สรุปงบล่าสุด MALEE

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการของ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MALEE) ไตรมาส 3 ปี 2568

**1. สรุปรายได้รวม:**

ในไตรมาส 3 ปี 2568 มาลีกรุ๊ปมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 2,028.6 ล้านบาท ลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (QoQ) กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ประกาศมีจำนวน 21.9 ล้านบาท ลดลง 63.9% YoY อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ (one-off) จากค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ปรับปรุงจะอยู่ที่ 61.9 ล้านบาท (หน้า 1)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้รวม:

* **ปัจจัยลบ:** การชะลอตัวของยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์นมจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และผลไม้กระป๋อง รวมถึงรายได้จาก CMG ในต่างประเทศ (หน้า 1)
* **ปัจจัยบวก:** ยอดขายสินค้าน้ำมะพร้าวแบรนด์ในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง, สัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมที่มีอัตรากำไรสูง, รายได้จากลูกค้าในธุรกิจกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มที่เติบโต, และการขยายตัวของรายได้จากกลุ่มน้ำมะพร้าวในตลาดต่างประเทศ (หน้า 1)

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

บริษัทตระหนักถึงความท้าทายจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ได้มีการปรับพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับแนวโน้มด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งพื้นฐานธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า มีการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยขยายไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่นจีน เกาหลีใต้ตะวันออกกลาง และอินโดนีเซียอีกทั้งพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกระดับรวมถึงมีแนวทางบริหารต้นทุนจากการควบคุมค่าใช้จ่ายการผลิตและการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการตลาด เป็นต้นสำหรับสถานการณ์ทางด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจบริษัทได้วางกลยุทธ์การจัดการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อลดผลกระทบด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้า และกระจายความเสี่ยงขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ (หน้า 7)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **กำไรขั้นต้น:** อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.9% ลดลง 3.2% YoY (หน้า 1) มีสาเหตุหลักมาจากรายการสำรองค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (หน้า 1) หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรขั้นต้นที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ที่ 362.6 ล้านบาท (หน้า 1)
* **ค่าใช้จ่าย:** ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 12.9% YoY (หน้า 5) โดยค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 1.0% YoY และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 22.2% YoY (หน้า 5)
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ประกาศ ลดลง 63.9% YoY (หน้า 1) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ปรับปรุงจะอยู่ที่ 61.9 ล้านบาท (หน้า 1)

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 5,537.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จาก 5,407.8 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์หมุนเวียน (หน้า 6)
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 3,011.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จาก 2,975.0 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินหมุนเวียน (หน้า 6)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 2,525.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จาก 2,432.8 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จากผลประกอบการที่มีกำไร (หน้า 6)
* **อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เท่ากับ 0.9 เท่าในไตรมาส 3 ปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 0.8 เท่าในปี 2567 (หน้า 8)

**ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2568 (9M/2568):**

* รายได้จากการขายและการให้บริการรวม 5,852.8 ล้านบาท ลดลง 9.3% YoY (หน้า 1)
* กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ประกาศ 173.8 ล้านบาท ลดลง 38.8% YoY (หน้า 1) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ตามที่ปรับปรุงจะอยู่ที่ 239.3 ล้านบาท (หน้า 1)

**แนวโน้มธุรกิจ:**

บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2569 – 2571) ไว้ที่ 10-15% โดยมีแผนการเติบโตจาก (หน้า 7):

1. เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจแบรนด์ (Own Brand) ให้เพิ่มเป็น 55% ภายในปี 2571 ผ่านช่องทางจำหน่ายใหม่ และการขยายตลาดต่างประเทศ
2. พัฒนาสินค้าใหม่ (NPD) 2–3 รายการต่อปีผลิตภัณฑ์นอกเหนือกลุ่มน้ำผักผลไม้
3. รักษาฐานธุรกิจรับจ้างผลิต เป็นพันธมิตรที่ลูกค้าเลือกเป็นอันดับแรก (Partner of Choice) สู่การรับจ้างผลิตครบวงจรและหลากหลาย
4. ใช้ศูนย์วิจัย Malee Applied Science (MAS) สร้าง “New S-Curve” นวัตกรรมผ่านการวิจัยและเทคโนโลยีเชิงลึกที่ทันสมัย