NL
บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

NL Development Oppday Q3/2024: ทิศทางและกลยุทธ์สู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

สวัสดีครับ ท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้สนใจทุกท่าน วันนี้เป็นการนำเสนอภาพรวมผลการดำเนินงาน Opportunity Day Q3 ของบริษัท NL Development จำกัด มหาชน

ผู้บริหารที่ทำการนำเสนอ:

  • คุณสรัล โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ
  • คุณวีรวรรณ พิสเถียร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีการเงิน
  • คุณปรัฐกร นิราพันธ์ เลขานุการบริษัท

หัวข้อในการนำเสนอวันนี้มีทั้งหมด 5 หัวข้อ และช่วง Q&A ตอบคำถาม

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ลักษณะการประกอบธุรกิจของ NL Development ยังคงเดิม โดยเน้นการเป็นผู้ประกอบการงานก่อสร้างในฐานะ Main Contractor บริษัทกำลังจะครบรอบ 45 ปี มีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานสถานพยาบาลที่มีความซับซ้อน ปัจจุบันมีบุคลากรที่มีใบประกอบวิชาชีพทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมรวมทั้งสิ้น 122 คน

ขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มต้นจากการ Tender เข้าประมูลหรือเสนอราคา เมื่อได้งานมาก็ลงมือก่อสร้าง จากนั้นส่งมอบโครงการและมีขั้นตอนสุดท้ายในการรับประกันผลงานตามที่สัญญากำหนดไว้

ลักษณะงานแบ่งเป็น 5 ประเภท:

  1. สถานพยาบาล (ความเชี่ยวชาญหลัก)
  2. สำนักงานเพื่อการพาณิชย์
  3. อาคารพักอาศัย
  4. อาคารพิเศษ
  5. งานก่อสร้างอื่นๆ

ในปีที่ผ่านมา ได้ยกระดับการบริหารจัดการและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 3 ระบบ ได้แก่ ISO 9001 (บริหารจัดการคุณภาพ), ISO 14001 (จัดการสิ่งแวดล้อม), และ ISO 45001 (จัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย)

ตัวอย่างกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม:

  1. หน่วยงานเอกชน
  2. หน่วยงานราชการ (ใช้งบประมาณแผ่นดิน)
  3. รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานประเภทอื่น ๆ

ตัวอย่างผลงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จในรอบปีที่ผ่านมา:

  • โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทาง (โรงพยาบาล Spine and Joint) มูลค่า 433 ล้านบาท
  • โรงพยาบาลของมูลนิธิภปร. (พระสังฆราชูปถัมภ์) มูลค่า 754 ล้านบาท (แล้วเสร็จปลายปี 2567)
  • งานปรับปรุงอาคารนวมินทร์และอาคารสธ. (โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์) มูลค่า 87 ล้านบาท (แล้วเสร็จปลายปี 2567)
  • งานปรับปรุงโครงการ BBL at MDCU (คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์) มูลค่า 45.7 ล้านบาท (ระยะที่ 1 แล้วเสร็จปลายปี 2567)
  • โครงการปรับปรุง OR (ห้องผ่าตัดพิเศษ โรงพยาบาลจุฬาฯ) มูลค่าประมาณ 74 ล้านบาท
  • งานซ่อมแซมท่อน้ำเสีย (อาคารนวรัตน์บริพาร โรงพยาบาลจุฬาฯ)
  • ปรับปรุงอาคาร National ITMX (สมาคมธนาคาร) มูลค่า 10 ล้านบาท
  • ปรับปรุงพื้นที่ชั้น 4 อาคารทศมินทร์ (โรงพยาบาลราชวิถี)

ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Industry Overview)

อ้างอิงบทวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรีและ SCB EIC ทั้งสองหน่วยงานมีความเห็นคล้ายกันเกี่ยวกับสถานการณ์รับเหมาก่อสร้าง ในปี 2568 งานภาครัฐขยายตัวเล็กน้อย (2-3%) ในขณะที่งานก่อสร้างภาคเอกชนหดตัว (3-4%) สัดส่วนงานภาครัฐต่อเอกชนเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐมีสัดส่วนประมาณ 60% ของภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งหมด การเติบโตของงานภาครัฐนำโดยงาน Infra และ Mega Project

งบประมาณแผ่นดินปี 2569 งานก่อสร้างอาคารภาครัฐยังอยู่ในสภาพที่ทรงตัว มีงานทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

การก่อสร้างปี 2569-2570 อาจมีอัตราเติบโตแต่ไม่สูงนัก (เฉลี่ย 2% ต่อปี) การลงทุนภาครัฐยังเป็นตัวนำหลักในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ขยายตัว 3-3.5%) ในขณะที่งานงบลงทุนของภาคเอกชนทรงตัวหรือหดตัวลงเล็กน้อย (0.5%) งานที่อยู่อาศัย (โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม) หายไปจากตลาดภาคเอกชน

แนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างมีปัจจัยที่ท้าทาย โครงสร้างต้นทุนงานก่อสร้าง:

  1. Labor/Subcontractor (30%)
  2. ค่าดำเนินการอื่นๆ (15%)
  3. เครื่องมือ/เครื่องจักร (10%)
  4. วัสดุหลัก (45-50%)

ต้นทุนวัสดุก่อสร้างค่อนข้างทรงตัว ขยับขึ้นไม่มาก ยกเว้นซีเมนต์และวัสดุนำเข้าบางประเภท แต่เหล็กอยู่ในขาลง จุดเปราะบางคือเรื่องของแรงงานที่ขาดหายไปจากระบบ ทำให้ต้นทุนด้านแรงงานปรับขึ้นบ้าง

ปัจจัยอื่น ๆ ที่กระทบโดยตรงคือผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคืออาจมีการ Panic ของ End Consumer หรือการที่อาจจะเคร่งครัดมากขึ้นในกฎระเบียบ อย่างไรก็ตามในระยะกลางถือว่าเป็นข้อดี เพราะผู้ว่าจ้างจะให้ความใส่ใจกับคุณภาพในการคัดกรองผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และมีผลงานที่พิสูจน์มาแล้วมากขึ้น

การเข้ามาของเทคโนโลยี (BIM) ไม่ใช่เรื่องอนาคตแต่เป็นเรื่องปัจจุบัน มีการใช้ BIM แพร่หลายมากขึ้นในการพยายามเพิ่ม Productivity ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท นอกจากนี้เทรนด์ของ Green Building จะมาเรื่อย ๆ และเข้มข้นขึ้น

ปัจจัยสำคัญที่มีผลกับผู้รับเหมาที่เน้นงานราชการคือระเบียบต่าง ๆ ที่ออกมาจากภาครัฐ ล่าสุดมี 3 เรื่องสำคัญ:

  1. การประกาศจากคณะกรรมการร่วมมือป้องกันการทุจริตว่าผู้ค้าที่จะเข้าทำงานกับภาครัฐต้องมีนโยบาย Anti-Corruption
  2. กรมบัญชีกลางออกหนังสือเวียนในการปรับปรุงค่าบัญชีแรงงานสำหรับการคิดราคากลาง
  3. การพูดถึงสมุดปกเหลืองผู้รับเหมา ปัจจุบันมีการยกร่างออกมาแล้ว หลักการคือการให้คะแนนการดำเนินงานของผู้รับเหมาภาครัฐว่าจะนำไปสู่ทั้งบทลงโทษและขาที่สนับสนุนผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ

สถานะโครงการ (Project Status)

โครงการ On Hand ปัจจุบัน:

  1. งานก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี (817 ล้านบาท, คืบหน้า 95%)
  2. งานปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลภปร. (ต่อเติมศูนย์พิเศษ, 36 ล้านบาท, คืบหน้า 73%)
  3. อาคาร Mixed-Use สสวท. (758 ล้านบาท, คืบหน้า 25%)
  4. BBL at MDCU (เฟส 2, 60 ล้านบาท, คืบหน้า 21%)
  5. งานก่อสร้างลานอเนกประสงค์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (165 ล้านบาท, คืบหน้า 71%)
  6. ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (838 ล้านบาท, คืบหน้า 11.3%)
  7. อาคารบริการ/บำบัดน้ำเสีย สถาบันประสาทวิทยา (347 ล้านบาท, คืบหน้า 1.3%)
  8. ปรับปรุงคลินิกผู้ป่วยนอก (ระยะ 4, โรงพยาบาลจุฬาฯ, 212 ล้านบาท, คืบหน้า 27%)
  9. ปรับปรุงอาคารนวรัตน์บริพาร (โรงพยาบาลจุฬาฯ, 66 ล้านบาท, คืบหน้า 8.55%)
  10. อาคารคลังสินค้า SP Petpack (15 ล้านบาท, คืบหน้า 21%)
  11. อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอุดรธานี (527 ล้านบาท, เริ่มทำเสาเข็ม)

Backlog ตามงบการเงิน ณ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ 2,738 ล้านบาท แบ่งตาม Project Owner:

  1. หน่วยงานราชการ (67%, 1,842 ล้านบาท)
  2. รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานประเภทอื่น (28%, 773 ล้านบาท)
  3. เอกชน (4.48%, 122 ล้านบาท)

แบ่งตามประเภทงาน:

  1. อาคารสถานพยาบาล (61%, 1,672 ล้านบาท)
  2. อาคารสำนักงานและเพื่อการพาณิชย์ (36.6%, 1,000 ล้านบาท)
  3. งานก่อสร้างอื่น ๆ (2.3%, 63 ล้านบาท)

งานที่อยู่ระหว่างประมูล: มีงานประมูลอยู่ประมาณ 10 โครงการ โดยเฉลี่ย ปัจจุบันมี 12 โครงการ แบ่งตามประเภทลูกค้า:

  1. เอกชน (1 โครงการ)
  2. หน่วยงานราชการ (11 โครงการ)

แบ่งตามประเภทงาน:

  1. สถานพยาบาล (9 โครงการ, 75%)
  2. อาคารสำนักงานและเพื่อการพาณิชย์ (3 โครงการ, 25%)

มูลค่างานที่กำลังประมูล: 11,700 ล้านบาท แบ่งเป็น:

  1. เอกชน (17%, 2,000 ล้านบาท)
  2. หน่วยงานราชการ (83%, 9,800 ล้านบาท)

แบ่งตามประเภทงาน:

  1. อาคารสถานพยาบาล (80%, 9,440 ล้านบาท)
  2. อาคารสำนักงานและเพื่อการพาณิชย์ (20%, 2,350 ล้านบาท)

การยกระดับเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ (Sustainability)

NL ยังคงเดินหน้าดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามกรอบ ESG ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ:

  1. มิติด้านสิ่งแวดล้อม: ดำเนินโครงการภายใต้ธีม "ก่อร่างสร้างความใส่ใจสิ่งแวดล้อม" เช่น การดำเนินงานด้าน Carbon Footprint และกิจกรรมปลูกป่า
  2. มิติด้านสังคม: ดำเนินโครงการ "ก่อร่างสร้างคุณค่าสู่สังคม" เช่น กิจกรรม NL Give Charity (บริจาคโลหิต) และส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ
  3. มิติด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี: ดำเนินโครงการ "ก่อร่างสร้างระบบมาตรฐาน" เช่น การรับรองระบบ ISO 9001, 14001, และ 45001

มีแผนงานยกระดับความยั่งยืนของธุรกิจ โดยมุ่งเป้าไปที่การขอรับรอง CAC ให้เรียบร้อย คาดว่าจะยื่นขอรับรองในช่วง Q2-Q3 ปี 2569 และการขอรับรองมาตรฐานแรงงานไทยในช่วงปลายปี

ผลการดำเนินงานทางการเงิน (Financial Performance)

Financial Performance ของไตรมาส 3 ปี 2568:

  1. รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง: 295.65 ล้านบาท (ลดลง 7% จากไตรมาส 3 ปี 2567)
  2. รายได้ 9 เดือน: 794.42 ล้านบาท (ลดลง 22% จากงวดเดียวกันของปี 2567)
  3. อัตรากำไรขั้นต้น (Q3): 10.54%
  4. อัตรากำไรขั้นต้น (9 เดือน): 11.49%
  5. อัตรากำไรสุทธิ (Q3): ติดลบ 2.67% (ผลขาดทุน 8 ล้าน)
  6. อัตรากำไรสุทธิ (9 เดือน): ติดลบ 2.69% (ผลขาดทุน 21 ล้าน)

สาเหตุหลักของรายได้ที่ลดลงมาจากการเริ่มต้นโครงการใหม่ที่ล่าช้าและทำให้การรับรู้รายได้ไม่เป็นไปตามแผน

อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:

  1. Current Ratio: 2.16 เท่า (ดีขึ้น)
  2. DE Ratio: 0.73 (ลดลง)
  3. IBD ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น: 0.01 (ลดลง)
  4. ROA: ติดลบ 2.45%
  5. ROE: ติดลบ 4.27%

รายงานการใช้เงินที่ได้รับจาก IPO:

  1. ได้รับเงิน IPO: 327 ล้านบาท
  2. ใช้หมุนเวียนในกิจการ: 277 ล้านบาท (ใช้ครบแล้ว)
  3. เงินทุนซื้อเครื่องมือ/อุปกรณ์ก่อสร้าง: คงเหลือ 21 ล้านบาท (จากที่ตั้งไว้ 50 ล้าน)

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม นาทีที่ 25:36 ]

* สาเหตุการขาดทุนสุทธิและรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างลดลงใน Q3/2568: * รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างไม่เพียงพอที่จะ cover ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง * การแข่งขันรุนแรงทำให้การประมูลงานได้ลดลง * การเริ่มต้นงานใหม่ล่าช้า * แผนรับมือกับปัจจัยที่ทำให้รายได้ลดลง: * ปรับโครงสร้างประมาณการต้นทุนและประมาณการกำไรลง * วางแผนประมูลงานอย่างต่อเนื่อง * คัดเลือกงานที่ให้ความสำคัญกับผลงานและ Portfolio ที่เชื่อถือได้ * หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาและเวลาที่ไม่เป็นจริง * ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพ * สถานการณ์การแข่งขันในปัจจุบัน: * Player รายเล็กอาจถอดใจออกจากสนาม * Player ขนาดกลางได้งานเข้ามือเรียบร้อยแล้ว * การแข่งขันยังคงมีอยู่สำหรับ Player ขนาดกลางใหญ่และขนาดใหญ่ * ผลกระทบจากงบประมาณแผ่นดินปี 2569: * งบประมาณปี 2569 ออกมาไม่ล่าช้า * งานประมูลทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง * แผนการรับงานในอนาคต: * ยังคงได้รับทาบทามจากงานเอกชน โดยเฉพาะงานสถานพยาบาล * Selective มากขึ้นในการรับงาน * ประเมินความมั่นคงทางการเงินของโครงการเอกชน * เน้นงานที่มีมูลค่าน้อยกว่า แต่มี Margin ที่สูง * ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: * ความไม่ชัดเจนของ Timeline ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน * โครงการขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีครม.อนุมัติ * ต้นทุนและแรงงาน: * ต้นทุนและแรงงานทุกคนรับรู้ต้นทุนเดียวกัน * เหล็กไม่น่ากังวล * ซีเมนต์ปรับขึ้นมาหมดแล้ว * แรงงานมีการเคลื่อนย้าย แต่ตอนนี้เริ่มนิ่งแล้ว * การรับงานต่างจังหวัด: * เปิดกว้างในการรับงานต่างจังหวัด * ความคืบหน้าของงาน: * เป็นงานที่รับรู้รายได้ไปแล้วและยังรับรู้รายได้อยู่ * Backlog ปัจจุบัน: * Backlog ณ งบ Q3 คือ 2,738 ล้านบาท * มีโครงการใหม่เพิ่มเติม 116 ล้าน * Backlog ณ ปัจจุบันคือ 2,854 ล้าน * การเริ่มรับรู้รายได้: * ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ Q4 เป็นต้นไป * ปีหน้าผลประกอบการจะเป็นอย่างไร: * เชื่อว่างานที่มีอยู่ในมือจะรับรู้รายได้ในปีหน้ามากกว่าปีนี้แน่นอน * จะขยาย Backlog และขยาย Revenue เพิ่ม * Maintain ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ Maintain มาตลอด 2-3 ปี * ภายในปีนี้ยังมีโอกาสรับงานอีก * จะมีการเซ็นสัญญาภายในเร็ว ๆ นี้เพิ่มเติมอย่างแน่นอน * ทันทีที่ได้รับการเซ็นสัญญาจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทันที * การประมูลงานโรงพยาบาลประเภทมูลนิธิ: * มีเข้าประมูล * การแข่งขันและเกณฑ์การตัดสินใจ: * แข่งขันได้กับ Owner ที่ให้ Value กับประสิทธิภาพ * เน้นเกณฑ์ที่มาที่ไปของ Project Reference หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในช่วง Q&A: * Q: ความคืบหน้างานและรายได้: * A: เป็นงานที่รับรู้รายได้ไปแล้วและยังรับรู้รายได้ต่อเนื่อง * Q: backlog ปัจจุบัน: * A: 2,854 ล้านบาท * Q: แผนการรับรู้รายได้ในอนาคต: * A: ทยอยรับรู้ตั้งแต่ Q4 โดยมีทั้งงานซ่อมแซม, Renovate, และโครงการใหม่ * Q: ผลประกอบการปีหน้า: * A: คาดว่าจะรับรู้รายได้มากกว่าปีนี้, ขยาย backlog, และควบคุมค่าใช้จ่าย * Q: แผนการรับงานเพิ่มเติม: * A: มีงานที่ประมูลอยู่และคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ * Q: การประมูลงานโรงพยาบาลมูลนิธิ: * A: มีเข้าประมูล โดยพิจารณาจากความถนัดและความสามารถในการทำ

โดยสรุป NL Development ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน การแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในอุตสาหกรรมก่อสร้าง