KJL
บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

Alright ครับ ไม่มีปัญหาครับ นี่คือผลลัพธ์ที่คุณขอมาครับ

KJL โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568: เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย New S-Curve

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน เข้าสู่ Opportunity Day ของ KJL สำหรับงวดไตรมาส 3 ปี 2568

Agenda วันนี้คล้ายเดิม เริ่มด้วย Investment Highlight ตามด้วย Business Overview, Key Financial Highlight (งวด 9 เดือน โดยคุณพงศกร), อัปเดต Business Plan, และช่วงถามตอบ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

เหตุผลที่ต้องลงทุนใน KJL:

  1. Low downside risk, high upside return
  2. Strong moat with infinite growth

KJL Everywhere: ที่ไหนมีไฟ ที่นั่นต้องมี KJL ย้ำการกระจายตัวไปหลากหลายอุตสาหกรรม ลดความเสี่ยง

Business Model: แตกต่าง, High Variety ทำให้มีโอกาสหลากหลาย

  • แบรนด์อันดับ 1, ส่งมอบรวดเร็ว
  • KJL Network สร้าง Network Effect และ Ecosystem ที่แข็งแกร่ง

Financial Performance: อัตรากำไรขั้นต้น (GP) สูง, Operating Cash Flow เป็นบวกต่อเนื่อง

การเติบโต: เน้นต่อเนื่องและยั่งยืน สร้าง Strong Moat, Infinite Growth, และ New S-Curve (พลังงานสะอาด, EV Charger, AI กับ Data Center)

Key Financial Highlight (งวด 9 เดือน): (สรุปภาพรวม ก่อนลงรายละเอียด)

  • รายได้รวม 864 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.6%
  • กำไรขั้นต้น 272 บาท GP เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.57% (ต้นทุนขาย/วัตถุดิบลดลง)
  • EBITDA 198 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย
  • กำไรสุทธิ 118.4 ล้านบาท ลดลง 7.5% (ปี 2567 มี One-Time Benefit ภาษีจากการลงทุน Solar Rooftop ของ BOI) หากไม่รวม One-Time Benefit กำไรสุทธิใกล้เคียงกัน

อัตรา GP: ยังสูง 28-32% ตามเป้า (31.64%)

Net Profit: 13.69% (อยู่ในกรอบที่ให้ไว้)

ROA: 11.73%, ROE: 23.03%

สินทรัพย์: 1,435 ล้านบาท, หนี้สิน: 752 ล้านบาท, ส่วนของผู้ถือหุ้น: 682 ล้านบาท, D/E Ratio: 1.1 เท่า

รายได้/กำไรเป็นไปตามเป้าหมาย รายได้ปีนี้มาจากวัตถุดิบลดลง ต้นทุนลดลง ปรับราคาตาม Market Price รักษา Market Share และขยายสู่ตลาดคู่แข่ง

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและงานโลหะ (ตู้ไฟ, สวิตช์บอร์ด, รางเดินสายไฟ, งานโลหะแผ่นแปรรูป)

4 หมวดสินค้าหลัก:

  1. KJL (สินค้ามาตรฐาน): หมวดหลัก ยอดขาย 70%+, สต็อกพร้อมส่ง
  2. Make-to-Order: สั่งผลิตตามต้องการ ไม่จำกัดขั้นต่ำ
  3. หมวดไฟฟ้า: ติดตั้งระบบไฟฟ้า เดินสาย บัสบาร์
  4. Customize Sheet Metal Works: งานสั่งผลิตโลหะ (non-electrical), ใช้ทรัพยากรเดิมในหมวด 2, เช่น เฟอร์นิเจอร์, Kiosk, เครื่องมือแพทย์, EV Charger

KJL Everywhere: ครอบคลุม 3 ขั้นตอนใหญ่ๆ: ผลิตไฟฟ้า, จ่ายไฟฟ้า, ใช้ไฟ

  • ผลิต/จำหน่าย: พลังงานและสาธารณูปโภค (การไฟฟ้าฝ่ายผลิต, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค/นครหลวง)
  • ใช้ไฟ: Infrastructure, Mega Project, Industrial Use, Home Use (7 กลุ่มอุตสาหกรรม)

ตัวอย่างกลุ่มอุตสาหกรรม:

  • โครงสร้างพื้นฐานและการเดินทาง (ท่าเรือ, สนามบิน, รถไฟฟ้า)
  • IT Communication (การสื่อสาร, IT, Data Center)
  • Commerce & Service (ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, อาคารสำนักงาน)
  • Industrial Factory (โรงงานอุตสาหกรรม, FDI)
  • เกษตรอุตสาหกรรม (โรงสีข้าว, แปรสินต้าเกษตร, Smart Farming)
  • Medical & Healthcare (โรงพยาบาล, ชิ้นส่วนการแพทย์)
  • อสังหาริมทรัพย์ (บ้าน, คอนโด, อาคาร, EV Charger)

B2B2C: ขายผ่านร้านค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า, ผู้รับเหมา, ช่างไฟ, End Customer

Value Chain: ให้ความสำคัญกับความเร็ว

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

รอการอธิบายเพิ่มเติมจากคุณพงศกรในช่วง Financial Highlight

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

รอการอธิบายเพิ่มเติมจากคุณพงศกรในช่วง Financial Highlight

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

สรุป KJL Highlight:

  • ประสบการณ์ยาวนาน (36 ปี)
  • กำลังผลิตอันดับ 1
  • แบรนด์ KJL อันดับ 1
  • มาตรฐานสินค้าระดับ World Class
  • เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น, เยอรมัน, สวิตเซอร์แลนด์
  • ระบบ Digital กับ Industry 4.0

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 28.40]

Financial Highlight (งวด 9 เดือน) โดยคุณพงศกร:

  • รายได้รวม: 864.68 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท (1.61%)
  • กำไรขั้นต้น: 272.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.39 ล้านบาท (3.57%)
  • EBITDA: 198.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ~5 ล้านบาท (2.69%)
  • กำไรสุทธิ: 118.40 ล้านบาท ลดลง 9.66 ล้านบาท (7.54%)
  • GP Margin: 31.64%
  • Net Profit Margin: 13.69%
  • ROA: 11.73%
  • ROE: 23.03%
  • สินทรัพย์: 1,435.08 ล้านบาท
  • หนี้สิน: 752.96 ล้านบาท
  • ส่วนของผู้ถือหุ้น: 682.12 ล้านบาท
  • D/E Ratio: 1.1 เท่า

รายได้จากการขายงวด 9 เดือน: 861.45 ล้านบาท ลดลง 13.14 ล้านบาท (1.5%) (เทียบกับ 9 เดือนปีก่อน), ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 1.16%, ลดลงจากไตรมาสก่อน 6.76% (ราคาวัตถุดิบลดลง ปรับราคาขาย จัดโปรโมชั่น รักษาฐานลูกค้า/Market Share)

รายได้ตาม Product Group: Standard มากสุด (72.62%), Make-to-Order (20.68%), เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า (1.23%), แผ่นโลหะแปรรูป (2.86%), อื่นๆ (2.61%)

ต้นทุนขาย: ลดลงตามรายได้ที่ลดลง, ลดลงมากกว่า (588.90 ล้านบาท, ลดลง 22.53 ล้านบาท หรือ 3.68%) ขณะที่รายได้ลดลง 1.5%, ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 2.8%, ลดลงจากไตรมาสก่อน 5.43%

กำไรขั้นต้น: เป็นไปตามเป้า (31.64%, เป้า 28-32%) ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

กำไรขั้นต้น (จำนวน): 272.55 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 9.39 ล้านบาท (3.57%) เทียบกับ 9 เดือนปีก่อน, เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 2.6%, ลดลงจากไตรมาสก่อน 9.53% (ราคาวัตถุดิบลดลง, Industry 4.0 ในการผลิต)

ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการขาย/บริหาร 120.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย (2.59%), เป็น % ต่อรายได้ ไม่ต่างกัน (13.4% vs 13.99%)

Net Profit: 118.40 ล้านบาท, ลดลงจากปีก่อน 9.66 ล้านบาท (7.54%), Net Profit Margin เป็นตัวเลขที่คาด (13-15%) ในตลาดก็ยังเป็น 2 ดิจิต, ในตลาดอยู่ที่ ~3.5% สาเหตุหลักคือปีก่อนมี One-Time Benefit ภาษี ถ้าเทียบกัน (ไม่รวม One-Time Benefit) รายได้ใกล้เคียงกัน

สินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน KJL Innovation Campus, หนี้สินเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงิน (ระยะสั้น/ยาว), ส่วนของผู้ถือหุ้นก็เกิดจากกำไรสุทธิหักกลบกับเงินปันผลจ่าย

Cash Flow: Net Cash และ Positive Operating Cash Flow มาตลอด งวด 9 เดือน มีบวก 168.32 ล้านบาท

Key Financial Ratio:

  • Cash Cycle: 62.71 วัน
  • D/E Ratio: 1.10 เท่า
  • กำไรต่อหุ้น: 0.51 บาท/หุ้น
  • ROA: 11.73%
  • ROE: 23.03%
  • Dividend Payout Ratio (ปี 2568): 37.23%

Business Plan Update (ไตรมาส 3):

  • KJL Strong & Infinite Growth Strategy
  • KJL Brand, KJL Network, KJL Innovation
  • World Class Master Enterprise, การเติบโตอย่างยั่งยืน (Save & Safe)

KJL Brand:

  • ออกสินค้าใหม่, เติบโตต่อเนื่อง, สร้าง Brand Awareness
  • Partnership, KJL Now

KJL Network: ขยาย Authorize Dealer, Retail (ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า), Expert (ช่างไฟ/วิศวกรไฟฟ้า), Key Influencer

KJL Innovation (KIN): อยู่ระหว่างก่อสร้าง

New Product (ตั้งแต่ปี 2566 รับรู้รายได้เต็มปี 2567/2568):

  • ตัวรางเดินสายสำหรับงาน Solar Rooftop
  • พลาสติก (New Product ตลาดใหม่ non-metal): ตู้พลาสติกกันน้ำ

Joint Partnership กับ Schneider Electric: Certified Partner, ร่วมกันพัฒนาสินค้า, ออกสินค้าใหม่ (ไตรมาส 3/4)

Product (ไตรมาส 4): พลาสติก Junction Box (บล็อกกันน้ำ), Plastic Square Box, 5K Brand (Fighting Brand): Way, ตู้ Size มาตรฐาน/กันน้ำ

Target All Segment Product: ขยายสู่ตลาดทุกกลุ่ม (Entry Level, มาตรฐาน, High Level)

ราง Cable Ladder (5K)

ไตรมาส 3: ตู้ฝา 1 ชั้น/ฝากระจก, ตัวอุปกรณ์ต่างๆ

ไตรมาส 4: บล็อกลอยพลาสติก (Plastic Wall Box) สำหรับงานปลั๊กสวิตช์

พลาสติก: ขายไป ~1.5 ล้านชิ้น ตั้งแต่ปลายปี 2566

ไตรมาส 1: ออก Full Block ชื่อ Phonix Night (ความหนา 1.6/1.2 มม. สำหรับ 5K)

ไตรมาส 2: Stainless Series (คุณภาพสูง, วัตถุดิบแพง, ผลิตยาก): ตู้สวิตช์บอร์ด, Box, Way (สต็อกพร้อมส่ง)

ไตรมาส 3: Way รุ่นใหม่ (เหล็กเกรดพิเศษ/เหล็กแซม) แข็งแรงทนทาน, ตลาด Solar, Way สีพิเศษ (น้ำตาล, ขาว) สต็อกพร้อมส่ง, เพิ่มความหลากหลายและช่องทางการขาย

ไตรมาส 4: (เปิดตัวแล้ว): KJL ตัวรุ่น Inno Fast (ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า/มอเตอร์), Co-engineered by Schneider Electric: ตู้ DB (มี/ไม่มีอุปกรณ์), Electrical Wiring, ตู้ปั๊มน้ำ (Complete Set) เพิ่ม Value, High Value Added เข้ามา, ต่อยอด Partnership, สร้างรายได้ที่สูงขึ้นและ partnership.

K-Rax Server Series: กลุ่มตู้ Rack Server สำหรับ IT, สื่อสาร, Data Center: ตัว Wall Mount, ตัวตั้งพื้น (6U-45U), ฝา Acrylic/ทึบ/เจาะรู, German & Swiss Tech (ผลิต/พ่นสี), เน้นมาตรฐานสากล

Cable Tray (5K): ราคาลดลง แข่งขันได้ เพิ่ม Market Share ในกลุ่มสินค้าราคาที่จับต้องได้. อย่างที่บอก เราขยายไป all segment.

  • ระดับ entry level
  • ระดับมาตรฐาน
  • เกรดสูง สแตนเลส

KJL Network: ขยายทุก Tier (B2B2C), Push & Pull Strategy, ลูกค้าระบุยี่ห้อ

Tier X: Key Influencer (มีผลต่อ Project Vendor List), Designer, CM, Consultant, ผู้รับเหมา, Project Owner: กลุ่มไฟฟ้าขนาดใหญ่, บริษัทพลังงาน, รถไฟฟ้า (สายสีม่วง), Infrastructure: งานรอ Bid อีกมาก

Objective หลัก: Approved ใน Project Vendor List ขนาดใหญ่, Project Reference, Penetrate สู่ตลาดใหม่ๆ, เพิ่ม Market Share ในกลุ่ม Project

Retail: ขยาย (3 ปีในตลาด), 400 ร้านค้า -> 1,200 ร้านค้า, ขยายให้เต็มตลาด/ครอบคลุมทุกจังหวัด/อำเภอ (KJL เข้าถึงง่าย หาง่าย)

Electrical Expert: ปีละ 5,000 คน, 15,000 คน

สัมมนา: เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ, 11 งาน/3,000 คน (ปี 2567) -> 13 งาน/~4,000 คน (ปี 2568) -> 14-15 งาน/~4,000 คน (ปี 2569)

KJL Innovation (KIN): เน้นขยาย 3 หมวดหลัง (Make-to-Order, ไฟฟ้า, โลหะ) 10-15% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า, ขยาย New S-Curve (New BU/Service/ตลาด), Penetrate สู่ New Market/BU, สร้าง Long-Term Performance, ลดเวลาในการพัฒนาสินค้า, เพิ่ม %GP (30-35%), สร้าง Network (แข็งแกร่ง/ต่อเนื่อง), สร้าง Network Effect & Ecosystem.

KIN: ก่อสร้าง ~80%, เสร็จไตรมาส 1 ปีหน้า Within Plan, งานตกแต่งภายใน/Facade, ติดตั้งเครื่องจักร/ระบบ

  • แผนด้านบน (กsองหน้า): พูดไปแล้ว
  • แผนด้านล่าง: มาตรฐานในการทำงานที่ดี, มาตรฐานในการผลิต, กำลังผลิตที่สูง, Operation ที่ดี, ลดต้นทุน, เพิ่มประสิทธิภาพ, มาตรฐานการผลิตระดับ World Class, 40 ล้านชิ้น (ปลายปีนี้/ต้นปีหน้า)
  • ที่ดินที่ได้มาใหม่: แผนระยะกลาง (3 ปี) ขยาย Capacity, Inventory/Warehouse, KJL Now (เพิ่ม SKU/พื้นที่จัดเก็บ/Service Level)
  • KJL Now: Service Level Agreement อยู่ที่ 99.5%
  • เพิ่มประสิทธิภาพ, ลดต้นทุน, เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, สร้าง Variety ที่สูง

การเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG): ขับเคลื่อนด้วย ESG, Save & Safe (Save Your Life, Save Your World), Strategy ที่เน้นความยั่งยืนผสมผสานกับแผนธุรกิจ, ตอบโจทย์แผนธุรกิจ:

  • Save Your Life: Standardize: พัฒนามาตรฐานวิชาชีพ, ยกระดับมาตรฐานกลุ่มไฟฟ้า (คู่มือการติดตั้งระบบไฟฟ้าฟรี), เพิ่มสมาชิก KJL Network (จัดสัมมนามากขึ้น, เพิ่มสมาชิก/KJL Network/การรับรู้ของแบรนด์/Brand Awareness/Market Share)
  • Stability: สร้างเสถียรภาพให้ระบบไฟฟ้า (มาตรฐานสินค้าระดับ World Class, Partnership)
  • Safety: ความปลอดภัย (ยกระดับความปลอดภัย, ส่งมอบคุณค่าความปลอดภัยตลอด Value Chain), Ultimate Share Value (Tier 1/2/3 ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ/งานที่ดี/ปลอดภัย)
  • Save Your World: Save & Clean Energy: พลังงานสะอาด/ทดแทน, ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Solar Rooftop 1MW (ปี 2567), +200kW (ปีนี้) ), 100% ต่อเนื่อง
  • Save Cost: Eco Efficiency: ลดการใช้ทรัพยากร, เพิ่มประสิทธิภาพ (วัตถุดิบ/ลดต้นทุน/ลด Carbon Footprint)

Sustainability: ส่งเสริมความยั่งยืน (ESG), เติบโตอย่างยั่งยืน, CG: KJL ได้รับการรับรอง CTR ระดับ 5 ดาว (ดีเลิศ) เพิ่มจาก 4 ดาว (ปี 2568) , ISO 14001, Clean Industry Level 3, CAC Certified และ Commit ในการต่อต้านคอร์รัปชัน.

Industry Outlook & Mega Trend:

  • More Electrifying Future (ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น):
  • Energy Transition (Fossil -> พลังงานสะอาด): Solar, ลม, ชีวมวล
  • Electrification (น้ำมัน -> ยานยนต์ไฟฟ้า/EV)
  • Digital Transformation (Digital + Data + AI): ใช้ AI/Data เยอะ -> ใช้ไฟฟ้าเยอะ -> Data Center เติบโตต่อเนื่อง -> KJL พร้อมรับ Mega Trend.

Continuous & Sustainable Infinite Growth:

  • Target ที่สำคัญ: เติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี (5 ปี), Double ภายใน 5 ปี, อัตรากำไรสูง (GP 28-32%, Net Profit 13-15%)
  • Profitability Ratio: ROA 10-15%, ROE 25-30%
  • D/E Ratio: 0.8-1.2 เท่า (สูงสุด 1.5 เท่า), DSR มากกว่า 2, Cash Cycle 45-75 วัน (เพิ่มขึ้น (KJL NOW) =มีstock พร้อมส่ง ,เพิ่มของ inventory ในการที่จะ มี SKU ที่พร้อมส่งเพิ่มมากขึ้นด้วย มีจำนวนที่พร้อมส่งมากขึ้นด้วย เพื่อตอบ SLA (99.5%), ใน peer เราห่างมากเพราะของเราหลักร้อยวัน ในขณะที่คนอื่นเป็นหลักสิบวัน.)
  • Cash Flow: Net เป็น Positive Operating Cash Flow เสมอ
  • Dealer: ขยาย (400->1200), Expert: เพิ่ม 5,000 คน/ปี, Quantity: 20->40 ล้านชิ้น.

สรุป (3 ปีในตลาด): CG: 4->5 ดาว, ESG Rating: A->AA (คาดการณ์ AAA), CAC Certified, Roadmap: ขยับจาก mai -> SET (ปี 2570)

ทั้งหมดทั้งมวล Investment Highlight: ทำไมต้องลงทุน KJL? Low Downside Risk, High Upside Return, Strong Moat, Infinite Growth: ความเสี่ยงต่ำ, Upside สูง, Variety สูง, ป้อมปราการแข็งแรง, เติบโตผ่าน Network Effect/Ecosystem, พร้อมรับ New S-Curve (พลังงานสะอาด/Data Center/AI)

ช่วงถาม-ตอบ

  • คำถาม: มีการกู้เงินระยะสั้น/ยาวเพิ่มขึ้น, ลงทุน Campus, อยากให้บอกแนวโน้มและ Target D/E ที่เหมาะสม?
      คำตอบ:
    • D/E Target: 0.8-1.2 เท่า (สูงสุด 1.5 เท่า), มีโอกาสลงทุนใหม่ๆ ก็ไม่เกิน 1.5 เท่า, Target จริงๆ ไม่เกิน 1.2 เท่า, ช่วงนี้ลงทุนสูงจาก KJL Innovation Campus, ใกล้เสร็จแล้ว, ลงเครื่องจักรทยอยเข้ามา, หนี้สินเพิ่มขึ้น
  • คำถาม: การเติบโต/ขยายกิจการมาจากด้านใด?
      คำตอบ:
    • กำลังผลิต: ในอดีต potential เติบโตต่ำ (Capacity เต็ม) -> ลงทุนขยายกำลังผลิต (20->40 ล้านชิ้น) -> มี Room เหลือ, ใช้ Capacity อย่างมีประสิทธิภาพ (70-85%), Optimize Fixed Cost/ค่าเสื่อมราคา, ราคาขายวัตถุดิบลดลง (ลดราคาขาย/เพิ่มกำลังผลิต), ขยาย brand, เพิ่ม Market Share/สินค้าใหม่: พลาสติก/ไฟฟ้า (complete), IT/Data Center (ตู้ Rack Server), ขยายลูกค้าใหม่ (ร้านค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วประเทศ, Expert: วิศวกร/ช่างไฟ) -> KJL มากขึ้น/เลือกมากขึ้น, การสื่อสารต่อเนื่อง, เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
  • คำถาม: มีคู่แข่งเยอะหรือไม่?
      คำตอบ:
    • Business Model Unique/แตกต่าง, ป้อมปราการแข็งแรง, Variety สูง, คู่แข่งส่วนใหญ่เน้นแข่งขันด้านราคา (คุณภาพต่ำ/ราคาถูก) ก่อนหน้านี้ KJL (ก่อนมี Fighting Brand) ไม่ได้สนใจตลาดนี้มาก (คุณภาพสูง/ราคาดี) -> การเติบโตของตลาดไม่มาก + ลูกค้าเน้นราคา -> ทำ Fighting Brand: ทดลอง (Way) -> ตู้/สาย/etc. -> Fighting Brand = All Segment Product (ครอบคลุมทุก Level) -> ขยาย Market Share -> ไปกินตลาดกลุ่มนี้.
  • คำถาม: แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร?
      คำตอบ:
    • Business Model ที่แตกต่าง -> ดูที่ %GP/%Net Profit เทียบกับ Peer (KJL ฉีกห่าง), GP 30% (แทบไม่มี), Net Profit 15% (แทบไม่มี) -> เครื่องยืนยันความแข็งแรง (ตัวเลขต่อเนื่องตลอด 3 ปี), ชวนนักลงทุนมาลงทุนเพิ่มขึ้น -> การเติบโตบริษัทอิงกับอสังหาฯ? เป็น 1 ใน 8 Segment (KJL Everywhere) -> ไม่ได้อิงกับอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง -> ครอบคลุมหลากหลาย -> พร้อมที่จะเติบโตกับอุตสาหกรรมไหนมาในตอนนั้น (Solar Roof/พลังงานสะอาด/Data Center) -> เข้าไปในตลาดพวกนี้ตลอดเวลา, พร้อมเพิ่มกำลังผลิต maintain /ขยาย Market Share -> เป็นไปตามแผน
  • คำถาม: แนวโน้มไตรมาส 4 เป็นอย่างไร?
      คำตอบ:
    • เป้าทั้งปี: คาดการณ์เติบโต 10-15% -> ใกล้เคียงเดิม (Volume ในการผลิตโตจริง แต่ราคาขายลดลงตามราคาวัตถุดิบ) -> ควบคุมต้นทุน + maintain GP 31%+ -> maintain Market Share + ขยาย (Fighting Brand ขยาย Market Share, สแตนเลส/etc.) -> ดูจาก GP/EBITDA/etc. (ยกเว้น Net Profit (One-Time Benefit ปี 2567)) -> ใกล้เคียงเดิม.

สรุป: KJL ยังคงมุ่งมั่นในการเติบโตอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยเน้นการสร้างความแตกต่างด้วย Business Model ที่แข็งแกร่ง การขยายตลาดและสินค้าอย่างต่อเนื่อง การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการตอบสนองต่อ Mega Trend ของโลกยุคดิจิทัลและพลังงานสะอาด

หากมีอะไรให้ปรับปรุงเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะครับ