สรุปงบล่าสุด KKP
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
กำไรสุทธิ 1,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.7% QoQ และ 1.9% YoY โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) NPL ที่ 4.1% และการปรับปรุงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย โดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ สินทรัพย์รวมของธนาคารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สินเชื่อรวมลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 เนื่องจากธนาคารชะลอการเติบโตของสินเชื่อท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รอบนี้มี Coverage Ratio อยู่ที่ 135.9%
รายได้จากดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3/2567 ลดลง 17.5% YoY เนื่องจาก Net Interest Margin (NIM) ลดลงจาก 5.1% เป็น 4.7% อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 14.5% YoY จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ค่าใช้จ่ายและกำไรสุทธิโดยรวมยังคงมีแนวโน้มที่ดี อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลขาดทุนจากการขายรถยึดต่อยอดสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ 1.99% ในไตรมาสนี้
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการบริษัท ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2567
บริษัท ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 1,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต ซึ่งลดลง 59.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 โดยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและรายการขาดทุนจากการขายรถยึด คิดเป็นอัตราร้อยละ 1.99 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ลดลงจากไตรมาส 3 ปี 2566 ที่อยู่ที่ร้อยละ 3.32 สาเหตุสำคัญมาจากการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการตั้งสำรองที่ลดลงตามการชะลอตัวของปริมาณสินเชื่อ
นอกจากนี้ ภาวะตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น ทั้งจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจวาณิชธนกิจ รวมถึงค่าธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุน อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะอัตราดอกเบี้ย
**ข้อมูลสำคัญ:**
* **รายได้รวม:**
* ไตรมาส 3 ปี 2567: 6,605 ล้านบาท
* 6 เดือน ปี 2567: 13,160 ล้านบาท
* 9 เดือน ปี 2567: 19,989 ล้านบาท
* ปี 2566: 28,762 ล้านบาท
* **กำไรสุทธิ:**
* ไตรมาส 3 ปี 2567: 1,305 ล้านบาท
* 6 เดือน ปี 2567: 2,074 ล้านบาท
* 9 เดือน ปี 2567: 3,579 ล้านบาท
* ปี 2566: 5,443 ล้านบาท
* **NPL (Non-Performing Loan):** ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 4.1% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.0% ในไตรมาสที่แล้ว
* **ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น:**
* ไตรมาส 3 ปี 2567: 681 ล้านบาท
* 9 เดือน ปี 2567: 3,060 ล้านบาท
* **Coverage Ratio:** ณ ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 135.9%
* **NIM (Net Interest Margin):** ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 4.7%
* **Cost to Income Ratio:** ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 47.8%
* **สินเชื่อ:**
* ไตรมาส 3 ปี 2567: 372,846 ล้านบาท หดตัว 6.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธนาคารมีแผนชะลอการเติบโตของสินเชื่อภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน โดยการขยายตัวของสินเชื่อจะเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและมีคุณภาพสินเชื่อที่ดี
* 6 เดือน ปี 2567: 765,355 ล้านบาท
* 9 เดือน ปี 2567: 1,140,401 ล้านบาท
* ปี 2566: 1,598,055 ล้านบาท
* **โอกาส:**
* ภาวะตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้นจะช่วยหนุนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
* ธนาคารเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและมีคุณภาพสินเชื่อที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงจาก NPL
* **ความเสี่ยง:**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลต่อคุณภาพสินเชื่อ
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมธนาคารที่รุนแรง อาจส่งผลต่อผลกำไร
จากผลประกอบการและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง KKP มี P/E 10.43, P/BV 0.71, YIELD 5.76 และราคาหุ้น 52 สัปดาห์สูงสุด/ต่ำสุด คือ 71.13 / 44.84 บาท ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ xx บาท KKP อาจจะเป็นโอกาสลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และการแข่งขันในอุตสาหกรรม ก่อนตัดสินใจลงทุน
NIM
4.70 %
NPL
4.10 %
COV
135.90 %
CREDIT
372,846.00 ล้านบาท
(0.81%)
(11.27%)
(2.39%)
(8.57%)
(1.56%)
(3.03%)
(16.33%)
(4.83%)
(69.70%)
(1.88%)