สรุปงบล่าสุด NER
บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
แม้ว่ารายได้รวมลดลง 9.51% YoY มาอยู่ที่ 6,163.35 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15.54% เป็น 360.78 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการปรับราคาขายยางพาราสูงขึ้น แม้ปริมาณขายจะลดลงจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ด้านการควบคุมต้นทุนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาอัตรากำไรสุทธิในระดับที่น่าพอใจ
สำหรับการดำเนินงาน NER มีการขยายสาขาเพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยรายได้และกำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงเล็กน้อย YoY เป็นผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สรุปแล้ว NER มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความยั่งยืนตามเทรนด์โลก รวมถึงการลงทุนในโรงงานใหม่และการร่วมทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ การมุ่งสู่ตลาดแอฟริกาและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังเป็นเป้าหมายระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER มีผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 ที่น่าสนใจ โดยรายได้รวมอยู่ที่ 6,163.35 ล้านบาท ลดลง 9.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 360.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.54% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายยางพารา แต่ปริมาณการขายลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการยางในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง
แผนธุรกิจของ NER ในอนาคต เน้นการขยายตลาดต่างประเทศและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ยางแผ่นรมควันแบบย่อยสลายได้ เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ความยั่งยืน NER คาดว่าจะสามารถรักษาระดับกำไรสุทธิในระดับที่สูงได้ในปี 2568 และตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายเป็น 28,000 ล้านบาท
การวิเคราะห์โอกาสลงทุนในหุ้น NER จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและข้อมูลทางการเงินย้อนหลัง พบว่า NER มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ NER ยังมีอัตราส่วนทางการเงินที่น่าสนใจ เช่น P/E 5.41 P/BV 1.18 YIELD 6.8% และ D/E 1.25 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า NER มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี และมีโอกาสเติบโตในอนาคต
**โอกาสการลงทุนในหุ้น NER:**
* **ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม** โดยมี P/E 5.41 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ และ P/BV 1.18 แสดงว่าหุ้น NER มีมูลค่าที่น่าสนใจ
* **ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง** โดย D/E 1.25 ต่ำกว่า 1 แสดงว่า NER มีภาระหนี้สินที่ต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ
* **การจ่ายเงินปันผลที่ดี** โดย YIELD 6.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นจุดดึงดูดให้นักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล
* **โอกาสในการเติบโต** NER ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายและขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
**ความเสี่ยงการลงทุนในหุ้น NER:**
* **ความผันผวนของราคายางพารา** ราคายางพารามีความผันผวนสูง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและกำไรของ NER
* **การแข่งขันในอุตสาหกรรมยาง** ตลาดยางมีการแข่งขันสูง ทำให้ NER ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
หุ้น NER เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี และมีโอกาสเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ราคายางพารา และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงในการลงทุน
**ข้อมูลเพิ่มเติม:**
* NER มีการลงทุนในธุรกิจผลิตยางในประเทศโกตดิวัวร์ โดยถือหุ้นทั้งหมด 100% เป็นการขยายตลาดไปยังภูมิภาคแอฟริกา
* NER มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และมีการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
* NER มีการดำเนินงานด้านสังคม เช่น การสนับสนุนชุมชน การตรวจสุขภาพพนักงาน และการจัดตั้งตลาดสีเขียว
* NER มีการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล โดยมีการจัดทำระบบการบริหารจัดการที่ดี และมีการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับ NER ทำให้เห็นว่าบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืน และมีการดำเนินงานในเชิงบวก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนสามารถพิจารณาได้ในการตัดสินใจลงทุน
(8.62%)
(11.95%)
(29.42%)
(17.03%)
(35.00%)
(25.87%)
(62.93%)
(23.38%)
(24.64%)
(15.54%)
(115.01%)
(85.07%)