สรุปงบล่าสุด OGC
บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) : วิเคราะห์โอกาสการลงทุน
บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) หรือ OGC เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องแก้วของเอเชีย โดยผลิตและจำหน่ายภาชนะเครื่องแก้วคุณภาพดี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในบ้าน ร้านอาหารและโรงแรม การนำไปเป็นของขวัญ ของชำร่วย หรือใช้เป็นเครื่องมือการส่งเสริมการขาย ในไตรมาส 3/2567 บริษัทเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยลบหลายประการ ส่งผลให้รายได้จากการขายลดลง 2.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินบาทส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออก นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าในประเทศและภูมิภาคเอเชียยังชะลอตัว และบริษัทยังประสบกับภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทจะมีการเปิดสายการผลิตสินค้าจากเตาหลอมโซดาไลม์ (เตาหลอม ) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับความต้องการสินค้าในช่วงไตรมาส 4/2567 แต่บริษัทยังคงมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/2567 (66.22 ล้านบาท) และในงวดเก้าเดือน (150.68 ล้านบาท)
บริษัทมีแผนดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุน การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทคาดหวังว่าจะสามารถฟื้นตัวจากผลกระทบในไตรมาสที่ผ่านมาและกลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
การวิเคราะห์ผลประกอบการและอัตราส่วนทางการเงินของ OGC แสดงให้เห็นภาพที่น่าสนใจ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 1.45 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าบริษัทจะนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ โดยที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน "ติดลบ" (-203.425 ล้านบาท) แต่การมีวงจรเงินสด 233.49 โดยที่ "ยิ่งน้อยหรือติดลบ ยิ่งดี" สะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ ทำให้มีเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/2567 (66.22 ล้านบาท) และในงวดเก้าเดือน (150.68 ล้านบาท) ถือเป็นจุดอ่อน ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (2564-2567) อยู่ที่ประมาณ 15.39 บาท โดยที่ราคาหุ้นในปัจจุบัน (2567) อยู่ที่ 7.44 บาท ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ล่าสุด -100 แสดงถึงความคาดหวังนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำ โดยที่ YIELD ล่าสุด 2.71% เป็นไปได้ว่าอาจไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อรับเงินปันผล
โดยรวมแล้ว การลงทุนใน OGC อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสลงทุนในระยะยาว เนื่องจากบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน
**โอกาส**
* บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
* บริษัทมีแผนดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
* บริษัทมีโอกาสในการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ
**ความเสี่ยง**
* บริษัทมีความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
* บริษัทมีความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด
* บริษัทมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
(10.02%)
(2.12%)
(19.78%)
(27.18%)
(27.09%)
(25.60%)
(15.98%)
(0.18%)
(51.17%)
(536.64%)
(23.86%)
(450.42%)