สรุป OPPDAY หุ้น NCH

สรุป OPPDAY

```html

NCH อัพเดทผลประกอบการปี 2568 ไตรมาส 3: กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตและโอกาสเติบโตในอนาคต

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน ใน Oppday ครั้งที่ 3 ของปี 2568 นี้ จะเป็นการนำเสนอผลประกอบการและรายละเอียดต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารจาก NCH เข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณปภาวินท์ วัชโรดมรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และคุณจิษาสงวนทรัพทย์ หัวหน้ากลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

บริษัท NC Housing จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 และจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,245 ล้านบาท บริษัทเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อโครงการบ้านฟ้า ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาโครงการคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมออกแบบบ้านหลากหลายสไตล์เพื่อตอบรับความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภคทุก Generation

นอกจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังได้ขยายฐานธุรกิจไปสู่หลากหลายกลุ่มบริการที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพัฒนาที่ดินและผลิตแผ่น Precast ธุรกิจ Sport Club ธุรกิจ Senior Care ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ธุรกิจบริหารชุมชน และบริการอำนวยความสะดวก เช่น การต่อเติมที่อยู่อาศัยและนายหน้าบ้านมือสอง เพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลอย่างครบวงจร

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ปัจจุบันมีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งหมด 13 โครงการ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม กระจายตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โซนเหนือ โซนตะวันตก โซนตะวันออก และจังหวัดชลบุรี มูลค่ารวมกว่า 11,384 ล้านบาท

• ยอด Backlog ณ วันที่ 30 กันยายน มีจำนวนทั้งสิ้น 82 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท
• Inventory มีทั้งหมด 1,349 ยูนิต มูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,365 ล้านบาท

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ในส่วนของ Financial ในช่วง Q3 ที่ผ่านมา มียอดขายทั้งหมด 670 ล้านบาท และมียอดโอนกรรมสิทธิ์ 261 ล้านบาท รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 282 ล้านบาท หากดูยอด 9 เดือนของปี 2568 ยอดขายทั้งหมดอยู่ที่ 1,915 ล้านบาท ยอดโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 776 ล้านบาท ส่วนยอดรายได้ 9 เดือนอยู่ที่ 836 ล้านบาท

ต้นปีได้วางเป้าขายไว้ทั้งหมด 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันทำได้แล้ว 1,915 ล้านบาท คิดเป็น 64% ใน Q3 มียอดขายอยู่ที่ 670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จาก Q2 ต้นปีมีการวางเป้าโอนไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันทำได้แล้ว 776 ล้านบาท คิดเป็น 56% ยอดโอนใน Q3 อยู่ที่ 261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q2 อยู่ที่ 7%

ยอดรายได้ทั้งหมดของ NCH ในช่วง 9 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 836 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วเมื่อเทียบกัน Year-on-Year ประมาณ 17% แต่ในส่วนของราย Q ใน Q3 ทำได้ทั้งหมด 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 6% จาก 265 ล้านบาทใน Q2 ยอด Net Profit ทั้งหมดราย 9 เดือนยังติดลบอยู่ 78 ล้านบาท และเป็นยอดติดลบใน Q3 อยู่ที่ 23 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่าย SG&A 9 เดือนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 256 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก Q2 ประมาณ 4% ยอด Asset ของบริษัททั้งหมดอยู่ที่ 4,924 ล้านบาท และในส่วนของหนี้สินลดลงเหลืออยู่ที่ 1,965 ล้านบาท ประมาณ 15% ส่วน Equity ของบริษัททั้งหมดอยู่ที่ 2,986 ล้านบาท ลดลงประมาณ 1.8% ในส่วนของ DE Ratio บริษัทมี DE อยู่ที่ 0.66 เท่า

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

NCH ได้ร่วมจับมือกับบริษัท TOA เดินหน้าภารกิจ Net Zero ร่วมกันยกระดับที่อยู่อาศัยสู่แนวคิด Green Living โดย TOA ได้นำเสนอนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งบริษัทได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กว่า 74 โครงการ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 639 ตัน

NC Housing ได้ร่วมกิจกรรมพบวาระ 30 ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำโดยนายแพทย์สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมสนับสนุนโครงการบ้านฉลาดประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยในปีนี้โครงการภายใต้แบรนด์ NC ได้รับรางวัลผ่านฉลากเบอร์ 5 ด้วยกัน 3 โครงการ สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบ้านที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

NCH เดินหน้ารุกตลาดบ้านมือสองด้วยการเปิดตัว NC Q พร้อม ชูบริการ One-Stop Service ทั้งการรับซื้อ ขายบ้าน Renovate ต่อเติม ออกแบบและตกแต่ง รวมทั้งรับประกันคุณภาพงาน ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ของ NC Q พร้อม

นอกจากนี้ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งด้านการดูแลหลังการขายและบริหารชุมชน ผ่านบริษัทในเครือ QLM หรือ Quality Living Management ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานบริหารจัดการหมู่บ้านและนิติบุคคล โดยดูแลมามากกว่า 70 โครงการ บริการของ QLM ช่วยต่อยอดตั้งแต่การซื้อบ้านผ่าน NC Q พร้อม ไปจนถึงการอยู่อาศัยจริงภายใต้มาตรฐานเดียวกันของ NC

เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยภายในโครงการ ได้ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยผ่านบริการด้านกีฬาภายใต้แบรนด์ NC Legend ทำหน้าที่เป็น Sport Complex แบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่และรองรับกิจกรรมของผู้ที่อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย ซึ่งปัจจุบันมี 2 สาขา ได้แก่ Township สนามกอล์ฟลําลูกกาคลอง 5 และ Township บ้านฟ้าปิยรมย์ลำลูกกาคลอง 6

รวมไปถึงธุรกิจด้าน Health and Wellness มีแบรนด์ สิริอรุณ เป็นธุรกิจดูแลสุขภาพในเครือ NC Group ที่พัฒนาเพื่อตอบรับกับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ และมุ่งให้บริการ Intermediate Care และ Wellness Care แบบครบวงจร ตั้งแต่การดูแลผู้สูงอายุ การพักฟื้นหลังผ่าตัด การกายภาพบำบัด และแพทย์แผนจีน

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทมีแผนขยายหรือเปิดโครงการในจังหวัดอื่นๆ หรือไม่ สำหรับ NC เองมี Land Bank อยู่ในต่างจังหวัดด้วย นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล มี Land Bank อยู่ที่ชลบุรี พัทยา อยู่หลายแปลง และในปี 2569 มีแผนที่จะนำ Land Bank ออกมาพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและเป็นโครงการต่อเนื่องที่พัฒนาอยู่ ที่พัทยาคาดว่าจะปิดตัวในปี 2569 และจะมีโครงการใหม่เสริมเข้าไป ในส่วนนี้คาดว่าน่าจะเป็นโครงการแนวสูงแต่ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 ชั้น ไม่เกินนี้ ก็อยู่ในบริเวณโซนพัทยา เดี๋ยวอันนี้ก็จะเป็นแผนในปี 2569 อีกทีนึง ส่วนในจังหวัดอื่นๆ มีที่ดินที่เชียงใหม่ก็ยังเป็น Land Bank ของเราอยู่ซึ่งเรามีข้อได้เปรียบก็คือเป็นต้นทุน ต้นทุนเดิม แล้วก็สามารถพัฒนา Product ได้หลากหลาย ก็อยู่บริเวณเส้น Super Highway ของตัวเมืองเชียงใหม่ ก็สามารถทำโครงการ คอนโดมิเนียมแนวราบได้ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ได้เหมือนกัน ส่วนที่ดินอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลของ NC เองก็มี ในบริเวณกรุงเทพฯ โซนเหนือค่อนข้างมาก ก็ปีหน้าจะถูก เอามาพัฒนาด้วยเหมือนกัน

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [นาทีที่ 32:25]

1. ปัจจัยเชิงบวกของบริษัทในปีหน้าที่จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น
   • Sentiment ตลาดน่าจะ Bottom ต่ำสุดในช่วง Q2 และ Q3 ตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้น
   • คาดการณ์ Momentum การจับจ่ายใช้สอยในการซื้ออสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้น
   • ปัจจัยบวกเพิ่มเติมคือ ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะต่ำลง และยอดหนี้ครัวเรือนที่จะลดลง
2. กลยุทธ์หลักของบริษัทในปีหน้า
   • เลือกตลาดในการเข้าไปชิงพื้นที่ใน Segment ที่ถนัด
   • เน้นบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ ตอนบนและฝั่งตะวันตก (นนทบุรี)
   • เปิดพื้นที่ใหม่ๆ เช่น กรุงเทพฯ ตะวันออก (แพรกษา) และหัวเมืองต่างๆ (พัทยา)
   • มีธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น Q พร้อม (ต่อเติมบ้าน) และ NCPM (ดูแลลูกค้าสร้างบ้านเองตามแบบ NC)
3. แผนการขยายโครงการในจังหวัดอื่นๆ
   • มี Land Bank ในต่างจังหวัด (ชลบุรี, พัทยา)
   • ปีหน้ามีแผนนำ Land Bank มาพัฒนาโครงการ (พัทยา)
   • ที่ดินเชียงใหม่ยังเป็น Land Bank ที่มีต้นทุนเดิมและพัฒนา Product ได้หลากหลาย (คอนโดมิเนียมแนวราบ/8 ชั้น)
   • ที่ดินในกรุงเทพฯ ปริมณฑล (โซนเหนือ) จะถูกนำมาพัฒนาด้วย
4. การปรับสินค้าหรือ Refresh แบบบ้านให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด
   • ตลาดเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โครงการขนาดใหญ่มีการปรับ Product (Minor Change) เพื่อ Refresh ให้ทันสมัย
   • การปรับรูปแบบบ้านเพื่อให้ราคาต่อหน่วยลดลงและมีรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น
   • โครงการที่ปรับไปแล้ว: ชัยพฤกษ์ และ Westgate (ซอยวัดลาดปลาดุก)
5. แผนร่วมทุน JV หรือร่วมลงทุนกับพันธมิตร
   • มีการคุยกับพันธมิตรหลายราย (ในและต่างประเทศ)
   • อยู่ระหว่างเจรจา: ร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์, ใช้ผลิตภัณฑ์พันธมิตร, พัฒนาโครงการร่วมกัน (ภายใต้ MOU)
6. แผนบริหารความเสี่ยงจากการปฏิเสธสินเชื่อ
   • มีแผนรองรับการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
   • Pre-Screen ลูกค้า, เข้าโรงเรียนสินเชื่อ, ให้ลูกค้าผ่อนกับโครงการก่อน (วางดาวน์และผ่อน), ลดวงเงินที่ต้องขอสินเชื่อ
7. ความจำเป็นในการลดราคาสินค้าหรือระบาย Stock
   • ดูเป็นรายโครงการและราย Segment ลูกค้า
   • ไม่ได้ปรับราคาลงทุกโครงการหรือทั้งพอร์ต
   • เลือกเฉพาะโครงการที่กำลังจะปิด (เร่งโอน), โครงการใกล้จบ, หรือโครงการขนาดใหญ่ (ระบาย Stock บางช่วง)
   • ดูอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในต้นทุนที่บริหารได้ ไม่ได้ลดราคาในทุก Segment ทุก Product

สรุป

NCH กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะตลาด แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยงและคว้าโอกาสในการเติบโต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว

```