สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ปี 2567

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะตลาดโดยรวมที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการโดยรวมของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,696.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 588.04 ล้านบาท แม้ว่าตัวเลขกำไรสุทธิจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 834.34 ล้านบาท คิดเป็นการลดลงร้อยละ 29.52 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับการชะลอตัวของภาวะตลาดโดยรวม รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ลดลงได้ตามสัดส่วนรายได้ที่ลดลง

สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แม้ว่าสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่บริษัทฯ ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตและพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตั้งเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

จากข้อมูลผลประกอบการและปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา การพิจารณาว่าหุ้น LALIN เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น P/E Ratio ที่ 7.67 และ P/BV Ratio ที่ 0.53 ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าหุ้นยังไม่แพงเมื่อเทียบกับกำไรและมูลค่าทางบัญชี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีความผันผวน รวมถึงพิจารณา YIELD ที่ 9.81% สำหรับปีล่าสุด

**โอกาส:**

* การขยายตัวของเมืองและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
* ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ
* ศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
* ความเสี่ยงด้านต้นทุนการก่อสร้างและอัตราดอกเบี้ย

**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**

* **ลักษณะธุรกิจของบริษัท:** ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
* **ราคาหุ้นเฉลี่ย:** มีความผันผวนตามสภาวะตลาด แต่โดยรวมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปี 2563-2565 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงปี 2566-2567
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ลดลงในช่วงปี 2566-2567 สะท้อนถึงความท้าทายในการทำกำไรในสภาวะตลาดที่ชะลอตัว
* **D/E Ratio:** ยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
* **วงจรเงินสด:** ค่อนข้างยาวนาน แสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการขายสินค้าที่อาจต้องใช้เวลานาน

การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ประกอบกับข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน