สรุปงบล่าสุด MIDA
บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## ผลประกอบการ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2567
บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ MIDA ประสบกับผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 556.87 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 64.27 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 145.70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากยอดขายเช่าซื้อลดลง 10.58 ล้านบาท และรายได้ดอกผลเช่าซื้อลดลง 24.35 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากลูกค้าซื้อสินค้าลดลง ทำให้พอร์ตลูกหนี้ลดลง นอกจากนี้ รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังลดลงอีก 398.56 ล้านบาท และรายได้จากกิจการโรงแรมลดลง 9.91 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ MIDA มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดภาระหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายเช่าซื้อผ่านการพัฒนาช่องทางการตลาดและการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการขยายธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวน จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์
## โอกาสและความเสี่ยงการลงทุน
ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ย่ำแย่สะท้อนถึงความท้าทายของ MIDA ในการแข่งขันในตลาด ราคาหุ้นเฉลี่ยของ MIDA ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น อยู่ที่ 0.61 บาท ปัจจุบันอยู่ที่ 0.45 บาท P/E อยู่ที่ 66.8 แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่สูง P/BV อยู่ที่ 0.3 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าของสินทรัพย์ที่ต่ำ D/E ของ MIDA อยู่ที่ 1.14 ซึ่งสูงกว่า 1 แม้ว่าบริษัทฯ มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ แต่การที่มีหนี้สินสูงก็ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ การที่วงจรเงินสดของ MIDA อยู่ที่ 657.19 ล้านบาท สะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสด อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน “เป็นบวก” ที่ 297.144746 ล้านบาท อาจไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับการทำธุรกิจ โดยรวมแล้ว MIDA น่าจะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความอดทนในการรอผลตอบแทนระยะยาว
**โอกาส**
* บริษัทฯ มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
* การขยายธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์
**ความเสี่ยง**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
* ยอดขายเช่าซื้อลดลง
* หนี้สินสูง
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเป็นบวก
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์โดยทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(9.08%)
(41.90%)
(4.34%)
(53.92%)
(12.32%)
(20.70%)
(5.19%)
(18.71%)
(7.82%)
(145.56%)
(91.07%)
(105.94%)