KISS
บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday KISS: เติบโตต่อเนื่อง Q3/2568, ขยายสู่ตลาดโลก, และวางเป้าหมายอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

KISS รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่ง:

  • ยอดขาย 330 ล้านบาท (+9.6% YoY)
  • เน้นการเติบโตของ Market Share ทั้ง Face Mask และ Face Moisturizers
  • Face Mask มี Record Share ที่ 19% ใน Q3/2568 (+400 Points YoY)

อย่างไรก็ตาม, การบริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชะลอตัวลง:

  • Face Mask เติบโต 20% YTD (ปีที่แล้ว 26%)
  • Face Moisturizer เติบโตเพียง 2% YTD (ปีที่แล้ว 14%)

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักมาจาก Sell-out (ยอดขายไปที่ End Consumer) ไม่ใช่ Sell-in (ยอดขายให้ร้านค้า):

  • Sell-out Growth ใน Semi-Credit Retailers: +54%
  • Sell-in Decline ใน Semi-Credit Retailers: -19% (เน้นการ Optimize Inventory)
  • Cash Flow เพิ่มขึ้นเป็น 44 ล้านบาท จากการลด Contract Assets

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

KISS มองเห็นโอกาสในการเติบโตจากหลายด้าน:

  • Innovation: อัตราความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ใหม่สูงกว่า 90% (เช่น Hydrogel Mask, Micellar Water, Serum Pad)
  • ขยายสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่: เข้าสู่ตลาด Sunscreen ในเดือนตุลาคม 2568
  • General Trade: ปรับโครงสร้างธุรกิจ, เพิ่ม Distributor, เติบโต 50% YTD
  • International Expansion: เข้าสู่ตลาดลาว (Shippment สัปดาห์ล่าสุด), เตรียมเข้าสู่เวียดนาม, วางเป้าหมาย 8 ประเทศภายในปี 2569

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

KISS เผชิญกับความเสี่ยงหลักคือการชะลอตัวของการบริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Skin Care ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในอนาคต

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

KISS เน้นการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบโดย:

  • การสร้างความแตกต่างด้วย Innovation และผลิตภัณฑ์ใหม่
  • การขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพื่อลดการพึ่งพาตลาดในประเทศ
  • การบริหารจัดการ Inventory และ Contract Assets อย่างมีประสิทธิภาพ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

KISS วางเป้าหมายการเติบโตระยะยาวที่ Double-Digit ทั้ง Top Line และ Bottom Line:

  • ขับเคลื่อนโดย Core Business และ International Expansion
  • Elevate Brand Equity ด้วย Equity Advertising และ Graphic Design ใหม่
  • ลงทุนเพิ่ม 30% ใน Advertising โดยใช้ Professional Media Agency

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 46:22 ]

  1. Q: Q4 Sales Outlook เป็นอย่างไร?

    A: คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง แม้ Q4/2567 จะสูงเป็นพิเศษ, คาดว่า Full Year จะเติบโต Single-Digit จาก Rogjukiss Baseline, ผลิตภัณฑ์ใหม่, และ Sis2Sis Relaunch

  2. Q: Revenue Increase ใน Q3 จาก Modern Trade มาจากอะไร?

    A: มาจาก Abnormal Business Growth, Sell-out Growth สูงกว่า Sell-in ถึง 2 เท่า, และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ประสบความสำเร็จ

  3. Q: Next Year Outlook เป็นอย่างไร?

    A: ยังคงเป้าหมาย 4 พันล้านบาทภายในปี 2573, Guidance คือ Double-Digit Growth ทั้ง Top Line และ Bottom Line จาก Core Business และ International Expansion

  4. Q: มีโอกาสทำ M&A หรือไม่?

    A: M&A เป็นหนึ่งใน Incremental Growth Drivers, ปรับปรุง Cash Flow เพื่อเตรียมพร้อม, ยังไม่มี Firm Plans, แต่คอยสังเกตการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด, มองหา Complementary Products ใน Skin Care Category

  5. Q: Dividend Policy สำหรับปีหน้าเป็นอย่างไร?

    A: ยังคงยึดถือนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของบริษัทเฉพาะกิจการ

  6. Q: New Product Sales Performing เป็นอย่างไร?

    A: Sales Momentum ดีมาก, Success Rate สูงกว่า 90%, Micellar Launch ในเดือนกรกฎาคม ติดอันดับ 5 Bestselling SKU, Serum Pad มียอดขายสูงจนต้องเพิ่มกำลังการผลิต

  7. Q: คาดการณ์ตัวเลข SMA ถึงเซลส์สำหรับปีนี้ 2568 เป็นเท่าไหร่?

    A: ไม่แตกต่างจากปีที่แล้วมากนักถึงแม้ว่าเซลล์จะเพิ่มขึ้น

  8. Q: Sis2Sis Sales Contribution ในปีหน้าเป็นอย่างไร?

    A: คาดว่าจะ Double Sales, คิดเป็น 6-7% ของ Company Revenues, จาก Relaunch ที่ประสบความสำเร็จ, Product Launches ใหม่, และ Distribution Drive

  9. Q: ค่าตัว Presenter ใหม่เท่าไหร่ และทำไมถึงเลือก Dr. Lee?

    A: ไม่ได้เรียกว่า Presenter แต่เป็น Endorser, เป็น Leading Korean Dermatologist, สนับสนุน Brand Positioning เรื่อง Korean Science for Asian Skin, เสริมสร้าง Technology Credential และ Capabilities

  10. Q: New Skin Lab ใน Sister Lab เป็นอย่างไร?

    A: เป็น Lab ที่สร้างในโรงงานของ OEM Partner, เป็น Collaboration Project, ผสาน Partner Technology กับ Consumer Insight, ช่วย Spot Relevant Trends และ Ingredients ได้เร็วขึ้น, และ Shorten Time to Market

  11. Q: ภาพสำหรับปีหน้า เรื่อง Right of Inventory เป็นอย่างไรบ้าง?

    A: ยังมี Discontinue Brand เหลืออยู่บางส่วน แต่ลดลงจาก 2 ปีที่แล้วแน่นอน, อยู่ในช่วง Clear สินค้า, ไม่กระทบกำไรมากนัก, บริหารจัดการอย่างระมัดระวัง

  12. Q: วัตถุประสงค์ในการ Reduce Sell in และ Inventory คืออะไร?

    A: วัตถุประสงค์คือ Cash Flow, ช่วยให้มีเงินทุนสำหรับ Investment Opportunities ต่างๆ (Product, Research, Advertising, M&A), ยกระดับ Engagement กับ Customers, และดูแล Retailer Partner

  13. Q: ไตรมาส 4 จะมีการส่งออกสินค้าไปประเทศไหนบ้าง?

    A: ในเดือนนี้คือลาว และเวียดนาม

  14. Q: Semi credit คืออะไร ? บันทึกรายได้จากลูกค้า Semi Credit อย่างไร ?

    A: จะบันทึกรายได้เมื่อมีการส่งสินค้าให้กับ Retailer แต่จะ ช่วยให้การเก็บเงินตรงจุดนั้นได้รวดเร็วขึ้น

  15. Q: เกี่ยวกับ competitive landscape ของมาร์ค ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ?

    A: การแข่งขันสูง มีทั้งรายใหม่เข้ามาและถอดตัวออก เป็นตลาดที่เติบโตเร็ว แต่ต้องปรับตัว และ innovation ให้ทัน

  16. Q: การปิด Gap ตรงนี้มีแนวทางอย่างไร ?

    A: พัฒนา ปรับปรุง innovate สินค้าให้ดีอยู่เสมอ

  17. Q: ความมั่นใจของ CEO เกี่ยวกับ Next Year Outlook เป็นอย่างไร?

    A: มีความมั่นใจสูง, เชื่อว่า Growth Drivers ที่วางไว้จะขับเคลื่อนการเติบโต, และ Guidance ที่ตั้งไว้ Realistic แม้จะมี External Factors ที่ควบคุมไม่ได้

โดยสรุป, KISS ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย, การบริหารจัดการต้นทุนและ Inventory อย่างมีประสิทธิภาพ, และการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

  • ถามถึงเรื่องเป้าหมายปี 2030 จะทำได้จริงไหม
ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป
  • (Sales Out, Revenue, Innovation, Market share, cash flow, product release, international, SMA -เซลส์, มาร์ค, Investment, CEO, Competitor, brand equity)