สรุปงบล่าสุด OGC

บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ หุ้น OGC: บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) ปี 2567 (อัปเดตข้อมูล)
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) (OGC) สำหรับปี 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผย รวมถึงข้อมูลด้านฐานะการเงินที่เพิ่มเติมเข้ามา
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 OGC มีรายได้จากการขายรวม 1,782.10 ล้านบาท ลดลง 10.40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บริษัทประสบผลขาดทุนสุทธิ 96.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลขาดทุนต่อหุ้น 4.52 บาท สาเหตุหลักมาจากการปิดเตาหลอมโซดาไลม์เพื่อซ่อมบำรุงรักษาตามแผนงานในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ การขายปลีกผ่านห้างสรรพสินค้าในประเทศและช่องทางออนไลน์ รวมถึงความต้องการสินค้าในภูมิภาคเอเชียที่ชะลอตัวลง และภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกับปีก่อนได้ เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 4
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
จากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียดในช่วงปี 2567 แต่มีการกล่าวถึงผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการดำเนินงานของบริษัท
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** ลดลง 10.40% จาก 1,988.89 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1,782.10 ล้านบาท ในปี 2567
* **ต้นทุนขาย:** ลดลง 10.06% ตามปริมาณสินค้าที่ขายได้ลดลงและต้นทุนพลังงานที่ลดลง
* **กำไรขั้นต้น:** ลดลง 11.09%
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ค่อนข้างทรงตัว ลดลงเล็กน้อยจาก 32.49% ในปี 2566 เป็น 32.24% ในปี 2567
* **ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย:** เพิ่มขึ้น 0.71%
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 34.81% ส่วนใหญ่มาจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพจากการรื้อเตาหลอม และการจ้างพนักงานทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
* **ต้นทุนทางการเงิน:** เพิ่มขึ้น 36.06% เนื่องจากการจัดหาเงินทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการดำเนินงานและการลงทุน
* **กำไร (ขาดทุน) สุทธิ:** เปลี่ยนจากกำไรสุทธิ 14.03 ล้านบาท ในปี 2566 เป็นขาดทุนสุทธิ 96.40 ล้านบาท ในปี 2567
สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือ การหยุดผลิตชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุงเตาหลอม, ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน, ความต้องการสินค้าที่ลดลงในบางตลาด, และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหาร
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 2.01% จาก 3,850.02 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 3,927.25 ล้านบาท ในปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** ลดลง 25.20%
* **ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น:** ลดลง 31.26%
* **สินค้าคงเหลือ:** เพิ่มขึ้น 5.55%
* **ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์:** เพิ่มขึ้น 6.17%
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 10.40% จาก 1,883.03 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 2,078.82 ล้านบาท ในปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้
* **เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น:** เพิ่มขึ้น 5.23%
* **เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน:** เพิ่มขึ้น 22.81%
* **เงินกู้ยืมระยะยาว:** เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.66%
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** ลดลง 6.03% จาก 1,966.99 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1,848.43 ล้านบาท ในปี 2567 เนื่องจากการรับรู้ผลขาดทุนสุทธิ และการจ่ายเงินปันผล
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** เพิ่มขึ้นจาก 0.96 เท่า ในปี 2566 เป็น 1.12 เท่า ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาหนี้สินที่มากขึ้น
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดในข้อมูลที่ให้มา
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในข้อมูลที่ให้มา
**7. สรุป:**
OGC ประสบปัญหาในการสร้างรายได้และทำกำไรในปี 2567 โดยมีรายได้ลดลงและขาดทุนสุทธิ แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะค่อนข้างทรงตัว แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทขาดทุน การเพิ่มขึ้นของหนี้สินและอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่สูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการจัดการทางการเงินของบริษัท บริษัทจำเป็นต้องหาแนวทางในการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และบริหารจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงผลประกอบการและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต นอกจากนี้ วงจรเงินสดที่นานขึ้น บ่งชี้ว่าบริษัทอาจต้องให้ความสำคัญกับการจัดการสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
(19.81%)
(11.10%)
(75.28%)
(10.67%)
(46.31%)
(0.48%)
(23.52%)
(10.24%)
(180.55%)
(42.70%)
(17.47%)
(46.12%)