ONSENS
บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ONSENS เผยกลยุทธ์ขยายอาณาจักร Wellness สู่ปี 2569 เจาะลึกผลประกอบการไตรมาส 3

สวัสดีท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่าน ในนามของบริษัท ออนเซ็น รีทรีท แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด มหาชน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การแถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 และทิศทางธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 ภายในงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ผู้บริหารที่ร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้ ได้แก่ นายสมิธ เมฆอรุณกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายเพชร คงแสงชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ออนเซ็น รีทรีท แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด มหาชน

นายสมิธ เมฆอรุณกมล กล่าวต้อนรับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และสื่อมวลชนทุกท่าน เข้าสู่งาน Opportunity Day ซึ่งเป็นการแถลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกของบริษัท ออนเซ็นฯ หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา

ในการนำเสนอข้อมูลวันนี้ จะมีการสรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2568 และทิศทางธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยนายสมิธจะนำเสนอภาพรวมของธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโต และคุณเพชร คงแสงชัย จะมาสรุปผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3

หัวข้อที่จะกล่าวถึงในวันนี้ ได้แก่

  1. Business Overview: สรุปภาพรวมธุรกิจ
  2. Key Strategies: กลยุทธ์สำคัญ
  3. Financial Highlights: ไฮไลท์ทางการเงินของไตรมาสที่ 3
  4. Project Updates: อัปเดตโครงการต่างๆ
  5. Industry Outlook: แนวโน้มอุตสาหกรรม

หลายท่านคงรู้จัก ออนเซ็นฯ ในฐานะผู้ริเริ่มธุรกิจออนเซ็นแอนด์สปาในประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่นำเข้ามาในเมืองไทย ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 14 และครบรอบ 13 ปีที่ผ่านมาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สิ่งที่ ออนเซ็นฯ ให้ความสำคัญมาเสมอคือเรื่องของ Wellness และการสร้าง Awareness ให้คนได้เข้าใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน โดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือยา การเข้าออนเซ็น การใช้ Contrast Therapy การใช้บริการสปา ถือเป็นศาสตร์ในการดูแลสุขภาพในรูปแบบหนึ่ง

แบรนด์ที่ ออนเซ็นฯ ดำเนินการอยู่คือ Yunomori Onsen & Spa ตั้งแต่วันที่เริ่มมา Vision ของบริษัทก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือยังเน้นในเรื่องของการสร้าง Wellness Concept ที่จะ Transform ให้คนที่เป็นคนเมืองได้เข้ามาผ่อนคลาย ให้เข้ามาเหมือนเป็นการดูแลในเชิง Preventive Maintenance ร่างกายของตัวเอง เรื่องของการที่ทำให้คนอายุยืนยาวแบบยั่งยืน และต้องการที่จะสร้าง Concept ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยราคาจับต้องได้ และคนในหมู่มากสามารถเข้าถึงได้

แบรนด์ปัจจุบันจากตอนแรกที่เริ่มมาจากแค่ Yunomori Onsen & Spa ปัจจุบันนี้ ออนเซ็นฯ อยู่ที่ตรงไหนบ้าง

  1. Yunomori Onsen: Concept คือ Public Bath เป็นการเอาวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นกับการนวดมารวมกัน วัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นในแบบฉบับของญี่ปุ่นคือการอาบน้ำแบบ Public Bath คือแช่รวมกันแต่แยกชายหญิง จุดขายหลักคือเรื่องของความครบวงจร มีทั้งออนเซ็น มีทั้งสปา มีทั้งร้านอาหาร มีทั้งร้านกาแฟ และบริเวณที่ให้ลูกค้าเข้ามาพักผ่อน เป็น Common Area ต่างๆ คนส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาทำงาน มาใช้เวลาอยู่ที่ออนเซ็นแทบจะทั้งวัน
  2. Klais Modern Thai Spa: อยู่ใน Format ของ Day Spa ขนาดของสปาจะถือว่าเป็นขนาดที่เล็กลงมา จุดขายคือการเล่าเรื่องของศาสตร์การนวดไทย ศาสตร์การแพทย์แผนไทยมาเล่าใหม่ให้มันดูทันสมัย ให้มันดูร่วมสมัยมากขึ้น และ Relevant กับ Generation ใหม่กับวิถีชีวิตของคนในรุ่นใหม่ให้มากขึ้น โชว์เคสเรื่องของวัฒนธรรม เน้นการเล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับคนต่างชาติ ให้กับนักท่องเที่ยว ให้กับ Expat
  3. Pak: จะเปิดตัว 1 ธันวาคม 2568 อยู่ใน Segment ที่จับกลุ่มลูกค้าคนไทย เน้นในเรื่องของราคาที่ย่อมเยา เน้นในเรื่องของความสะดวกสบาย ให้คำจำกัดความของ Pak ว่าเป็นเหมือนร้านสะดวกนวด จะอยู่ทั้งในตัวเมืองหรือจะอยู่ทั้งชานเมืองนอกเมืองก็ได้ สาขาแรกอยู่ที่แม็คโคร นราธิวาส ใกล้ๆ สาทร ได้มีการพูดคุยกับทางกลุ่ม CP ว่า Hypermarket ก็ถือว่าเป็นหนึ่งใน Location ที่สนใจ มองว่าตอนนี้ในเรื่องของคำว่า Wellness การที่คนเข้าไปดูแลตัวเอง มันก็ขยายวงไปในทุกๆ กลุ่ม

ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขา สุขุมวิท 26, สาธรซอย 10, พัทยา และสิงคโปร์ นอกจาก Yunomori แล้วก็มีแบรนด์ที่เรียกว่า Klais ด้วย มีน้องใหม่ที่กำลังจะเปิดในเดือนธันวาคมนี้

Business Strategy ที่ผ่านมาหลังจากที่มีการ Road Show ก่อนที่จะเข้าตลาด สิ่งหนึ่งที่ได้ให้คำมั่นกับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในบริษัทคือการขยายสาขากับแบรนด์ที่มีอยู่ มีทั้ง Yunomori, มีทั้ง Klais และมีทั้งแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า Pak โฟกัสในเรื่องของการสร้าง Performance Boost Performance ของสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน และรวมไปถึงขยายสาขาไปในหัวเมืองต่างๆ ให้ Coverage กว้างขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

Pak แบรนด์ใหม่ จะเปิดตัว 1 ธันวาคม 2568 นี้ อยู่ใน Segment ที่จับกลุ่มลูกค้าคนไทย เน้นเรื่องราคาที่ย่อมเยา ความสะดวกสบาย ให้คำจำกัดความว่าเป็นเหมือนร้านสะดวกนวด สาขาแรกอยู่ที่แม็คโคร นราธิวาส ได้คุยกับ CP เรื่อง Hypermarket ว่าเป็น Location ที่สนใจ เพราะ Wellness ขยายวงกว้างไปทุกกลุ่ม

รูปแบบบริการแตกต่างจากสปาอื่น ให้บริการแบบ Day Pass คนสามารถซื้อ Access เข้า Yunomori Onsen ในราคา 650 บาท อยู่ได้ทั้งวัน สามารถใช้บริการนวด ทานอาหาร แช่ออนเซ็น หรือนอนพักผ่อนได้ เป็นการชาร์จพลังก่อนกลับสู่โลกคนเมืองที่วุ่นวาย

Brand ปัจจุบันเริ่มจาก Onsen & Spa Operator ปัจจุบันนอกจาก Yunomori มี Klais มีน้องใหม่ที่จะเปิดในเดือนธันวาคมนี้

บริษัทจะโฟกัสในการสร้าง Performance Boost Performance สาขาปัจจุบัน และขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างๆ ให้ Coverage กว้างขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

ปัจจุบันถ้ามีแบรนด์ Pak จะมี 3 Brands Yunomori (Size L) ครบวงจร, Klais (Size M) เน้นคนต่างชาติ และ Pak (Size เล็กสุด) เน้นความสะดวก ราคาย่อมเยา ขยายสาขาเร็ว ลงทุนน้อย

กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจคือ เน้นขยายสาขาของ Brand ที่สร้างขึ้นมา ใน 3 Segment ที่มี Target Group ที่แตกต่างกัน Format ที่แตกต่างกัน รูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมี Key Strategies ในการ Boost Performance สาขาที่มีอยู่

  1. Off Peak Utilization
  2. Brand Collaboration
  3. Experiential Marketing
  4. การสร้าง Community ของกลุ่มคนรักสุขภาพ
  5. การโฆษณาผ่าน KOL และ KOC

สิ่งที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 คือ Brand Collaboration ทำกับ Dairy Home นม Dairy Home เป็นนม Organic เป็นสินค้าสัญลักษณ์ของอาหาร เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญสำหรับคนที่เข้ามาแช่ออนเซ็น หลังแช่ออนเซ็นจะสูญเสียเหงื่อ เกลือแร่ คนญี่ปุ่นจะทดแทนด้วยการดื่มนม เป็น Project ที่ประสบความสำเร็จ คนให้ความสนใจ Dairy Home มีสูตรนมต่างๆ เหมาะกับ Pain Point ของคนเมือง เช่น สูตร Bed Time ช่วยให้หลับสบาย เหมาะกับประสบการณ์การแช่ออนเซ็นของลูกค้าที่ Yunomori Packaging เป็นการออกแบบร่วมกัน มีตัว Yutofu ในฉลากนม มี Product ของนม เช่น โยเกิร์ต ชีส ที่นำมา Adapt และประกอบอาหารเมนูใหม่ Exclusive ให้กับลูกค้า Yunomori มีทั้งไอศกรีม เต้าหู้ ซุปนม ใช้เต้าหู้ชีส ได้รับความนิยมมาก ยอดขายของ Dairy Home ที่ Yunomori โตขึ้นเกือบ 100%

Experiential Marketing ทั้งแบรนด์ Yunomori และ Klais เน้นเรื่องนี้ กลุ่มลูกค้าไม่เน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มี Balance ที่ดี ทั้งคนไทย Expat และนักท่องเที่ยว การทำ Marketing เรื่อง Experiential Marketing เป็นเรื่องที่สำคัญในการที่จะทำให้ลูกค้าเป็นลูกค้าประจำ มีมิติใหม่ๆ ในการดึงให้คนเข้ามาใช้บริการและเป็นที่จดจำ บอกต่อใน Community ของเขา

เริ่มตั้งแต่ ธนา ประดับ เป็นเทศกาลหน้าร้อน จัดที่ Yunomori Onsen จัด Walking Tour สำหรับ Klais ไปทัวร์ทรงวาด และทำ Workshop ยาดม เดี๋ยวจะมี Workshop ไอ้ ยาหม่องด้วย กำลังจะเปิดตัวใน Q4 เป็นการดึงเอาประสบการณ์ของคนที่เข้ามาใช้บริการที่ Klais ได้สัมผัสและเข้าใจถึงวัฒนธรรม เรื่องของศาสตร์การนวดไทย การแพทย์แผนไทยได้ดียิ่งขึ้น มีคนให้ความสนใจใน Workshop ยาดม เป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มลูกค้าที่มาเที่ยวในทรงวาด กลุ่มนัก คนต่างชาติ และกลุ่ม Corporate ไปจับมือกับโรงแรมทั้ง โรงแรมอาศัย จัด Workshop ทั้งในสถานที่เขามาหาเรา และเราออกไปหานอกสถานที่ด้วย

อีก Strategy ที่สำคัญคือการสร้าง Community Community ปัจจุบันของคนที่ดูรักสุขภาพ คนที่ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ ขยายวงและถูกซอยออกเป็น หลายๆ Sub Group มีทั้งกลุ่มคนที่ ชอบวิ่ง ชอบออกกำลังกายตอนเช้า คนที่รัก Pilates คนที่ขี่จักรยาน คนที่ ชอบในเรื่องของ ไตรกีฬา สาย Beauty อะไรต่างๆ แบ่งแยกออกเป็น Sub Group ออนเซ็น เป็น Service อันหนึ่งที่ สามารถที่จะ มาตอบโจทย์ และ ให้บริการกับคนกลุ่มนี้ได้ เพราะถือว่าเป็นเครื่องมืออันหนึ่ง เป็น Vehicle อันหนึ่งในการที่จะให้คนเหล่านี้ สามารถที่จะให้ Recovery Recovery Time ของเขามันสั้นลง คนที่วิ่งหลังจากวิ่งก็มาแช่ออนเซ็นอะไรต่างๆ

ไปร่วมอยู่ใน Community ไปจับมือกับ สบาย Run Club เป็น Run Club ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและน่าจะเป็น Run Club ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแล้ว มีกลุ่ม Follower เป็น หลักหลายหมื่นคน วิ่งกันทีเนี่ยก็เป็นหลักพันคน มีไปจัด วันนั้นก็ถือว่าเป็น กิจกรรมที่สนุก มีการที่คนมาร่วมกันแช่ออนเซ็น มิกซ์กันทั้งชายทั้งหญิง อยู่ในรวมกันในสาขาเดียวกัน ร่วมกันในบ่อเดียวกัน หลังจากที่วิ่งออกมาแล้ว มีกิจกรรม Ice Bath แล้วก็มาแช่ออนเซ็นกัน ทานอาหารเช้ากัน ก็ ต้องยอมรับว่าตอนนี้ก็ถือว่าเป็นวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่พูดถามว่าพูดถึงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่มันเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งอันนี้ก็เป็นพฤติกรรมอันหนึ่งที่สำคัญเลย คนรุ่นใหม่ที่ดูแลหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น มาให้ความสำคัญ เกี่ยวกับเรื่องของการออกกำลังกาย ดื่มเหล้าน้อยลง ก็ ตอนนี้เขาก็มาปาร์ตี้กันตอนเช้ากันมากขึ้น

อีกกิจกรรมอันหนึ่งที่เป็น Community ของ เรื่องของคนที่ชอบ Pilates ก็ เราก็มีไปจับมือกับ WPS เป็น ก็ถือว่าเป็น เป็น กลุ่ม Pilates นะครับ ซึ่งก็ Active มากนะครับ ก็ ทั้งเขาก็จะมี Section ของเขาที่สวนเวน นะครับ วันนั้นเราก็มีมาจัด นะครับ ที่ ที่โครงการอยู่ใกล้ๆเหมือนกันนะครับ ก็ จะอยู่ที่แล้วหลังจาก ที่ มาเป็นกิจกรรมกลุ่มนะครับ ก็ มา ร่วม มาร่วมเล่นพิลาทิสกันแล้วก็หลังจากนั้นก็เหมือนกันครับก็เข้ามาแช่เซ็นนะครับทานอาหารเช้านะครับแล้วเราจริงๆแล้วเราจะมี แต่มันจะมี Section ที่ 2 นะครับ ก็ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ไปเลยนะครับ จะมี Section ที่ 2 ที่จะไปพัทยากันด้วยนะครับก็ อ่า ตอนนี้ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่ากำลัง อ่า กำลังจะเริ่มเปิดตัวโฆษณานะครับแล้วก็ อ่า รับสมัครนะครับก็ตอนนี้รู้สึกว่าจะพักเก็บไว้ที่ 240 คนนะครับ นะครับซึ่งอันนี้ก็จะไปจัดที่สาขาที่พัทยานะครับ ก็ถือว่าเป็น เป็นๆกิจกรรมที่น่ารักนะครับแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งในการ ที่เราจะสร้างคตี้เข้าๆถึงในกรุ๊ปต่างๆนะครับซึ่งอันนี้ก็เป็น 2 อันนะครับ2อันแรกที่เราที่เราได้มีจัดทำไปในคอเตอร์ที่ 3 นะครับ

ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ สร้าง Awareness ผ่าน KOL และ KOC ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง KOL ที่เป็นคนไทย และ KOL ที่เป็นชาวต่างชาติ สำหรับ Yunomori แล้วก็มีมาตลอด ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา มีคนเข้ามาให้ความสนใจเข้ามารีวิว ถ่ายรูป ทำให้คนได้เห็น เรื่องมิติใหม่ๆ ในการ ในการเข้ามาใช้สปา ปัจจุบัน ของคำว่าสปาเนี่ยมันก็มีการเปลี่ยนแปลงไป มาก ที่ เริ่มต้นในรูปแบบของการให้บริการเป็นแบบ Day Pass ที่เอามา มา นะครับเอามาเปิดตัวในเมืองไทย เคแอลเคซีปัจจุบันนี้ก็ ถือว่าเป็นที่สำคัญในการที่จะทำให้คนรู้จัก น้องใหม่นะครับก็คือคล้ายทัสปาซึ่งก็เปิดมายังไม่ยืนปีอะนะครับ แต่ก็ต้องบอกว่าก็เป็นช่วงหนึ่งที่เราก็จะต้องสร้างแบรนด์นะครับผ่านเอิ่มผ่านสื่อเหล่านี้นะครับก็ จุดขายของเอ่อใครก็ต้องถือว่าเป็นคนให้ความสนใจนะครับเพราะว่าใน ในกรุงเทพเองหรือแม้กระทั่งในเมืองไทยเองนะครับก็สปา ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเป็น generic นะครับก็generic spare ก็ไม่ได้มีใครได้เน้นในเรื่องของศาสตร์กันเอ่อแพทย์แผนไทยหรือการรวดไทยนะครับอย่างแท้จริงนะครับเอ่อสำหรับเราก็เน้นในเรื่องของExperienceของคนที่เข้ามาก็ได้มาเรียนรู้นะครับก็ถือว่าเป็นEducational เอ่อexperienceด้วยนะครับ

อันต่อมานะครับก็คือเป็นเป็นเรื่องของ เอ่อ off peak utilization นะครับก็ซึ่งอันนี้ก็เป็น เอ่อต้องบอกว่าเป็นเป็นจีในการBoost Performanceนะครับเพราะว่าหลายท่านอาจจะเคยที่ผมเคยเล่าให้ฟังอะนะครับว่าในช่วงpeak periodเนี่ยเอ่อก็ลูกค้าของเราจริงๆก็ต้องถือว่าเอ่อเยอะนะครับในชั่ววันเสาร์อาทิตย์หรือในชั่วช่วงเวลาหลังเลิกงานนะครับเอิ่มแต่อันหนึ่งที่เราก็ยังสามารถที่จะมีๆๆช่องให้เราสามารถเติบโตได้ก็คือเรื่องของของoff peak นะครับก็เอ่อในก็คือในช่วงเช้านะครับหรืออาจจะเป็นช่วงกลางคืนนะครับซึ่ง target group มันก็เป็นทั้งกรุ๊ปที่ๆๆแตกต่างกันนะครับก็คนที่มีเวลาอาจจะไม่ได้fix ครับเอ่อเวลามากเนี่ยก็นะครับก็ จะนะครับก็สามารถเข้ามาในช่วงช่วงเช้าช่วงกลางวันได้นะครับแล้วก็มีจัดกิจกรรมอย่างเช่นIce Bathนะครับเอ่อก็ดึงให้คนเข้ามาใช้บริการในช่วงเช้าอ่าปัจจุบันเราก็มีเอ่อไปเน้นในเรื่องของsubscription bass นะครับก็มีทั้งmembership ที่เป็นรายเดือนนะครับก็อ่ามีทั้งให้เลือกทั้งพีคแล้วก็off peak นะครับซึ่งเอ่อoff peak เองก็อยู่แค่เอ่อประมาณเดือนละ2490 บาทนะครับต่อเดือนก็เท่ากับว่าคือสามารถมาแช่เซ็นได้อย่าไม่จํากัดครั้งเลยนะครับทั้งเดือนนะครับ ครับก็นะครับก็ หลักๆนั้นคงจะทำให้เอ่อท่านผู้ฟังได้ๆๆได้เห็นอะนะครับว่าเอ่อstargetของเรตอนี้ก็เน้นทั้งในเรื่องของPerformanceนะครับของเอ่อของสาขาในปัจจุบันแล้วก็รวมไปถึงในเรื่องของการขยายสาขาในอนาคตได้นะครับเอ่อเดี๋ยวในลำดับต่อมานะครับก็คงจะเป็นเดี๋ยวผมจะให้ทางคุณเพชรเนี่ยมาเล่าในเรื่องของFinancial Highlightนะครับในไตรมาส 3 ให้ฟังนะครับครับเชิญครับครับขอบคุณครับเอ่อสวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่านแล้วก็เอิ่มเอ่อ นักวิเคราะห์นะครับแล้วก็ท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านนะครับสำหรับเอ่อ วันนี้นะครับผมเพชรนะครับเป็นประธานเจ้าหน้าที่เอ่อ บริหารทางฝ่ายบัญชีและการเงินก็ขออนุญาตมานำเสนอนะครับแล้วก็ Recap นะครับPerformanceของเอ่อคอเตอร์ 3 นะครับ อ่าในปีนี้นะครับผม เคก็เริ่มต้นอย่างแรกนะครับก็คิว3ถือว่าเป็นเป็นคิวที่ที่ดีสำหรับเรานะครับเป็นเป็นคิวที่มีเอ่อ ยอดของการเติบโตนะครับไม่ว่าจะเป็นเป็นทั้งในเรื่องของเอ่อจำนวนลูกค้าเอ่อรายได้แล้วก็กำไรนะครับอัตรากำไรนะครับก็สำหรับจะ Recap เร็วๆนะครับก็อย่างใน Q3 ของเราเนี่ยก็ในแง่ของปริมาณลูกค้าเนี่ยเราถือว่าเราเอ่อมีปริมาณผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือนอะนะครับก็ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เราเปิดบริการมานะครับในคิวนี้ประมาณสัก 26,700 กว่าคนนะครับต่อเดือนนะครับอันนี้เป็นตัวเลขต่อเดือน นี้ก็ถือว่าเป็นคิวที่ดีมีลูกค้าจำนวนลูกค้ามากขึ้นนะครับสูงสุดนะครับอันที่ 2 เร็วๆก็คือในแง่ของตัวรายได้แล้วก็ตัวกำไรนะครับรายได้เนี่ยเรามีอัตราการเติบโตQ1Q เนี่ยเมื่อเทียบกับQ2เนี่ยอยู่ที่ประมาณสัก6.8% นะครับ แล้วก็มีอัตรากำไรอยู่ที่เพิ่มสูงขึ้นนะครับอ่ามาประมาณสัก 268% จาก Q2 นะครับก็ถือว่าเติบโตได้ค่อนข้างสูงนะครับ อ่าในส่วนต่อมาก็เป็นเรื่องของความสามารถในการทำกำไรคือในแง่ของ Gross Profit margin ของเราเนี่ยก็มีการปรับระดับยกระดับขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณสัก 42.3% นะครับโตขึ้นจาก Q2 ที่ระดับประมาณสัก 38% นะครับ ส่วนสุดท้ายก็เป็นเรื่องของตัว อ่าEBITDA margin นะครับซึ่งก็ขยับตัวเพิ่มขึ้นมาเช่นกันนะครับจากระดับประมาณสัก 26% ขึ้นมาเป็นประมาณสัก 29% อันนี้ก็จะเป็นไฮไลท์สำหรับอ่าในคิว3เร็วๆทีนี้เราจะลงไปลองดูในรายละเอียดกันบ้างนะครับว่า ว่าแต่ละ ธุรกิจหรือว่าในแต่ละ สาขาหรือธุรกิจของเราเนี่ยเป็นอย่างไรนะครับในแง่ของปริมาณลูกค้าการเติบโตของปริมาณลูกค้าเนี่ยก็เอ่อจากที่ผ่านมา 3 ปีเนี่ยก็คือเราก็มีปริมาณลูกค้เติบโตเฉลี่ยประมาณสักปีละ7-8%แล้วนะครับเอ่อแต่พอมาในปีๆนี้เอ่อคิวที่ 3 เนี่ยเราก็ถือว่ามีปริมาณผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือนเนี่ยขึ้นมาจากเทียบกับปีที่ปี2520 เอ่อ2567นะครับก็ถือว่าเป็นเรคอร์ดใหม่นะครับของบริษัทก็ถือว่าเป็นที่เรื่องที่น่ายินดีนะครับเอ่อในแง่ของผู้มาใช้บริการนะครับรวมไปถึงถ้าเรามาลองมองเจาะลงไปในธุรกิจหรือว่าเอ่อBU ของเราเนี่ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบ่งหลักๆมาเป็นเซ็นกับสปานะครับเราก็จะมันจะเห็นว่านะครับว่าปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้เซ็นของเราเนี่ยก็เอ่อมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนะครับเอ่อเรื่อยๆนะครับจากเฉลี่ยเนี่ยประมาณสักในคิวที่ 2 เนี่ยประมาณสัก 60,000 กว่าคนนะครับเอ่อเราก็เพิ่มขึ้นมาประมาณสัก 15% มาเป็นอยู่ที่ระดับประมาณ 70,000 คนนะครับโดยที่เอ่อลูกค้าเนี่ยก็เพิ่มขึ้นในทุกสาขานะครับเอ่อพัทยา สาธร แล้วก็สุขุมวิทนะครับก็ทุกสาขามีลูกค้าเพิ่มขึ้นนะครับอาจจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่แตกต่างกันบ้างแต่ว่าเพิ่มขึ้นทุกสาขานะครับ เอ่อพอมาดูในส่วนของสปากันบ้างนะครับ ในส่วนของสปาเนี่ยเราก็จะแบ่งมาเป็น 2 แบรนด์นะครับแบรนด์แรกก็คือตัวยูที่เรดอยู่แล้วแล้วก็แบรนด์ที่สองเรื่องก็คือแบรนด์คลายที่เราเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้นะครับก็จะเห็นว่าถ้าดูในส่วนของเองเนี่ยอ่าตัวปริมาณลูกค้าเนี่ยก็ถือว่าค่อนข้างคงที่จากตัว Q2 นะครับอยู่ที่ระดับประมาณสัก 22,000 คนนะครับ ในขณะที่ถ้าเรามาดูพิจารณาที่คลาย เพิ่งที่เพิ่งเปิดขึ้นมาเนี่ยเราก็จะเห็นว่าคลายเนี่ยก็มีอัตราการเติบโตของปริมาณลูกค้าเนี่ยค่อนข้างอยู่ในระดับที่ดีนะครับประมาณสัก68%นะครับในQอQนะครับก็ถือว่าอันนี้ก็เป็นเป็นช่วงที่เราเปิดใหม่เราก็จะเห็นอัตราการการเติบโตที่ค่อนข้างสูงนะครับอันนี้ก็จะเป็นส่วนของตัวในแง่ของปริมาณลูกค้านะครับ ถัดมานะครับ ถัดมาพิจารณาในส่วนของรายได้กันบ้างเมื่อมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้นเราก็จะเห็นว่าตัวรายได้เนี่ยเราก็เอ่อมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเอ่อเรื่อยๆเหมือนกันในทุกBUนะครับเพราะเนื่องจากปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนะครับโดยที่เอ่อ ธุรกิจเซ็นของเราเนี่ยมีตัวรายได้ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่สูงที่สุดนะครับประมาณสัก10.8%QอQนะครับเอ่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากประมาณสัก 30 ล้านใน Q2 เพิ่มมาเป็นประมาณสัก 34 ล้านนะครับใน Q3 นะครับในส่วนของตัว Business fire เองเนี่ยก็ถือว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยถือว่าใกล้ถือว่าคงเดิมคงที่จาก Q2 นะครับอยู่รายได้อยู่ประมาณสัก 24 ล้านนะครับ อ่าและอีกส่วนหนึ่งที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดีก็คือในส่วนของธุรกิจอาหารนะครับซึ่งก่อนนี้ก็มีอัตราการเติบโตอยู่ประมาณสัก 5.6% นะครับเอ่อเพิ่มขึ้นจากระดับประมาณสัก7.9ล้านมันเป็นสัก 8.4 ล้าน โดยที่ถ้าเรามามองภาพรวมนะครับของรายได้ทั้ง Q2 และ Q3 เนี่ยเทียบเปรียบเทียบกันเนี่ยเราก็จะเห็นว่าอัตราการเติบโตของรายได้รวมทั้งหมดเนี่ยของบริษัทเนี่ยเอ่อก็เพิ่มขึ้นจากประมาณสัก 63.1 ล้านนะครับเพิ่มมาเป็นสัก 68.4 นะครับโดยอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณสัก 8.4% นะครับซึ่งสัดส่วนของรายได้ของในแต่ละธุรกิจเนี่ยก็ยังมีความใกล้เคียงกันนะครับโดยที่เซ็นเนี่ยจะAccountประมาณสัก 49-50%แล้วก็ปาอยู่ประมาณสัก 35-38%นะครับแล้วก็F&Bเนี่ยอยู่ประมาณ 13-15% นะครับ ต่อมามาดูในแง่ของตัวการควบคุมต้นทุนนะครับเรื่องของตัวOperating cost control กันบ้างนะครับอ่าถ้าเรามาดูในคิวนี้เนี่ยก็จะเห็นว่าจริงๆแล้วถือว่าเรามีพัฒนาการในเรื่องของการควบคุมต้นทุนได้ค่อนข้างดีขึ้นเมื่อเทียบกับคิวก่อนหน้านะครับก็ถ้าจะมาดูในธุรกิจก็คือคือต้นทุนของการให้บริการเนี่ยเรามีต้นทุนเอ่ออยู่ประมาณสัก 33.3 ล้านบาทในแง่ของOperating costนะครับโดยที่เอ่อตัวGross Profit margin เนี่ยของเราเนี่ยมีการปรับตัวสูงขึ้นนะครับจาก 39.1%เนี่ยขึ้นมาเป็น 42.4%หรือขึ้นเพิ่มขึ้นประมาณสัก3.3percentage pointนะครับซึ่งก็ถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นนะครับ อ่าในส่วนที่ 2 ก็เป็นส่วนของF&B F&Bเนี่ยจริงๆถือว่าเราควบคุมต้นทุนได้ดีแล้วก็มีในขณะที่ตัวรายได้เราเพิ่มขึ้นเนี่ยมันก็ทำให้ตัว Gross margin ของเราเนี่ยถ่างขึ้นมาสูงพอสมควรนะครับจากระดับประมาณสัก 31% เพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณเกือบๆ 42% นะครับหรือเพิ่มขึ้นประมาณสัก 10.4 percentage pointนะครับซึ่งอันนี้สาเหตุหลักๆๆเนี่ยมาจาก 2 อย่างนะก็คือตัวเรื่องของการควบคุม cost ที่ดีขึ้นนะครับแล้วก็ตัวรายได้ที่เติบโตขึ้น รวมไปถึงอีกอันหนึ่งที่เป็นอันหลักนิดหน่อยก็คือตัวค่าใช้จ่าย One Time ที่มันเคยเกิดขึ้นที่ Q2 เนี่ยปัจจุบันใน Q3 เนี่ยมันก็ไม่มีแล้วเพราะฉะนั้นมันก็เลยทำให้ตัว เอ่ออัตรากำไรเนี่ยมันกลับมาอยู่ในระดับปกตินะครับซึ่งจะอยู่ในระดับประมาณสัก40กว่าเปอร์เซ็นต์นะครับ ซึ่งมาพิจารณาดูที่ตัวOperating costโดยรวมนะครับของทั้งทุกทุกธุรกิจเนี่ยนะครับก็อ่าตัว costโดยรวมเนี่ยก็ถือว่าปรับตัวลดลงนะครับจาก 39 ล้านมาอยู่ประมาณสัก 38.8 ล้านในขณะที่ตอนนี้เนี่ยเรามีรายได้เพิ่มสูงขึ้นนะครับมันก็เลยทำให้ตัวGross profit marginโดยรวมของเราเนี่ยเพิ่มขึ้นจาก 38%นะครับมาอยู่ที่ประมาณสัก42.3% อันนี้ก็ถือว่า เอ่อขึ้นมาในระดับที่เกือบสูงที่สุดละที่เราเคยทำมานะครับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ถัดมานะครับมามาดูในเรื่องของตัวค่าใช้จ่ายแล้วก็ตัวอ่ากำไรสุทธิกันบ้างนะครับในส่วนของตัวค่าใช้จ่ายในการอ่าขายนะครับหรือว่าตัว selling expense เนี่ยใน Q3 เราเองก็ถือว่าอ่าควบคุมอยู่ในระดับที่ดีนะครับใกล้เคียงกับ Q2 ครับลดลงเล็กน้อยจาก 4.3 มันเหลือ 4 ล้านนะครับก็ถือว่า เอ่อ ก็ถือว่าอ่าอันนี้เป็นส่วนที่เราควบคุมขั้นจ่ายในการตลาดอะไรต่างๆได้ค่อนข้างที่จะดีนะครับในส่วนถัดมาโอเคเรามาดูในเรื่องของตัวเอ่อAdministrative expenseกันบ้างอันนี้เราจะเห็นว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่เราเพิ่มขึ้นมานะครับจาก Qก่อนหน้าประมาณสัก 2 ล้านบาทนะครับ ซึ่งหลักๆสาเหตุหลักจริงๆก็คือมาจากตัวค่าใช้จ่าย One Time ในช่วงของช่วงที่เราทำ Road Show IPO อะไรต่างๆในช่วงเอ่อเดือน 9 เดือน 10 นะครับซึ่งมันก็จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนเนี้ยมันเป็นค่าใช้จ่าย One Time ที่เข้ามาก็เลยทำให้เอ่อตัว ของเราเนี่ยสูงขึ้นนะครับในปีนี้นะครับใน Q3 นี้นะครับ อ่าแต่ยังไงก็ตามครับถ้ามาดูในผลของกำไรสุทธินะครับถ้า Q3 เทียบกับ Q2 เนี่ยเราก็มีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนะครับจากประมาณสัก 0.9 ล้านบาท Q2 ขึ้นมาเป็น 3.4 ล้านบาทนะครับซึ่งก็เอ่อมีอัตราการเติบโตอยู่ที่268%นะครับซึ่งอันนี้ก็เป็นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้วก็การควบคุมจัดที่ขึ้นนะครับ ครับต่อมาอาจจะเป็นSnapshot เร็วๆนะครับสำหรับตัวเลขในงบกำไรขาดทุนที่เมื่อกี้ได้พูดไปแล้วนะครับก็อาจจะแสดงให้ให้ให้ท่านอ่านักลงทุนทุกท่านได้เห็นนะครับว่าโอเคอัตราในถ้าเรามองในQ QอQของเราเนี่ยก็จะถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก Q2 แล้วก็มาเป็น Q3 นะครับแต่ยังไงก็ตามถ้าเกิดเราเอา Q3 ของปีนี้ไปไปดู year on year กับปีที่แล้วเนี่ยอาจจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยในแง่ของรายได้นะครับเอ่อในส่วนของกำไรเองก็ตามเนื่องจากว่าเรามีการเปิดสาขาใหม่นะครับก็อาจจะมีการแชร์ผลขาดทุนมาบ้างซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของเนเจอร์ปกติของการเปิดธุรกิจใหม่ซึ่งเราก็หวังว่าเอ่อ Q4แล้วก็ปีหน้าเนี่ยมันก็จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นซึ่งเราก็เห็นอ่าสัญญาณมาแล้วจาก Q2 มา Q3 เนี่ยตอนนี้เราก็ชัดเจนนะครับว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงที่ในเชิงที่ดีขึ้นนะครับ ครับต่อมาก็ขอพูดถึงตัวเอ่อ Balance sheet หรือว่าตัวเอ่อFinancial State of financial position ของเราบ้างในแง่ของตัว อ่าฐานะทางการเงินนะครับก็นะครับก็ เอ่อในปัจจุบันก็อันนี้ขอ Recap เร็วๆในปัจจุบันเนี่ยเราก็มีตัวณสิ้นเดือนQ2 เอ้ยQ3เนี่ยเราก็มีปริมาณสินทรัพย์อยู่รวมอยู่ที่ประมาณ 849 ล้านนะครับโดยที่เป็นเงินสดอยู่ประมาณสัก38.5 ล้านนะครับแล้วก็เอ่อหลักๆเป็นที่ดินอาคารและอุปกรณ์ประมาณ314 ล้านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก Q2 เอ้ยจากสิ้นปี 67 นะครับแล้วก็อ่าตัวส่วนของสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดของเราก็คือตัวสิทธิการใช้หรือR O Uนะครับซึ่งซึ่งเนื่องจากว่านี้เป็นเนเจอร์ของธุรกิจซึ่งว่าเราจะมีตัวอ่าการเช่าที่ดินหรือว่าเช่าอาคารเนี่ยในการประกอบธุรกิจนะครับซึ่งอันนี้ก็จะเป็นส่วนที่เป็นก้อนที่ใหญ่ที่สุดใน assetของเรามาเสมอนะครับ เอ่พอมาดูในฝั่งของตัวหนี้สินและก็ส่วนของผู้ถือหุ้นกันบ้างนะครับก็จริงๆแล้วหนี้สินหลักๆที่มีการเปลี่ยนแปลงเอ่อในตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนมาถึงคิวปัจจุบันเนี่ยก็คือตัวตัวเงินกู้ปริมาณเงินกู้สถาบันการเงินที่เอ่อมีส่วนที่ทยอยลดลงเรื่อยๆจากการที่เราเนี่ยก็มีการทยอยชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินมาตลอดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานะครับก็เลยทำให้ตัวbank loanของเราเนี่ยอยู่ในระดับที่ประมาณสัก 62 ล้านจากจากก่อนหน้านี้ประมาณสัก 75 ล้านนะครับก็อันนี้ก็เป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างจะเยอะในในตัวเอ่อส่วนของหนี้สินนะครับแล้วก็ส่วนหนี้สินหลักอีกอันหนึ่งที่เป็นส่วนใหญ่เลยก็คือตัวเอ่อซึ่งอันนี้ก็เป็นเนเจอร์ปกติจากการเช่าซึ่งมันก็อยู่ประมาณสัก 2เอ่อ490กว่าล้านนะครับก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนะครับมีส่วนหนึ่งก็คือส่วนของผู้ถือผู้ถือหุ้นนะครับก็มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากเรามีการจ่ายเงินปันผลเข้าไปในเดือนพฤษภาคมของปีนี้นะครับก็จะทำให้เอ่อตัวShareholder's equityของเราเนี่ยลดลงนะครับ ต่อมาถ้ามาดูในส่วนของตัวเอ่ออัตราส่วนหนี้สินต่อทุนนะครับในดูในแง่ของตัวความเสี่ยงทางการเงินของเรากันบ้างนะดูจากอ่าที่เราถ้าจะดูจากพิจารณาจาก Total death to equity ปัจจุบันเนี่ยเรามีอัตราส่วนส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่าซึ่งอันนี้มันคิดจากหนี้สินรวมนะฮะซึ่งมันประกอบไปด้วยตัวอ่าสิทธิการเช่าซะเยอะนะครับประมาณ 400 กว่าล้านแต่ยังไงก็ตามเนี่ยถ้าเรามาดูอ่าในส่วนของinteres varying death to equity ratioในปัจจุบันของเราเนี่ยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณสัก0.26%ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เราเปิดดำเนินงานมานะครับซึ่งก็หมายความว่าจริงๆแล้วเนี่ยเราเอิ่มพึ่งพาการใช้หนี้สินเนี่ยถือว่าต่ำมากในปัจจุบันนะครับซึ่งในอนาคตเนี่ยเราเองก็ถือว่ามีRoomมหาศาลนะครับในการที่เราจะใช้เงินกู้ในการขยายกิจการโดยที่ระดับความเสี่ยงทางการเงินเราเนี่ยก็ยังควบคุมให้อยู่ในระดับที่ต่ำได้อยู่นะครับซึ่งอันนี้ก็จะถือว่าเป็นจุดแข็งที่เรามองว่าในอนาคตมันมีโอกาสเติบโตได้ไม่ว่าจะเป็นจากเอ่อตัวธุรกิจเองแล้วก็ในส่วนของการใช้เอ่อเครื่องมือทางการเงินต่างๆนะครับก็โดยภาพรวมนะครับของตัว Q3 แล้วก็เอ่อฐานะทางการเงินรวมถึงผลประกอบการผมก็อาจจะขอจบไว้ในส่วนนี้เท่านี้นะครับในส่วนต่อไปเนี่ยเดี๋ยวทางคุณสมิธนะครับก็อาจจะมาเล่าในส่วนของโครงการณ์ในอนาคตแล้วก็ Outlook นะครับ กันบ้างนะครับ ครับ ครับก็ในส่วนสุดท้ายนะครับเอ่อก็คงจะมีเดี๋ยวผมคงจะอัปเดตในเรื่องของโครงการใหม่นะครับเอ่อซึ่งก็คือโครงการที่ทองหล่อก็คงหลายท่านน่าจะเอ่อมีคำถามเข้ามานะครับในเรื่องของไอ้โครงการSocial wellnes Spaceแห่งใหม่นะครับซึ่งเอ่อก็เอ่อตามแผนของเรานะครับก็เราจะเปิดนะครับในเอ่อ จะเปิดไอ้ตัวโครงการเซ็นนะครับเอ่อสาขาที่ 5 นะครับเอ่อหรือSocial wellnes Space นะครับอันนี้ใน Q2 ปี 2570 นะครับก็เหลืออีกประมาณ 18 เดือนนะครับอีกประมาณ 18 เดือนนะครับแล้วก็ตามแผนที่เราวางไว้นะครับตั้งแต่เอ่อปีนี้ไปจนถึงปีเอ่อ2570เนี่ยก็คือเราต้องการที่จะขยายคลายกับพักนะครับทั้งหมดอีก 6 สาขาด้วยกันนะครับก็เอ่ออันนี้ก็คงเดี๋ยวจะรอรอดูนะครับ ตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไรที่เราเป็นเอ่อคอนเฟิร์มนะครับแต่ก็มีมีคนที่เอ่อมีคนที่นำพื้นที่เข้ามาเสนอหลายๆหลายๆหลายLocationนะครับที่น่าสนใจนะครับแต่พักเนี่ยอันหนึ่งที่ใกล้ที่สุดก็คือพักเนี่ยเราจะเปิดสาขาเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้นะครับที่แม็ครูนราธิวาสนะครับในเรื่องของแผนงานก่อสร้างนะครับของตัวทองหล่อเองเนี่ยก็ปัจจุบันก็ยังontrackนะครับก็เอ่อทุกอย่างยังเอ่อเป็นไปด้วยอย่างราบรื่นนะครับ ซึ่งเดี๋ยวอาจจะเอ่อมาเล่าให้ฟังในเรื่องของsynergyของตัวโครงการนี้อีกทีนึงนะครับก็คือในเรื่องของการที่เราทำไมเราถึงตัดสินใจที่จะลงทุนในเรื่องของการทำโรงแรมนะครับแล้วก็รวมไปถึงในเรื่องของการเอ่อการเอา Onเซ็นนัสปา นะครับเอ่อเข้ามาอยู่ร่วมกันนะครับซึ่งอันนี้ก็เราเองเราก็เห็นในเรื่องของเอ่อเทรนนะครับของคนที่เข้ามาใช้บริการอ่สปานะครับที่ให้ความสำคัญในเรื่องของโซเชียลมากขึ้นนะครับแล้วก็รวมไปถึงเอ่อตัวอ่าตัวWellness Travelingเนี่ยก็น่าจะดูเปลี่ยนไปนะครับนะครับ นะครับอันนี้ก็จะให้เห็นถึงภาพรวมของตัวโครงการนะครับก็จะมีทั้งหมด 2 อาคารด้วยกันนะครับก็เป็นโรงแรมทั้งหมด 79 ห้องนะครับแล้วก็เอ่อในพาร์ทของเอ่อเซ็นเนี่ยก็ก็จะมีเอ่อส่วนที่จะเป็นgenderนะครับก็จะเป็นส่วนส่วนนี้ก็จะเป็นถือว่าเป็นsocial spaceอันหนึ่งที่คนที่ที่เข้ามาใช้บริการเซ็นนั้นสามารถเอ่อเข้ามาแชร์ร่วมกันได้นะครับก็เป็นครั้งแรกนะครับในเอ่อที่เราจะทำเรื่องนี้กับทางภายใต้แบรนด์ยูโมรินะครับ เอ่อนอกเหนือจากนั้นโครงการนี้จริงๆก็มีที่จะลดนะครับเอ่ออีกเอ่อความ 80 กว่าคันด้วยนะครับก็ถือว่าใน ในในส่วนท้องหล่อเนี่ยก็เป็นเป็นจุดขายที่สำคัญนะครับเป็นสิ่งที่คนต้องการนะครับเอ่อครับ โอเคเดี๋ยวเราอาจจะไปเร็วๆตอนนี้เราอาจจะต้องเข้าในส่วนของ Q&A แล้วนะครับแต่ก็ผมคิดว่าmotivationในการทำโครงการนี้อย่างที่ผมบอกนะครับเราเห็นพฤติกรรมที่มันเปลี่ยนไปนะครับอย่างนี้ผมอาจจะขออนุญาตข้ามนะครับเอ่อไปจนถึงในเรื่องของOutlook นะครับของตัวธุรกิจสปานะครับแล้วก็สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นนะครับว่าไอ้ตัวWellness Economyเนี่ยทั่วโลกเลยเนี่ยก็จริงๆแล้วเอ่อกำลังเติบโตนะครับอย่างต่อเนื่องเติบโตอย่างก้าวกระโดดนะครับก็ตอนนี้ก็มองกันที่ว่าเอ่อWellnesconomy เนี่ยจะโตขึ้นไปถึง 7.9 ทริลเลียนนะครับแล้วก็เอิ่มเมืองไทยเองเนี่ยก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางนะครับของเอ่อของเป็นWellness Destinationนะครับซึ่งหลายภาคส่วนก็กำลังผลักดันก็ถือว่าเป็นเป็นWellness soft Powerนะครับที่สำคัญอันหนึ่งของเมืองไทยนะครับแล้วก็รวมไปถึงเรื่องของเทรนด์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่นะครับที่กำลังจะชิฟเอ่อที่เรื่องของการเข้ามาใช้บริการสปานั้นมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้เป็นแค่ในเรื่องของการเข้ามาพักผ่อนอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องของการเข้ามาดูแลสุขภาพนะครับเอ่อแล้วก็เอ่อคำว่าWellness ปัจจุบันไม่ได้ Relatedกับแค่คนสูงอายุอีกต่อไปแล้วนะครับจริงๆก็เป็นทั้งกับทั้ง Generationเอ่อที่เป็นซีนะครับแล้วก็เอ่อแล้วก็กลุ่มมิลเลนเนียลนะครับ นะครับก็เอ่อสำหรับKey takeawayที่สำคัญสำหรับวันนี้อ่ะนะครับก็คงจะเอ่อขออนุญาตพูดตอกย้ำในเรื่องของเอ่อการที่เนี่ยเป็นถือว่าเป็นLeading Onsen and wellnes platformนะครับในเมืองไทยนะครับเอ่อเรามีเรื่องของBrand Equityที่ที่แข็งแรงนะครับมีกลุ่มลูกค้าเอ่อที่ที่Balanceนะครับมีทั้งกลุ่มคนไทยกลุ่มต่างชาติแล้วก็กลุ่มนักท่องเที่ยวนะครับเรายังมีเอ่อได้เทวินจากWellness Mega Trend นะครับซึ่งปัจจุบันก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้วก็เติบโตอย่างที่ที่ที่หลายๆหลายท่านอาจจะคาดไม่ถึงนะครับก็คิดว่าน่าจะอาจจะเติบโตมากกว่าเอ่อล่าสุดเนี่ยรู้สึกว่าcastมาเนี่ยก็คือจะมากกว่าที่เราคอรายปีที่แล้วอีกนะครับ