สรุปงบล่าสุด LST
บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 รายได้รวม 2,906.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 81.8 ล้านบาท ลดลง 22.1% สาเหตุสำคัญเนื่องจากปริมาณการขายของบริษัทลดลง 7.6% ประกอบกับราคาขายถัวเฉลี่ยต่อหน่วยของบริษัทปรับตัวลดลง 0.4% อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยที่มีธุรกิจสวนปาล์ม (UPOIC) มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 82.5% เนื่องจากปริมาณการขายน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น 119.6% ส่วนบริษัทย่อย (BSO) มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 2.9% จากรายได้จากการขายกลุ่มเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น 55.6% ในขณะที่รายได้จากการขายผักและผลไม้กระป๋องลดลง 36.1 ล้านบาท และรายได้จากการขายซอสปรุงรสและอื่นๆ ลดลง 2.4 ล้านบาท
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ LST ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพและการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น น้ำมันปาล์ม และการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร บริษัทตั้งเป้ารายได้และยอดขายในปี 2567 ให้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดหวังว่าจะได้รับผลดีจากการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ
จากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 LST แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ แต่กำไรกลับลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทมี P/E 8.3 เทียบกับ P/BV ที่ 0.79 และ YIELD อยู่ที่ 5.19% ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังสะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา D/E อยู่ที่ระดับ 0.3 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง การมี D/E ต่ำกว่า 1 ช่วยเพิ่มโอกาสที่เจ้าหนี้จะอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น วงจรเงินสด 92.68 แสดงถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 982.466395 ล้านบาท แสดงถึงการมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -258.247817 ล้านบาท หมายถึงบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ โอกาสการลงทุนของ LST อยู่ที่การเติบโตของธุรกิจในอนาคต การขยายตลาดในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร
- การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
- ปัญหาภัยธรรมชาติและโรคระบาด
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล
LST เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
(0.72%)
(5.81%)
(15.34%)
(7.60%)
(14.47%)
(1.67%)
(0.10%)
(3.65%)
(31.54%)
(22.13%)
(66.81%)
(76.65%)