สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE มีผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้รวม 2,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลการดำเนินงานดีขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ “มาลี” ที่มีการยกเลิกขายสินค้าบางรายการ การปรับเพิ่มราคาสินค้าบางกลุ่มสินค้าและในกลุ่มลูกค้า ตลอดจนความมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 101 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับไตรมาส 2/2566 ที่มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 13 ล้านบาท

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของบริษัทฯ ยังคงเน้นการเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ “มาลี” โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เป็น “ฮิต” มีการยกเลิกขายสินค้าบางรายการ และปรับเพิ่มราคาสินค้าบางกลุ่มสินค้าและในกลุ่มลูกค้า โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 15% และยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ "มาลี (ชื่อผลิตภัณฑ์)" เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค/ลูกค้าให้มากขึ้น และลงทุนในกิจกรรมการตลาดและการโฆษณาในครึ่งหลังของปี 2567 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับยอดขายของแบรนด์มาลีตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เป็นต้นไป

ผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของธุรกิจ MALEE และเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากการเติบโตของกำไร MALEE มีราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ที่ระดับ 10 บาท และมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 34.68 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับสูง

จากข้อมูลด้านการเงินย้อนหลัง MALEE มี D/E ที่ระดับ 1.62 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีหนี้สินสูงกว่าทุน แต่อยู่ในระดับที่ยังควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามการใช้เงินทุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในด้านการผลิตสินค้าใหม่

**โอกาส**

* MALEE มีโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการขยายตลาดต่างประเทศ
* MALEE มีโอกาสในการเติบโตของกำไรจากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น
* MALEE มีโอกาสในการได้รับเงินปันผลจากการเติบโตของกำไร
* MALEE มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่
* MALEE มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายจากการลงทุนในกิจกรรมการตลาดและการโฆษณา

**ความเสี่ยง**

* ความผันผวนของราคาสินค้าวัตถุดิบ อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง อาจส่งผลต่ออัตรากำไร
* การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค อาจส่งผลต่อความต้องการสินค้า
* ความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ

**หมายเหตุ:** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง