LHFG
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

ในไตรมาสล่าสุด LHFG ทำกำไรสุทธิได้ 491.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน กำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เพราะลดการขาดทุนจากเครดิตคาดว่าจะเกิดขึ้น แต่กลับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะกำไรจากเงินลงทุนและเงินปันผลลดลง

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,708.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อน และ 2.3% จากปีก่อน แสดงถึงการจัดการที่ดีในการสร้างรายได้จากดอกเบี้ย สินเชื่อก็เติบโตด้วยเช่นกัน โดยมียอดสินเชื่อรวมที่ 230,397.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1,699.5 ล้านบาท

ส่วนในเรื่องความเสี่ยง ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงมากถึง 35.7% จากไตรมาสก่อน และ 37.0% จากปีก่อน นับเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก็ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการปันผล ทำให้กำไรสุทธิยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากปีก่อนหน้า


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 476.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 เนื่องจากกำไรจากการลงทุนและเงินปันผลเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.1% โดยสาเหตุหลักมาจากกำไรจากการลงทุนและเงินปันผลเพิ่มขึ้น รวมถึงผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงเช่นกัน

ไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 303,972.5 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากสิ้นปี 2566 โดยเงินให้สินเชื่อสุทธิคิดเป็น 75.8% ของสินทรัพย์รวม สินเชื่อสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 254,427.8 ล้านบาท ลดลง 4.8% จากสิ้นปี 2566 โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงเล็กน้อย สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลง 16.3% ส่วนสินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 5.2%

NPL ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 3.0% โดยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ที่ 338.7 ล้านบาท ลดลง 35.7% จากไตรมาส 1 ปี 2567 และลดลง 37.0% จากไตรมาส 2 ปี 2566 Coverage Ratio ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 188.48%

NIM ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 2.35% ลดลงจากงวด 6 เดือนของปี 2566 ที่อยู่ที่ 2.50% Cost to Income Ratio ในไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 44.1%

จากการวิเคราะห์ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด LHFG มีโอกาสการลงทุนดังนี้

* **ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง** สะท้อนถึงคุณภาพสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อผลประกอบการในอนาคต
* **NIM ที่ลดลงเล็กน้อย** เป็นผลจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมธนาคาร แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
* **การเติบโตของสินเชื่อเพื่อรายย่อย** เป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนถึงความต้องการสินเชื่อในกลุ่มนี้ที่ยังคงแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม LHFG ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงบางประการ

* **การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก** อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ
* **การแข่งขันในอุตสาหกรรมธนาคารที่รุนแรง** อาจกดดัน NIM
* **การควบคุมนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย** อาจส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยและความสามารถในการทำกำไร

โดยรวมแล้ว LHFG มีผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่สะท้อนถึงคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น และการเติบโตของสินเชื่อเพื่อรายย่อย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันในอุตสาหกรรมธนาคาร เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน


NIM

2.35 %

NPL

3.00 %

COV

188.48 %

CREDIT

230,397.00 ล้านบาท

รายได้รวม
2,030.76 ล้านบาท
37.51ล้านบาท
(1.81%)
ไตรมาสก่อนหน้า
131.18ล้านบาท
(6.07%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
7,550.37 ล้านบาท
46.53ล้านบาท
(0.61%)
ไตรมาสก่อนหน้า
274.10ล้านบาท
(3.77%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
371.80 ล้านบาท
4.49ล้านบาท
(1.22%)
ไตรมาสก่อนหน้า
35.24ล้านบาท
(10.47%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
586.23 ล้านบาท
20.47ล้านบาท
(3.62%)
ไตรมาสก่อนหน้า
29.28ล้านบาท
(5.26%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
28.87 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
491.42 ล้านบาท
92.22ล้านบาท
(23.10%)
ไตรมาสก่อนหน้า
40.62ล้านบาท
(7.64%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
24.20 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล