MALEE
บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

MALEE ฝ่าวิกฤต Q3/2568 ด้วยกลยุทธ์ Health & Wellness มุ่งสู่ Regional Brand

สวัสดีครับ สวัสดีทุกท่านนะครับ มาลีนะครับ ขอนำเสนอผลงานของเราในรอบ 9 เดือน ก็เดี๋ยวผมขอเข้าเนื้อหาเลยละกันนะครับ

มาลีนะครับ เราเป็น Market leader ในตลาดน้ำผลไม้นะครับ พรีเมี่ยมนะครับ เราเป็นเบอร์ 1 แล้วก็ตัวน้ำมะพร้าวซึ่งเป็นหนึ่งใน portfolio หลักของเรา เราก็เป็นเบอร์ 1 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานะครับ แล้วก็ เอ่อ เราก็ยังจะ continue ที่จะ Invest นะครับ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้ เอ่อ สินค้าของเรานะครับ ในส่วนของ Portfolio นะครับแล้วก็ตลาดนะครับ เราจะให้ทุกท่านเห็นว่าเรามีความ กระจายความเสี่ยงนะครับ Divers ขนาดไหนสินค้านะครับ ก็ผลิตภัณฑ์เราอยู่ในตลาด Domestic ตลาดประเทศไทยอยู่ที่ 67% นะครับแล้วก็ อยู่ที่ตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 33% อันนี้คือ Total Group นะครับทั้งส่วนของแบรนด์ของเราเองแล้วก็ที่เรา รับจ้างผลิตนะครับ

ส่วนของ Own Brand เนี่ยมีสัดส่วนที่ 31% นะครับแล้วก็ ที่รับจ้างผลิตอยู่ที่ 68% นะครับอีก 1% ก็เป็น ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มนมนะครับ ที่เราเป็นเจ้าของฟาร์มเองนะครับ ตัวสินค้าเราก็หลากหลายนะครับเรามีทั้งน้ำผลไม้มีน้ำผัก มีทั้ง dairy ผลิตภัณฑ์จากนมผลิตภัณฑ์ที่ จากไม่ใช่นมนะครับ มีน้ำมะพร้ามี Can fruit ครับ Children Drink นะครับ T Coffee นะครับ พวกกาแฟกระป๋องต่างๆนะครับ Energy drink แล้วก็ carbonated drink ก็สำหรับโรงงานที่เวียดนามนะครับ ก็เราสามารถผลิตที่เป็นอัดแก๊สได้นะครับ แล้วก็ด้วยความที่เราเสิร์ฟ กับลูกค้าที่เป็นระดับ Global นะครับแล้วก็ สินค้าเราขายในต่างประเทศ หลายประเทศนะครับ เพราะฉะนั้นเราต้อง Certify กับตัว standard ต่างๆในโลกนี้นะครับ ก็ต้องบอกว่า โรงงานเราก็มีความหลากหลายมากๆในการที่จะ เอ่อ เอ่อ Apply กับ Standard ต่างๆ นะครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

อันนี้เป็นผลประกอบการ 9 เดือนนะครับ กราฟด้านซ้ายนี่ก็จะเห็นว่า 9 เดือนของปีนี้เป็นปีที่เราค่อนข้างเป็นปีที่ท้าทายนะครับ จากสถานการณ์ที่ผมเชื่อว่าหลายๆบริษัทก็ พบเจอคล้ายๆกับเรานะครับ ก็เราปิด 9 เดือนไปที่ 5,852 ล้านนะครับ แล้วถ้าเทียบเป็น By Quarter เนี่ย ก็ Quater สุดท้ายเนี่ยเราปิดไปที่ประมาณ 2,028 ล้านบาท นะครับก็ถ้าเทียบกับ Q ที่ผ่านมา Quater 2 เนี่ยเราโตประมาณ 1.2% นะครับ แต่ถ้าเทียบ Quater แรกเนี่ยเราก็หายไป 2.3% นะครับ

ทีนี้ Highlight ที่เราเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานะครับก็คือว่า เรามีการ Appoint ตัว Brand Ambassador ของเราที่เป็น regional Brand Ambassador จัง ลี่เฮ่อ นะครับ ก็เป็นดาราดังจากประเทศจีนนะครับ อันนี้ก็เราพึ่งพาแฟนๆไปเจอตัวเป็นๆของจัง ลี่เฮ่อมานะครับ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนะครับ ก็แฟนๆก็ค่อนข้างตื่นเต้นกับการที่มี Brand Ambassador คนนึงนะครับ อันที่สองก็คือว่าเราพึ่งมีการแถลงข่าวไปนะครับ เมื่อไม่นานมานี้นะครับ ก็เป็นการประกาศ Vision ของเราแนวทางของเรานะครับ ว่าเราจะเป็นบริษัทที่ ไปได้ไกลกว่าผลไม้นะครับ ก็เป็น Concept คือ Beyond fruit to Global well being อันนี้ก็เป็นการประกาศว่าเราจะเน้น Portfolio ที่เน้นเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่เดิมเนี่ยเราจะเน้นเรื่องของ refreshing เรื่อง snacking นะครับจากนี้ไปเนี่ยเราจะออกตัวที่เป็น เอ่อสำหรับ well being สำหรับ healthy มากขึ้นนะครับก็ตาม Trend ของสุขภาพของผู้บริโภคตอนนี้นะครับ ก็จริงๆก็เรามีสินค้าที่ออกมาแล้วนำร่องนะครับก็มีตัว เอ่อ มาลี Coco Lipo Source นะครับที่พึ่งออกไปเมื่อปลายปีที่แล้วนะครับ แล้วก็ต้นปีเนี้ยเราก็ออกตัว มาลี Power Plant เป็นน้ำผักนะครับ ที่มี prebiotic Post biotic ครับทั้งดูแลเรื่องผิวและเรื่องของภูมิคุ้มกันนะครับ แล้วก็มาลีก็ยังคงเป็นบริษัทที่ เราได้เรื่องของ ตัว CG นะครับก็เราเป็น CG เอ่อ ต่อเนื่องมาหลายปีนะครับ แล้วก็ continue ที่จะเป็นแบบนั้นอยู่นะครับ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ผมขอพูดถึงเรื่องของหน้าต่อไปครับ อันนี้เป็น Vision ของเรานะครับอันนี้ก็จะเป็นตัวบอกเลยครับว่า แนวทางของเราจะไปทางไหนนะครับ ก็ creating healthier choices Happy Living through Innovation inspired by Nature นะครับ ก็ healthier choices นะครับอันนี้ชัดเจนว่าเราไปแนวสุขภาพนะครับ Happy Living ก็แปลว่า เราเองไม่ได้ทิ้ง Portfolio ที่เป็นเรื่องของ Snacking หรือ Refreshing นะครับอันนั้นก็ยังคง continue อยู่นะครับ แล้วก็ True Innovation เดี๋ยวผมจะมีพูดต่อว่า Innovation Center ของมาลีเนี่ยเรามีอะไรบ้าง นะครับแล้วก็เราจะ Portfolio เราก็จะอยู่ที่เรื่องของที่เป็นเรื่องของ Nature นะครับ เรื่องเป็น เอ่อ Raw mat จากธรรมชาตินะครับ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

อันนี้เรื่องด้านซ้ายคือ Speed ของ Business เรานะครับ ก็คือ 5,852 ล้านบาท เนี่ย 9 เดือนนะครับ เป็นส่วนของมาลีแบรนด์อยู่ที่ 36% นะครับเป็น CMG อยู่ที่ 63% ก็คือรับจ้างผลิตอยู่ที่ 63% นะครับแล้วประมาณ 1% นี่เป็น Dairy Farm นะครับที่เป็นนมนะครับ ก็ Portfolio เราก็มีทั้ง เอ่อ น้ำผักน้ำผลไม้น้ำมะพร้าว นะครับเรามี เอ่อ นม under ตราฟาร์มโชคชัยนะครับมีทั้ง Pasteurize แล้วก็ UHT นะครับเรามีนมข้าวโพดเรามี น้ำดื่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง sustainability นะครับแล้วก็ที่เป็น เอ่อ จุดที่เขาเรียกอะไรโด่งดังของมาลีคือตัวแคนฟรุ๊ตน่ะครับที่เราอยู่ในตลาดนี้มาอย่างนานนะครับ ในส่วนของ CMG ก็อย่างที่เคยกล่าวไปเมื่อซักครู่นะครับว่าเราก็ทำได้ทั้งน้ำมะพร้าว น้ำผัก นมแล้วก็นอน Dairy ด้วย carbonated drink ที่โรงงานเวียดนามนะครับน้ำผลไม้ Energy Drink แล้วก็ชากาแฟนะครับ แล้วก็เราก็มีฟาร์มนม เอ่ออยู่ที่บึงกาฬนะครับอันนี้ที่เราเป็นเจ้าของเองนะครับ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

จะเห็นว่าเรามีสินค้าที่ค่อนข้างหลากหลาย diversified มากๆก็คือมีทั้งน้ำ ผลไม้ 100% ละไม่ 100% นะครับมีน้ำ มะพร้าวนะครับมีนม แล้วก็มีที่เป็น non dairy ด้วยนะครับ แล้วก็มี Coconut Water แล้วก็มี เอ่อ ส่วนของ CMG เนี่ยก็ก็เหมือนกับพอร์ตที่เราผลิตได้เลยครับทั้งชากาแฟ น้ำมะพร้าวแล้วก็ตัว Dairy และ Non Dairy ครับ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ก็ในเชิง facility เรานะครับก็เรามีทั้งหมด 4 location นะครับ อันแรกด้านซ้ายมือนะครับก็คือปากช่องนะครับโรงงานนี้ก็อยู่ เอ่อ ที่ปากช่องนะครับ ก็ผลิตสินค้าที่เป็น dairy และ non dairy นะครับ capacity เราก็ประมาณ 177 มิลเลี่ยนลิตรต่อปีนะครับ โรงงานที่ 2 คือที่สามพรานนะครับ ก็เป็นโรงงานผลิตน้ำผลไม้ ผลไม้กระป๋องนะครับแล้วก็มีนม UHT ก็ผลิตที่นี่ได้ด้วยนะครับก็ capacity ประมาณ 250 มิลเลี่ยนนะครับตัว packaging ก็จะเป็นมีทั้ง PET can fruit แล้ว เอ่อ เอ่อ Can Tin Can Alucan นะครับแล้วก็เป็น data packaging นะครับ เอ่อ ที่ 3 ก็คือโรงงานที่โฮจิมินนะครับ ก็อยู่ที่เวียดนามนะครับก็ที่นี่ทำ carbonated ได้นะครับก็มีทั้ง PET นะครับมีชากาแฟมีตัว beverage นะครับแล้วก็มีน้ำเปล่าด้วยนะครับ แล้วก็ location ที่ 4 ก็คือตัว PBO Farm ที่บึงกาฬนะครับก็เรามีวัวอยู่ประมาณ 1,500 ตัวนะครับแล้วก็ ผลิตนมได้ประมาณ 3.3 ล้านลิตรต่อปีนะครับ ด้านขวาจะเป็น capacity ของ เอ่อกำลังการผลิตเรานะครับปัจจุบันนี้เรา utilization อยู่ที่ประมาณ 60% แปลว่าเรามี capacity เหลือที่จะรองรับการเติบโตได้ในอนาคต ทีนี้อันนี้ในเชิงของแนวทางของเราจะ 3 ปีต่อไปจากนี้นะครับ ปี 25 เนี่ยต้องบอกว่าเป็นตัวที่เราสร้างความแข็งแรงในเรื่องของโครงสร้างแล้วก็ Foundation นะครับก็มีเรื่องของการที่พยายามเติบโตเรื่องของ Own Brand ของเราให้มากขึ้นนะครับแล้วก็มีการ identify ว่า product ไหนจะวินที่ตลาดไหน นะครับแล้วก็เราเริ่มที่จะขยายตลาดเราไปที่ต่างประเทศ ปัจจุบันเนี่ยสินค้าเรามีอยู่ในประมาณ 30% 30 ประเทศทั่วโลกนะครับแล้วก็เรื่องของการจัดการขององค์กรนะครับ เอ่อให้มีความ Lean แล้วก็มี Accountability ที่สูงขึ้นนะครับแล้วก็จัดการเรื่องของต้นทุนนะครับเพื่อ บริหารเรื่อง เอ่อ ต้นทุนให้ดีขึ้นเพื่อ GP เราแล้วผลกำไรเหล่าที่มากขึ้นนะครับ ปี 26 จะเป็นปีที่เรา Transform นะครับองค์กรเราแล้วก็ตัว Portfolio ของเรา นะครับ ไปเรื่องของให้สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้มากขึ้นนะครับ งั้นจะเห็นว่ามันจะเป็นเรื่องของสินค้าที่เป็น Innovation Led มากขึ้นก็คือ ตัวสุขภาพที่ผมเล่าให้ฟังนั่นแหละครับว่าก็จะเป็นตัวที่เราทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืนแล้วก็มีความแตกต่างจากคู่แข่งนะครับ อันที่สองคือเรื่องของ International Expansion นะครับเราก็จะขยายตลาดมากขึ้นโดยการมีการ Identify ว่าตลาด เอ่อ 5 ประเทศ 5 กลุ่มประเทศหลักที่เราจะเน้นมีอะไรบ้างนะครับเป็นประเทศ tier 1 ที่เราจะมุ่งเน้นนะครับ แล้วก็ เอ่อ ปัจจุบันนี้อย่างที่ทุกท่านทราบนะผมทางมาลีเนี่ยเราอยู่ที่น้ำผลไม้น้ำผลไม้กระป๋องแล้วก็มีที่เป็น Dairy ปีหน้าจะเป็นปีที่เรา เอ่อ ออกสินค้าตัวที่เป็น Category ใหม่ๆนะครับ สร้างขาที่ 4 ที่แข็งแรงให้กับองค์กรนะครับ แล้วก็มีเรื่องของ sustainable Business Operation นะครับทั้งในเชิงของเรื่องการลดต้นทุนแล้วก็สร้าง efficiency ในระบบโรงงานของเราด้วยนะครับ ปี 28 เนี่ยต้องบอกว่าจะเป็นปีที่เรา เอ่อ คาดว่าเราจะ เราจะเป็น regional trusted brand and Business Partner Trusted Brand ก็คือแบรนด์ของเราเองนะครับ Business Partner คือสำหรับ CMG เราเราเชื่อว่าการที่จะ diversify ที่ดีเนี่ยเราจะต้องมีทั้งแบรนด์ตัวเองแล้วก็มี แบรนด์ที่เรา รับจ้างผลิตนะครับ โดยเฉพาะที่เป็น Global brand ทั้งหลายแหล่นะครับ ก็ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันเนี้ย เอ่อ ตัวเลขกลมๆเนี่ย ของเราจะเป็น CMG 60 แล้วก็แบรนด์ 40 นะครับใน 3 ปีข้างหน้าเนี่ยเราคาดการณ์ว่า วางแผนของเราเนี่ยแบรนด์ จะเป็น 55% แล้วก็ CMG 45% ถามว่าทำไมถึงอยากให้สัดส่วนมันเป็นแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า 1 ก็คือเรื่องของความที่ เอ่อ stable นะครับถ้าแบรนด์เรา เอ่อ มีสัดส่วนที่ดีกว่าที่สูงกว่าเนี่ยก็จะมีความ stable มากกว่าและที่สำคัญคือ GP ของ Maliee Brand จะดีกว่านะครับจากแผนตรงนี้เราคาดว่าจะว่า CAGR เราจะเป็นประมาณ 10-15% ต่อปี อันนี้รวมทั้งแบรนด์แล้วก็ทั้งฝั่ง CMG ด้วยกันครับ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [นาทีที่ 1:12:40]

ทีนี้เจาะลึกลงไป 5 Strategy หลักของเรานะครับ อันแรกก็คือเรื่องของ accelerate Growth ของแบรนด์มาลี นะครับก็เป็นเรื่องของ Portfolio ที่ผมบอกว่าเราจะมี Enter ไปสู่ใน Category ที่เรา เอ่อ ยังไม่ ยังไม่ได้แข่งขันอยู่ตอนนี้นะครับ อันที่ 2 คือการสร้างการรับรู้แบรนด์นะครับ จัง ลี่เฮ่อ ก็เป็นหนึ่งในแผนอันนึงที่ทำให้ เอ่อ ใน Regional นี้เนี่ย ทั้งไทยทั้งจีนแล้วก็ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดเนี่ยในเอเชียเนี่ยรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้นโดยการมี Brand Master ที่ ที่มีชื่อเสียงนำพาแบรนด์เราไปนะครับ อีกอันนึงก็คือเรื่องของ Channel Expansion นะครับก็คือทั้งใน Domestic และ International อีกอันนึงที่ผมว่าทุกท่านทราบก็คือว่าออนไลน์ นะครับเป็น Channel สำคัญ เราก็มีการปรับกระบวนการหลังบ้านเราเพื่อให้เสิร์ฟลูกค้าออนไลน์ได้มากขึ้น อีกอันนึงที่เป็น Channel สำคัญก็คือ Food Service นะครับซื้อสินค้ามาลีไปเป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่มนะครับซึ่งปัจจุบันนี้เราก็มีหลายๆ Restaurant หลายๆ Cafe เนี่ยก็ใช้สินค้าเรานะครับเราก็จะทำตรงนี้ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นนะครับ อันที่สองเป็นเรื่องของ CMG นะครับก็คือว่าเราต้องการที่จะเป็น Partner of Choice ของลูกค้าที่เป็นระดับ Regional แล้วก็ Global เอ่อ ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นนะครับ เรามีการ Identify ว่า Top 10 customer ที่เราจะเป็น strategic Partner กับเขาเนี่ยเป็นใครแล้วก็ต้องมีกระบวนการทำงานอย่างไรเพื่อให้ยังคงที่จะเป็น Partner of Choice ใน Top 10 customer อยู่นะครับ แล้วก็มีเรื่องของ sustainability Solution นะครับ เพราะว่าการที่จะ เอ่อ ขายสินค้าไปต่างประเทศ กับ Engage กับลูกค้าที่เป็น Global เนี่ยเรื่องของ ESG เรื่องของ sustainability สำคัญนะครับเราก็จะมี เอ่อ เป็นหนึ่งในเป้าหมายขององค์กรเรานะครับ อันที่ 3 สำคัญมากๆคือเรื่องของการผลิตและการบริหารต้นทุนนะครับก็เรื่องของ Operational Operation effectiveness นะครับก็คือเรา เรามีการเรื่องของการสร้าง efficiency ในระบบของเรา นะครับให้เราสามารถแข่งขันได้นะครับ ในขณะเดียวกันก็ ไม่ เอ่อ เขาเรียกว่าอะไรไม่ละเลยเรื่องของ Quality นะครับซึ่งเป็นสำคัญของอาหารและเครื่องดื่มนะครับแล้วก็มีเรื่องของการใช้เทคโนโลยีในการทำทำให้เราเกิด efficiency มากขึ้นนะครับ ข้อ 4 เนี่ยต้องบอกว่าเป็น เอ่อ อาวุธลับของเราอีกอันนึงที่จะทำให้เราแตกต่างกับคู่แข่ง ก็คือมันมีบริษัทนึงที่มาลีเปิดขึ้นมาชื่อบริษัท MAS นะครับ MAS เนี่ยจะ เอ่อ เป็นหนึ่งใน Innovation Center ของเรา ในการที่จะสร้างตัว Ingredient ที่ทำให้เราแตกต่าง แล้วก็ส่งเสริมภาพลักษณ์ของ เอ่อ เอ่อ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ให้กับ เอ่อ Port Maliee นะครับแล้วต้องบอกว่า MAS เนี่ยไม่ได้แค่ provide Ingredient ให้กับมาลีเท่านั้นนะครับเราขาย Ingredient ให้กับบริษัทที่เป็นอาหารเสริมกับบริษัท Cosmetic ข้างนอกด้วย ซึ่งก็จริง MAS ก็มี Revenue มาก่อนหน้านี้ เอ่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็มี Revenue แล้วนะครับปีหน้าก็จะลุยมากขึ้นกับพอร์ตตรงนี้นะครับ ข้อ 5 ก็คือเรื่องขององค์กรนะครับเรื่อง Corporate Culture นะครับ เรา เอ่อ ต้องบอกว่าเรามี 4 location นะครับถ้าถ้ารวม Headquarter ด้วยก็เป็น 5 location เนี่ยทำยังไงที่เราจะสามารถมีเป้าหมายของการที่เป็นทีมงานเดียวกันเป้าหมายร่วมกันนะครับ เราเรียก เอ่อ ตัว Concept นี้ว่า One Maliee One Goal นะครับ งั้นก็คือเราจะสร้าง Culture ของการมีเป้าหมายร่วมกันนะครับแล้วก็มีเรื่องของ Behavior ที่สอดคล้องประสานกันนะครับ อันนี้ก็จะเป็น 5 Strategy หลักสำคัญของมาลีจากนี้ไปนะครับ

ในเชิงของ Portfolio นะครับก็อย่างที่ผมเล่าให้ฟังตอนต้นว่า เอ่อ ฝั่งที่เป็น Snacking Refreshing เนี่ยก็คือด้านซ้ายสุดเนี่ย Can fruit Maliee tropical ที่ไม่ใช่น้ำ 100% มาลี Signature ที่เป็น 100% เนี่ยก็จะเป็นสิ่งที่จะดื่มเพื่ออร่อยนะครับทานเพื่อความอร่อย นะครับ แล้วก็ตรงกลางมาเนี่ย Maliee Premium Maliee Coco เนี่ยก็จะเป็นกึ่งๆทั้งอร่อยด้วยแล้วก็ให้เรื่องของ healthy ด้วยส่วนนึงนะครับ เอ่อ 2 ด้าน ด้านขวาสุดท้ายเนี่ยด้านขวาของอันก็คือ Maliee Lipo Source กับ Maliee Power Plant เนี่ย 2 ตัวนี้อย่างที่ผมจะแจ้ง เอ่อ แจ้งไปตอนต้นว่าอันเนี้ยจะเป็นตัวที่สร้างเป็นเรื่องของ Health benefit เลยให้กับ end consumer นะครับ อย่างตัว Maliee พวก Lipo Source เนี่ยก็จะมีสรรพคุณในเรื่องของการเบิร์นไขมันนะครับแล้วก็ Maliee Power Plant ก็จะเป็นเรื่องของตัวกัดก็คือ เอ่อ ตัวของลำไส้แล้วก็ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนะครับ

ก็ในเรื่องของการสร้างแบรนด์นะครับก็เราก็ยัง continue ที่จะทำอย่างต่อเนื่องนะครับ อย่างปีนี้เนี่ยเราก็มีไปงาน Golf food งาน Natural Product Expo West นะครับที่ California นะครับงาน Seil ที่เซี่ยงไฮ้ นะครับแล้วก็มี Thai เฟค Anuga ที่เมืองไทยนี่เองนะครับก็ เอ่อ เราจากนี้ไปเราก็ยัง continue ที่จะมี support ของงานเหล่านี้เพื่อสร้างเอ่อ การรับรู้แล้วก็การรู้จักของแบรนด์แล้วก็การหา Business Partner ใหม่ๆในแต่ละประเทศที่เราเข้าไป เอ่อ ด้านขวาก็เป็นเอ่อหนึ่งในตัวอย่างของการที่เราสร้างแบรนด์เราปีนี้ก็คือการที่เรา Appoint Brand Master ระดับเอเชียแปซิฟิกนะครับชื่อ คุณ จัง ลี่เฮ่อ นะครับก็มาเป็น Brand Master ให้กับ Maliee Coco นะครับ ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าเอ่อ Maliee Coco เนี่ยเรา เรามี Market Share อยู่ที่ 38% นะครับแล้วเราก็จะ continue ที่จะเติบโตสร้างความแข็งแรงนะครับเราเคยแตะเบอร์ 1 เมื่อเดือนจูนนะครับแล้วก็ เอ่อ เราก็ยัง continue ที่จะสร้างความแข็งแรงของเราของแบรนด์ของเราต่อไปนะครับ

ตรงนี้เป็นเรื่องของการขยายตลาดในประเทศไทยนะครับก็คือว่า เราแบ่งกลุ่มลูกค้าเนี่ยเป็น 3 เป็น 4 กลุ่มสำคัญนะครับ กลุ่มแรกก็คือ Super Hyper นะครับก็ทุกวันนี้นะครับกับห้างเหล่าเนี้ย Lotus Big C Tops เนี่ยก็ทำงานร่วมกันทั้งในเชิงของการขยาย distribution แล้วการจัดเรียงจัดโชว์หน้าร้านให้สวยงามนะครับอันนี้ก็หลายๆที่ก็เป็นพาร์ทเนอร์กับเราในการ เอ่อ เสริมสร้างเรื่องของการมองเห็นใน Store นะครับ อันที่ 2 เนี่ยอันนี้คือเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือว่าสินค้าที่เป็น RTD เนี่ย ลูกค้า เอ่อ สัดส่วนในการซื้อใน conven Store เนี่ยค่อนข้างจะมากนะครับงั้นเราก็จะมีแผนของการขยายเรื่องของ distribution แล้วก็เสริมสร้างเรื่องของการจัดเรียงจัดโชว์ที่ convenience Store มากขึ้นนะครับ แล้วก็ด้านขวาเนี่ยจะเห็นว่าเป็นช่องทางที่ผมพูดไปเมื่อซักครู่แล้วคือเรื่อง Food Service นะครับต้องบอกว่า สินค้าเราวันเนี้ยอยู่ใน Restaurant ใน Cafe หลายๆที่ เราจะขยายตรงนี้ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นนะครับแล้วก็มองถึงเรื่องของการสร้าง Portfolio ที่ทำมาเพื่อเสิร์ฟช่องทางนี้โดยเฉพาะ แล้วก็ออนไลน์นะครับก็ เอ่อ ตัวที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญเนี่ยเราก็อยู่หมดแล้วนะครับทั้ง Shopee Lazada tiktok นะครับ ก็อันนี้ก็ทำยังไงให้เราสามารถตอบสนอง เอ่อ ความรวดเร็วในการขนส่งนะครับแล้วคุณ คุณภาพในการจัดส่ง ให้ดีขึ้นนะครับอันนี้ก็แล้วก็เรื่องของ Pack Size ให้เหมาะสมกับช่องทางนี้นะครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้แล้วก็จะทำให้มันแข็งแรงมากขึ้นนะครับ

โอเคส่วนของต่างประเทศนะครับเราจะไปที่ไหนบ้างนะครับจะเห็นว่าเรา Identify เอ่อ 4 area หลักๆนะครับมานะครับก็คืออย่างอันดับแรกเนี่ยจริงๆ เอ่อ จริงๆคือ คือประเทศจีนนะประเทศจีนเนี่ยเราใช้ตัวมะพร้าวจากประเทศไทย Maliee Coco เนี่ยเป็นหัวหอกในการลุยตลาดที่ประเทศจีนนะครับ ก็ผมว่าทุกคนทราบดีว่า Population จีนเยอะแค่ไหนนะครับแล้วก็ Market Size ของตัว Water เนี่ย มีอัตราที่สูงมากแล้วก็เติบโตดีมากๆนะ ประเทศที่ 2 ที่เราจะเน้นก็คือ South Korea นะครับ วันนี้เนี่ย Maliee Coco ก็เป็นเบอร์ 1 ที่นั่นนะครับแล้วก็เราก็มีอยู่ในทั้งออนไลน์ออฟไลน์ที่นั่นนะครับแล้วก็ออนไลน์เรา เอ่อ ขายได้รับการความนิยมเป็นอย่างดีใน online platform คูปองที่ ที่เกาหลีใต้นะครับก็ Market Size ก็ใหญ่อยู่นะครับ เอ่อ อันที่ 3 ก็คือ Middle East นะครับปัจจุบันเนี่ยเรามี เอ่อ foot print อยู่ใน 2-3 ประเทศแล้วใน Middle East นะครับแต่ว่าเราก็จะลุยมากขึ้นนะครับ เอ่อ ในตลาด Middle East เพราะด้วยความที่ประชากรอาจจะไม่ค่อยเยอะแต่ว่า เอ่อ เรื่องของ Power สูงนะครับ เอ่อแล้วก็พฤติกรรมผู้บริโภคเนี่ยใกล้เคียงกับ Portfolio ที่เรามีอยู่นะงั้นเราก็คิดว่าเป็นตลาดสำคัญของเรานะครับ แล้วก็อันที่ตลาดที่ 4 คืออินโดนีเซียนะครับอินโดนีเซียก็จำนวนประชากรเยอะนะครับแล้วก็เรามี Joint Venture ที่อินโดนีเซียนะครับก็เราก็จะขยาย Portfolio เราผ่านทาง Joint Venture เราที่นั่นนะครับก็เราได้ Identify แล้วล่ะแล้วก็มีเรื่องของการที่ตัวสินค้าตัวไหนที่เราจะไปขายในประเทศอินโดนีเซียนะครับ ซึ่งก็ทางมาลีเองก็มี เอ่อ ฮาลานที่เป็นมุยสำหรับประเทศอินโดนีเซียเรียบร้อยนะครับ งั้นในเชิงของการที่จะโตใน Global Market เนี่ยทั้งส่วนของ Own Brand แบบ CMG นะครับ ก็ต้องบอกว่าอันแรกก็คือผ่านเรื่องของ Brand Building Activity นะครับเรื่องของ จัง ลี่เฮ่อ ก็เป็นตัวอย่างอันนึงนะครับแล้วก็ปี 26 หรือหลังจากนั้นไปเนี่ยก็จะ ก็จะมีเรื่องของการ Invest ใน ในส่วนของเงิน Marketing ให้เพิ่มขึ้น ให้เพิ่มขึ้นนะให้เหมาะสมกับการเติบโตที่เราคาดหวังนะครับ อันที่สองเรื่องของการการเรื่องของการวางแผนการ Penetrate ไปที่ตลาดที่เราได้ Identify นะครับทั้งจีนทั้ง Middle East อินโดนีเซียและ South Korea นะครับ เอิ่ม อันที่ 3 คือเรื่องของ Enter Market with Relevant Portfolio นะครับก็คือว่าเราจะมีสินค้าตัวที่เรา Identify ว่าประเทศนี้เราจะลุยด้วยสินค้าอะไร นะครับในบางประเทศเนี่ยเราสร้าง SKU ขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟกับ consumer ในประเทศนั้นๆเลยนะครับก็เราค่อนข้าง flexible ในการที่จะตอบสนองผู้บริโภคในแต่ละประเทศนะครับส่วนของหลักการรับจ้างผลิตนะครับเราก็พยายามที่จะรักษานะครับลูกค้าที่อยู่กับเราอยู่ หลายๆเจ้านี่ก็อยู่กับเรามาหลายปีนะครับ บางเจ้าเนี่ยใกล้ๆ 10 ปีนะครับเราจะ continue ที่จะ เอ่อ secure ลูกค้าเหล่านั้นไว้นะโดยการเราก็จะหาลูกค้าเจ้าใหม่เพื่อมาเติมเรื่องของกำลัง การผลิตของเรานะครับเพราะยิ่งถ้าเราเติมกำลังการผลิตได้มากขึ้นเท่าไหร่เนี่ยเรื่องของ efficiency เรื่องของ Course มันก็จะถูกลง

โอเคในส่วนของเรื่องของ facility นะครับก็ผม เอ่อ พูดไปแล้วตอนต้นนะครับว่าเรามีทั้งปากช่องสามพรานแล้วก็ที่เวียดนาม นะครับก็สามารถเสิร์ฟสินค้าได้หลากหลายแล้วก็ packaging เราเนี่ยมีความหลากหลายมากๆนะครับทั้ง can tin can เอ่อ PET Boro นะครับอัดแก๊สไม่อัดแก๊สนะครับ ก็เรามีครบถ้วนนะครับแล้วก็เรื่องของตัว เอ่อ Accreditation ต่างๆที่เป็น Standard ที่จะทำให้ลูกค้าเราสามารถนำของเอาไปขายในต่างประเทศได้เนี่ยก็ค่อนข้างครบถ้วนทุกอย่างนะครับ เรามีเน้นเรื่องของ sustainability นะครับก็เรื่องของ Solar Roof เรื่องของน้ำเรื่องของไฟเรื่องของพลังงานนะครับก็อยู่ในแผนของเราในการที่จะลด เอ่อ เรื่องของ CO2 นะครับแล้วก็ เอ่อ สามารถที่จะ Obtain เรื่องของ Standard แล้วก็เรื่องของ Certificate ต่างๆไว้ได้นะครับงั้น Growth Strategy ของเราก็คือเรื่องของ เอ่อ Retain ตัวลูกค้าที่เป็น existing customer นะครับอันที่สองคือ attract ตัวลูกค้าที่เป็นเจ้าใหม่ๆนะครับแล้วก็มีเรื่องของ offer new Solution นะครับแล้วก็สร้างความ sustainability ให้กับลูกค้าเราครับ

โอเคเรื่องของ Operational effectiveness ก็มีความสำคัญนะครับเพราะว่าเรื่องต้นทุนเรื่องผลกำไรก็ อยู่กันที่ตรงนี้ละครับงั้นแผนของเราก็คือเรื่องของอันดับแรกก็คือเรื่องของการบริหารต้นทุนการผลิตนะครับ มาลีก็อยู่ในตลาดมานานเรื่องของพืชผักผลไม้นะครับ เพราะฉะนั้นเราก็จะมีความได้เปรียบในการที่จะซื้อจากผู้รวบรวมหรือซื้อจากเกษตรกร นะครับแล้วก็ Source ของเรานะครับก็ได้คุณภาพและขณะเดียวกันก็มีต้นทุนที่ได้เปรียบนะครับ คอร์สตัวที่ 2 คือเรื่องของ ก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นะครับก็มีเรื่องของการใช้ IT ใช้ AI มากขึ้นนะครับ HR เข้ามา Identify เรื่องของ Talent เรื่องของ เอ่อ Head span of Control เรื่องของ layer อะไรต่างๆเพื่อเรามีการใช้ทรัพยากรที่เรามีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุงนะครับ อันที่ 3 ก็เรื่องของ efficiency นะครับทำไงที่จะทำให้การผลิตของเราเนี่ยมีต้นทุนที่ต่ำนะครับ เรื่องของ utilization ของเครื่องจักรนะครับเรื่องของการลด Course ใช้ automation นะครับมาทำให้เรานั่นมากขึ้นครับ แล้วก็สุดท้ายข้อ 4 ก็คือเรื่องของ Technology นะครับเรามีการใช้ระบบ SAP ERP นะครับ ใช้ iot แล้วก็ AI ต่างๆในการที่จะทำให้เรา ประหยัด เรา เราโฟกัสคนไปเรื่องของการทำอะไรที่เป็น Innovation นะครับแล้วก็ใช้เทคโนโลยีในการ support เรื่องของ Data นะแล้วก็สร้าง efficiency ให้เกิดขึ้นในระบบครับ

อันนี้ที่ ที่ผมมีพูดไปเรื่อง MAS นะครับว่าเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการที่เราสร้างความแตกต่างให้เราสร้าง ให้เราแตกต่างจากคู่แข่งของเรานะครับ ก็คือเป็นเรื่องของการสร้างเป็น Innovation Center ของมาลี การที่จะสร้าง Ingredient ให้เรา นะครับก็ เอ่อ เป้าหมายก็คือเรื่องของการสร้าง Ingredient ที่ตอบสนอง Trend สุขภาพของผู้บริโภคในปัจจุบัน นะครับ เพราะฉะนั้นก็จะพูดถึงเรื่องของการสร้าง Ingredient ให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ของเราซึ่งปัจจุบันที่เห็นในตัวอย่างแล้วก็คือมาลี มาลี Coco Lipo Source แล้วก็ตัว Power Plant Maliee Power Plant ที่มีเทคโนโลยี in กัดนะครับที่ช่วยเรื่องของภูมิคุ้มกันแล้วก็ระบบขับถ่ายแล้วก็เรื่องของผิว นะครับ แต่ อย่างที่บอกว่าเราเองก็ต้องบอกว่าเราไม่ได้หวงนะครับเราสามารถขาย Ingredient เหล่านี้เราเป็น Revenue ส่วนนึงของเราด้วยในการที่จะสร้างเอ่อยอดขายเพิ่มเติมนะครับจากหน่วยนี้นะครับอีกอันนึงที่หน่วยนี้ต้องทำให้เราคือเรื่องของ up Cycle ส่วนที่เป็น West ของเราจากการผลิตนะครับทั้งเปลือกผลไม้ทั้งสิ่งของเหลือใช้จากการผลิตต่างๆนะครับ อันนี้ก็จะเสิร์ฟทั้ง 2 ทางทั้งในเชิงของ generate Revenue ด้วยแล้วก็เรื่องของการสร้าง sustainability ให้กับเอ่อ บริษัท Maliee กรุ๊ปด้วยนะ

เอ่อ เรื่องคนนะครับอย่างที่บอกว่าเรามีเรื่องของ One Maliee One Goal นะครับก็ นอกจากเรื่องของเป้าหมายเรื่อง One Maliee One Goal แล้วเนี่ยเรามีการสร้าง Culture ที่ให้ทีมงานของเราทำงานกันอย่างสอดประสานแล้วก็เอ่อมีความเป็นเอ่อ Owner ใน ใน ในบริษัทนะครับ จริงเราตัวย่อของเราคือ TOP นะ TOP T ก็มาจาก teamwork นะครับ O ก็จะมาจาก ownership ก็คือมีความเป็นเจ้าของในทุกอย่างการตัดสินใจของการทำงาน แล้วก็ p ก็คือ purposeful leadership ก็คือว่ามีความเป็นผู้นำที่มีเป้าหมายชัดเจนร่วมกันนะครับ ก็เป็น เอ่อ Culture ที่เราพยายามสร้างมาก็ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ 3 และที่เราสร้างมาก็คือ TOP นะครับ นะครับส่วนของ sustainability นะครับก็ต้องบอกว่าก็จะมีการimplement เปลี่ยนอุปกรณ์นะครับ เปลี่ยน เอ่อ วัสดุ หรือเปลี่ยนระบบรูปแบบพลังงานที่เราใช้ในโรงงานของเรา นะครับก็ทั้งเรื่องของ Solar Roof เรื่องของการเปลี่ยนน้ำมันให้มัน Green มากขึ้นนะครับ สร้าง CO2 เข้าไปใน เอ่อ ระบบบรรยากาศเนี่ยให้น้อยลงนะครับ เรื่องของ sustainability นะครับก็ เอ่อ ก็ต้องบอกว่าเรามีการทำงานร่วมกันกับสถาบันต่างๆในการสร้าง เอ่อ ความแข็งแรงของชุมชนที่อยู่รอบๆบริษัทเรา รอบๆโรงงาน นะครับแล้วก็ขยายสเกลขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ ส่วนของเรื่องของ Governance นะครับก็ก็ต้องบอกว่าเราเองค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องนี้นะครับพนักงานเราได้รับการ treat นะครับ เอ่อ อย่างถูกต้องนะครับเป็นไปตามหลักสากลแล้วก็กฎหมายนะครับต้องบอกว่ามาลีด้วยความที่เรามีลูกค้าที่เป็นต่างชาติเยอะเนี่ย เอ่อ บางอย่างเนี่ยเรา beyond สิ่งที่กฎหมายเมืองไทย เอ่อ คาดหวังไว้ซะอีกนะครับ

ส่วนของ Financial เดี๋ยวให้คุณ CFO เป็นคนแจ้งครับคุณ ครับ โอเคขออนุญาตมาต่อนะครับในส่วนของทาง Performance สำหรับ 9 เดือนแล้วก็ 3 เดือนนะครับสำหรับมาลีนะครับ ต้องบอกว่า อ่า มาลีเองนะครับในยังสามารถรักษาระดับของตัวกำไรขั้นต้นนะครับได้ค่อนข้างดีนะครับซึ่งถ้าเกิดเราดูตรงด้านซ้ายนะครับ กล่องด้านซ้ายตัว profit margin เรานะครับจะอยู่ที่ประมาณ 18.8% อันนี้คือตามที่รายงานนะครับ แต่อย่างไรก็ตามใน 18.8% นี้นะครับเรามีในส่วนของค่าใช้จ่าย one off นะครับที่เป็นเรื่องของ obsolescence provision นะครับที่เรามีการตั้งสำรองเข้าไปนะครับ จากเรื่องของ aging แล้วก็เรื่องของนมที่เขาส่งไปยังที่กัมพูชานะครับ 2 เรื่องนี้ทำให้เรามีการตั้งตัว obsolescence เข้าไปนะครับหากเราบวกกับตัวนี้กลับมานะครับจะทำให้กำไรขั้นต้นเราจะอยู่ในระดับ 19.9% นะครับอย่างที่โชว์นะครับเช่นเดียวกันในส่วนของ Net profit margin นะครับก็ยังอยู่ที่ 3% สำหรับตามที่รายงานนะครับ ซึ่งเมื่อบวกกับรายการ one off กลับเข้าไปนะครับ Net profit margin จะอยู่ที่ประมาณ 4.6% นะครับ ROE นะครับก็อยู่ที่ 8.3% คือตามตัวเลขที่รายงานนะครับแต่เมื่อมีการปรับปรุงรายการ one off กลับเข้าไปนะครับ ROE จะอยู่ที่ประมาณ 10% ทีนี้มาดูทางฝั่งขวามือนะครับในส่วนของรายได้นะครับ ซึ่งเมื่อกี้ทางคุณ เอก เล็กมี อ่า ชี้แจงในส่วนของรายได้ที่แยกตาม Business Unit แล้วก็ตาม Geography ไปแล้วนะครับ ในส่วนของรายได้นั้นนะครับ Q3/2568 เนี่ยเราปิดได้อยู่ที่ประมาณ 2,029 ล้านบาทนะครับลดลงเล็กน้อย year on year นะครับ 2.3% นะครับแล้วก็อ่าถ้าดูใน 9 เดือนเนี่ยก็มีการปรับตัวลดลงนะครับ ประมาณ 9% เช่นเดียวกัน ซึ่งด้วยสาเหตุจากผลิตภัณฑ์นม นะครับจากผลิตภัณฑ์นมเรื่องๆของสถานการณ์ทางชายแดนแล้วก็เรื่องของ อ่า มีลูกค้าบางรายในส่วนของรับจ้างผลิตที่ ที่มีการปรับลดออเดอร์ลงไปเล็กน้อยนะครับแต่อย่างไรก็ตามใน Q4 เนี่ยลูกค้ากลุ่มนี้ได้มีการกลับเข้ามาแล้วนะครับ ถ้าดูในส่วนของแยกตาม by Geography นะครับ ก็จะเห็นว่าหลักๆเนี่ย อ่า 67% นะครับในใน Quater 3 เนี่ยเป็น อ่า ยอดขายในประเทศนะครับแล้วก็อีก 33% ก็คือประมาณ 1 ใน 3 เป็นยอดขายในต่างประเทศนะครับ ซึ่งจะเห็นว่าหากเราเทียบ กับปีที่แล้วนะครับ year on year อ่า ยอดขายในประเทศเรามีการเติบโตขึ้นนะครับจากการที่เราได้มีการ เอ่อ ใช้จ่ายในส่วนของ ค่า MKT นะ ครับที่เราสร้าง Center เข้ามาก็ช่วย Drive ยอดขายตรงนี้ให้โตขึ้นได้นะครับ และในส่วนของ 9 เดือนสะสมนะครับเช่นเดียวกัน Domestic ก็โตขึ้นนะครับ ทีนี้ลองมาดูกราฟด้านล่างในส่วนของ Profit นะครับ อย่างที่เรียนแจ้งไปใน Q3 ครับเราปิด profit ได้อยู่ที่ 323 ล้านโดยประมาณนะครับซึ่งเมื่อเราบวกกับรายการ one off นะครับที่เป็นตัว obsolescence กลับเข้าไปนะครับเราจะทำกำไรได้อยู่ที่ประมาณ 341 ล้านนะครับเทียบเท่ากับประมาณ 17.9% นะครับซึ่งหากเปรียบเทียบ year on year นะครับเทียบกับ Q3 เมื่อปีที่แล้วนะครับ เราปิดได้อยู่ที่ 19.1% นะ ครับก็ยังมีผลต่างที่ดรอปลงไปประมาณซัก 1% เกือบๆ 2% นะครับ ซึ่งสาเหตุตรงนี้เกิดจากเรื่องของ Mix ของ product นะ ครับที่ อ่า มีการปรับ Mix ของ product นั่นเองระหว่าง Q3/2568 กับ Q4 Q3/2568 กับ Q3/2567 นะครับ อ่า สัดส่วนของ Mix ของ product ที่มีการปรับเปลี่ยนไปนะครับ ก็เลยทำให้ตัว Profit margin ยังคงอ่าอยู่ในทิศทางขาลงอยู่สำหรับ Q3/2568 นะ ครับแล้วหากดูยอดสะสม 9 เดือนนะครับ ถ้าหากดูที่กำไรสะสม เอ่อ profit margin สำหรับ 9 เดือนจะอยู่ที่ประมาณ 1,165 ล้านบาทนะครับก็ ดรอปลงไปประมาณ 13% เช่นเดียวกันนะครับหากเทียบกับ อ่า ดรอปลงไปประมาณ 13% นะครับหากเทียบกับช่วง อ่า 9 เดือนของปี 2567 นะครับแต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกับในช่วง อ่า 9 เดือนของปี 2567 นะครับ โดย โดยแต่หากว่าดูที่ Percentage นะครับหลังจากที่เรา adjusted แล้วเนี่ยจะได้ profit อยู่ที่เกือบ 20% นะ ครับซึ่งก็โตขึ้นจาก 19.6% ด้วยซ้ำนะครับ ในแง่ของ Net profit ที่กราฟขวามือนะครับก็จะเป็น 3% นะ ครับหลังจากที่เรามี การบวกกลับรายการเหล่านี้เข้าไปนะครับซึ่งก็เป็นผลมาจาก การควบคุมค่าใช้จ่ายนะครับในส่วนของ SG&A นะครับและก็ค่าใช้จ่าย MKT ต่างๆที่เกิดขึ้นนะครับก็เลยทำให้เรายังคงรักษาระดับกำไรนะครับหากบวกกับรายการ one off กลับเข้าไปอยู่ที่ประมาณ 3% ใน Q3 และ 4% ใน อ่า year to date 9 เดือน นะครับข้ามมาดูที่สไลด์ถัดไปนะครับอันนี้จะเป็น ให้เห็นถึง อ่า historical จนถึงปัจจุบันนะครับจะเห็นว่ายอดขายนะครับตั้งแต่ Q2/2566 ที่ผ่านมานะครับ ซึ่งเป็นช่วงที่หลังจากที่เรามีการ merge อ่า มาลีกับเอปิโก้รวมเข้าด้วยกันนะครับให้เป็นทั้งนมตัวฟาร์มโชคชัยก็มาเป็นส่วนนึงในบริษัท ย่อยของทางมาลีนะครับยอดขายก็ค่อยๆโตขึ้นนะครับแล้วก็ไปถึงจุดสูงสุดอยู่ที่ Q1/2567 นะครับ เช่นเดียวกันกับ Profit margin เราก็ค่อยๆ Drive โตขึ้นนะครับจนถึงระดับ 20% นะครับทะลุ 20% ในช่วง Q2/2567 นะครับเสร็จแล้วเราก็มีการสะดุดนะครับจากการ Slow Down ของลูกค้ารับจ้างผลิตที่เกิดขึ้นนะครับในช่วง ปลายปีที่แล้ว second half ของ ปลายปีที่แล้วนะครับแล้วก็เริ่มกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนะครับในช่วง Q2 และ Q3 ซึ่งจะเห็นว่า Q3 นะครับยอดขายเราก็ยังปิดอยู่ที่ 2,029 ล้านที่สูงกว่า Q2/2568 นะครับในส่วนของกำไรก็มีการดรอปลงอย่างที่เรียนแจ้งนะครับเนื่องจากตัว obsolescence นะ ครับและบวกกลับเข้าไปก็ยังคงต่ำกว่าเช่นกันเนื่องจากตัว product Mix นะครับอย่างที่ ผ่าน ท่านไปในก่อนหน้านะครับ

ในหน้าถัดไปนะครับก็ยังโชว์ความแข็งแกร่งในเรื่องของ liquidity นะครับถ้าเห็นตัวในเรื่องของ current ratio และ quick ratio นะครับใน Q3 เราก็ยังมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงนะครับอัตราส่วนอยู่ที่ 1.4 เท่าสำหรับ current ratio และ quick ratio ที่ 0.9 เท่านะครับ ในส่วนของอัตราส่วน การชำระหนี้นะครับ debt to equity หรือว่า interest bearing debt ก็ อ่า ไม่ได้แตกต่างเป็นสาเหตุสำคัญนะครับหากเทียบใน 3 ปีย้อนหลัง นะครับ ROA และ ROE นะครับปรับตัวลดลงเนื่องจากกำไรที่ลดลงนะครับด้วยสาเหตุจากเรื่องของ obsolescence แล้วก็ยอดขายที่มีการดรอปลงไปนะครับ ซึ่งหากผมบวกกับรายการ one off กลับเข้ามานะครับก็ อ่า ROE จะอยู่ที่ประมาณ 10% และ ROA จะอยู่ที่ประมาณ 7.3% นะ ครับ ในส่วนของตัว inventory day แล้วก็การเก็บเงินนะครับก็ต้องบอกว่าใน Q3 นะ ครับ เอ collection period เนี่ยอยู่ที่ 61 วันนะครับซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว 53 วันนะครับเนื่องจากว่าเรามีลูกค้า อ่า รายใหม่เกิดขึ้นนะครับในช่วงปีนี้ Q3 นะครับซึ่งลูกค้ารายใหม่เนี่ยมี อ่า เครดิตเทอมอยู่ที่ประมาณ 60 วันนะครับซึ่งก็มาช่ว Drive ยอดขายในส่วนของลูกค้าที่เป็นรับจ้างผลิตได้นะครับ ในขณะที่ inventory day ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 39 วันมาเป็น 55 วันนะครับอันนี้มาจากตัว Stock ที่รอขายนะครับในช่วง Q4 ที่จะ เอ่อ มียอดขายที่สูงขึ้นนะครับแล้วก็สูงที่สุดในช่วง อ่า 3 Quater แรกนะครับเนื่องจากเป็นเรื่องของ raw material packaging อะไรต่างๆก็มีการอ่า เตรียมไว้ในช่วง Q3 เพื่อรอทำการผลิตใน Q4 นะครับ

สไลด์ถัดไปนะครับก็จะให้เห็นถึง อ่า ตัว งบกระแสเงินสดนะครับจากปีที่แล้วเรามีเงิน อ่า คงเหลืออยู่ที่ 220 ล้านบาทนะครับก็ได้ อ่า ประกอบการจากเรื่องของ Operating activity นะครับที่เป็นขาบวกนะครับแต่อย่างไรก็ตามเรามีการลงทุนนะครับในเรื่องของเครื่องจักรต่างๆแล้วก็มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับตัว อ่า ฝูงฝูงนมวัวนะครับฝูงโคหนุ่มนะครับก็มีการปรับตัวในใช้เงินในส่วนนี้นะครับแล้วก็ได้กลับมาจาก Finance activity ก็คือมีการ อ่า กู้ในระยะสั้นนะครับจากทางสถาบันการเงินเข้ามาทำให้ ณ วันที่ 30 กันยายนนะครับจะมีเงินอยู่ในอ่า กระแสเงินสดอยู่ที่ประมาณ 216 ล้านบาทนะครับ ทีนี้ข้ามมาดู Outlook สำหรับปี 2025 นะครับจะเห็นว่าในปี 2025 นะ ครับก็เราก็มี Challenge จากเรื่องของสถานการณ์ชายแดนนะครับที่ ที่ กัมพูชาแล้วก็พม่าก็ทำให้ยอดขายเราเนี่ยอาจจะไม่ได้ อ่า เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ในตอนแรกแต่อย่างไรก็ตามนะครับเราก็ยังมีอ่าแผนในการ mitigate ตัว อ่า ยอดขายเหล่านี้เนครับก็คือเรามีการบริหารจัดการ