สรุปงบล่าสุด ORI

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) ปี 2567 (ฉบับปรับปรุง)
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (กลุ่มบริษัท) รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรรวม 14,399.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 6,836.1 ล้านบาท และส่วนของโครงการภายใต้กิจการร่วมค้า 7,563.3 ล้านบาท ทำให้มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า 623.5 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 11,985.3 ล้านบาท และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,051.8 ล้านบาท ถึงแม้ว่าผลประกอบการจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่กลุ่มบริษัทยังคงสามารถทำยอดขายบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมได้ตามเป้าที่ 35,442 ล้านบาท และมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 44,834 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568 อีก 16 โครงการ รวมมูลค่า 23,440 ล้านบาท กลุ่มบริษัทมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 878.7 ล้านบาท และมีรายได้ดอกเบี้ย 184.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.2% จากปีก่อน
ในปี 2567 กลุ่มบริษัทรับรู้กำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนที่โอนกรรมสิทธิ์ 21 โครงการ โดยเป็นโครงการที่รับรู้กำไรต่อเนื่องจากปี 2566 จำนวน 15 โครงการ และโครงการที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2567 จำนวน 6 โครงการ กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 11,985.3 ล้านบาท ลดลง 20.9% จากปีก่อน โดยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ รายได้ค่าบริหารโครงการ และรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย อย่างไรก็ตาม รายได้จากการให้บริการ รายได้อื่น ๆ รายได้ดอกเบี้ย และรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมและรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 6,836.1 ล้านบาท ลดลง 22.7% จากปีก่อน เนื่องจากปี 2566 มีโครงการที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า และมีมูลค่าโครงการรวมมากกว่าปี 2567 ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 4,855.6 ล้านบาท ลดลง 21.8% ตามรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง ต้นทุนการให้บริการอยู่ที่ 1,249.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.6% ตามรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มบริษัทเน้นกลยุทธ์การขายให้ต่างชาติ ทำให้ยอดขายลูกค้าต่างชาติเติบโต 225.0% สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยลูกค้าหลักเป็นรัสเซียและไต้หวัน กลุ่มบริษัทมีแผนบุกตลาดต่างประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในเอเชีย โดยแต่งตั้ง บริษัท ไนท์สบริดจ์ พาร์ท เนอร์ จำกัด เป็นมาสเตอร์ เอเจนท์ นำห้องชุดในโครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit ไปเปิดตัว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 24.7% เป็น 1,624.8 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมและค่าเช่าเพิ่มขึ้น 12.9% เป็น 528.5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 31.7% เป็น 1,522.8 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 11.5% เป็น 1,136.6 ล้านบาท
**วิเคราะห์โอกาสการลงทุนในหุ้น ORI**
การพิจารณาว่า ORI เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน แม้ว่าผลประกอบการปีล่าสุดจะไม่โดดเด่นเท่าปีก่อนหน้า แต่ ORI ก็ยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของ:
* **โอกาส:** ORI มีโอกาสเติบโตจากยอดขายที่รอรับรู้รายได้จำนวนมาก (Backlog) ที่จะทยอยรับรู้ในอนาคต การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และการเติบโตของธุรกิจโรงแรม
* **ความเสี่ยง:** ORI มีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สูง
**ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* **ลักษณะธุรกิจ:** พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
* **ราคาหุ้นเฉลี่ย:** มีความผันผวนตามสภาวะตลาดและผลประกอบการของบริษัท
* **P/E:** ล่าสุดอยู่ที่ 6.07
* **P/BV:** ล่าสุดอยู่ที่ 0.33
* **YIELD:** ล่าสุดอยู่ที่ 0.81
* **D/E:** 2.1
* **อัตรากำไรสุทธิ:** 17.65
(21.44%)
(5.02%)
(36.15%)
(13.96%)
(18.73%)
(9.43%)
(22.95%)
(27.65%)
(166.18%)
(667.61%)
(363.88%)
(236.63%)