมือความผันผวนของตลาดนี้อย่างไร?

    A: ช่วยให้กลุ่มต่างชาติสนใจคอนโดมิเนียมมากขึ้น (รัสเซีย, พม่า, ฯลฯ) ภูเก็ตยังเป็นจังหวัดที่หลายชาติสนใจมองเป็น Second home และมาอยู่อาศัยได้ในค่าครองชีพที่ต่ำ

  7. Q: บริษัทวางแผนกลยุทธ์อย่างไรในการรักษาความต่อเนื่องของรายได้และกำไร ท่ามกลางเศรษฐกิจความไม่แน่นอน?

    A: มี Business model ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง เช่น Long-term business model และหลังจากต่อยอดจาก New JV หรือ Joint venture เดิม ในปัจจุบัน ก็จะเข้า Loop ของช่วง Stable ของกลุ่มโรงแรม สามารถ Exit แล้วก็ทำเข้า Reit ได้

  8. Q: ณ ไตรมาส 3 ยอดลูกหนี้บริหารโครงการกิจการร่วมค้า JV มีมูลค่าค่อนข้างสูง มีการตั้งค่าเผื่อด้วย อธิบายหลักการและเหตุผลที่ ECL ค่อนข้างสูง?

    A: มาจากการทำ JV Landlord ตั้งแต่ปี 2563 ค่อนข้างเยอะ Structure ของมันคือการที่ใช้เงินน้อย ผู้ถือที่ดินไว้จะเป็น Landlord อยู่แล้วในการพัฒนา หลังจากการได้ Project finance ทาง Landlord ก็จะนำเงินมาลงทุน และมาชำระค่าบริหารโครงการ

    เนื่องจากสถานการณ์ตลาดอาจจะไม่เอื้ออำนวยให้มีการเปิดโครงการได้เร็ว ทางบริษัท Conservative และธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โครงสร้างของ JV Landlord เลยจะเป็นว่าถ้ายังไม่ได้ Project finance หรือยังไม่ได้พัฒนาโครงการต่อ ตัวลูกหนี้จะยังคงค้าง

    ถ้าได้ Project finance แล้ว ลูกหนี้ตัวนี้ก็จะถูก Clear ไป ยอดที่สูงมาจากการมีปริมาณโครงการที่ค่อนข้างเยอะ ECL จะเป็นการประเมินตามมาตรฐานบัญชี ที่คิดลด Value ทยอยรับรู้ จะไม่ได้เป็นก้อนเดียวทีเดียว

  9. Q: ปัจจุบัน Origin ยังคงมี Credit line กับธนาคารอย่างไร?

    A: มีประมาณ 50,000 ล้านบาท An drawdown สำหรับโครงการที่เริ่มพัฒนาแล้วและถึง Trigger เกณฑ์ ประมาณ 20,000 ล้านบาท Credit line Support ไปสำหรับโครงการในอนาคตเรียบร้อยแล้ว

  10. Q: Update ธุรกิจ Warehouse และแนวโน้มของผู้เช่าเป็นอย่างไรบ้าง?

    A: มีผู้เช่ามากกว่า 90% แนวโน้มปัจจุบันที่พยายามหาลูกค้า จะ Focus ไปที่ลูกค้า Built to suit ก็คือจะเป็นการสั่งสร้างตาม Order ให้ลูกค้า Model นี้จะทำให้ธุรกิจ Warehouse เมื่อสร้างเสร็จจะมี Occupancy 100% ทันที และค่อนข้างจะมีระยะเวลาเช่าที่ระยะยาว

  11. Q: บริษัทขาย Asset แต่หนี้สิน DE ดูไม่ลดลงเลย จะจัดการหนี้สินอย่างไร?

    A: บริษัทมีแผนทยอยลดหนี้สินลงเรื่อยๆ เดิมที่เพิ่มสูงขึ้นอาจจะมาจากการที่เริ่ม Invest ใน Property Long-term ที่ว่า และเริ่มลงทุนในที่ดินค่อนข้างเยอะในช่วงปี 2563-64 เป็นต้นมา

    หลังจากเริ่ม Ramp up Occupancy ต่างๆ ได้ตามที่แจ้งไป ตัว IBD per E ก็จะค่อยๆ ทยอยลดลงเช่นกัน จาก Performance ที่รับรู้มา และ Exit Hotel Long-term Business ที่แจ้งไป

  12. Q: แนวโน้มผลการทำงานของไตรมาส 4?

    A: คิดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับของไตรมาส 1-3 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีโครงการโอนทั้งหมด 6 โครงการ ที่จะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 และพร้อมรับรู้รายได้เลย

    จะมีโครงการที่เป็น Top line ด้วยครึ่งๆ เป็นโครงการที่เป็น JV ครึ่งๆ เช่นกัน แนวโน้มไตรมาส 4 คิดว่าจะดีขึ้น และบวกกับการปิด Deal โรงแรมของ Servith ทองหล่อด้วย

  13. Q: ภาพรวมปี 2569 จะเป็นอย่างไร บริษัทใช้กลยุทธ์ใดบ้าง?

    A: จะเป็นเหมือนตามที่เรียนไปเมื่อสักครู่ คิดว่าภาพรวมก็คือปิดปีไตรมาส 4 ก็จะดีที่สุด กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนจะเป็นตัว Backlog เองที่มีด้วย และบวกกับตัวโรงแรมที่เป็น Long-term business ที่จะเข้ามาเติม และ Warehouse ด้วย

  14. Q: ภาพรวมอุตสาหกรรมในแง่ของกำลังซื้อและเทรนด์ในอนาคต?

    A: กำลังซื้อมี Demand ในทุกๆ ที่ และไม่ได้มีโครงการเปิดใหม่ค่อนข้างเยอะ Supply ในตลาดเริ่มลดลง เดี๋ยวสักพักน่าจะสักอีก 1-2 ปี น่าจะกลับมาสมดุลกันมากขึ้น และ Demand ยังมีต่อเนื่อง

    อาจจะเรื่อง Credit ต่างๆ ที่ธนาคารมีความเข้มงวดมากขึ้น เราก็พยายามคุยกับหลายๆ แบงค์ โดยเอารายการผ่อนงวดดาวน์ของลูกค้าที่เป็นลูกค้าดี ให้แบงค์พิจารณาภาพรวม เพื่อให้เห็นว่าเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีวินัย และเพื่อพิจารณาลดเกณฑ์บางอย่าง เพราะลูกค้าก็มีการจ่ายดาวน์ จ่ายมาต่อเนื่อง

  15. Q: ท่ามกลางปัญหาการไม่ปล่อยเงินกู้ของแบงค์ Rejection rate บริษัทมีแนวทางแก้ไขอย่างไร?

    A: คุยกับแบงค์เพื่อใช้ประวัติการจ่ายเงินดาวน์ของลูกค้า ช่วยให้แบงค์มั่นใจมากขึ้น ในบางเคสอาจจะช่วยลูกค้าในการปิดหนี้ในช่วงต้น หลักไม่เกิน 300,000 บาท และแนะนำลูกค้าในเคสกลุ่มที่รวมหนี้ด้วยเช่นกัน

  16. Q: หลาย Developer เร่งโครงการ Promotion ต่างๆ ในไตรมาส 4 จะทำให้ GPM จะทำให้ %GP ต่ำลงหรือไม่ อย่างไร?

    A: ของบริษัทเองจะมีโครงการแล้วเสร็จใหม่ที่ %GP จะสูงขึ้น ก็คิดว่าจะมาช่ว

โดยสรุป Origin Property ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และการขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ระยะยาว แม้จะมีความท้าทายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่บริษัทก็พร้อมปรับตัวและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น