KISS
บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KISS): วิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาส 2/2567

บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KISS) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 โดยมีรายได้รวม 308.8 ล้านบาท เติบโต 29.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 45.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม (Rojukiss/Best Korea/PhD) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 34.3% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โทนเนอร์ Pre-serum Toner, เซรั่ม Lag Serum Cleanser, Sleeping Masks, Pre-serum Toner และ โฟมล้างหน้า และการทำการตลาดดิจิตอลอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เติบโตสูงถึง 182.5% เทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Sis2Sis) โดยเฉพาะแบรนด์หลักอย่าง Rojukiss ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/2567 ยอดขายของแบรนด์ Rojukiss เติบโตสูงถึง 62% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นจมูกยังยังเขือโควิด-19 ภายใต้แบรนด์ High Bio-Sci ของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ลดลง 57.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัทจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทีคลายลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทมีกำไรสุทธิ 38.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 20.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 12.5% เพิ่มขึ้นจาก 11.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทมีแผนธุรกิจที่จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม และจะใช้กลยุทธ์ในการทำการตลาดดิจิตอล การสร้างแบรนด์ และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อผลักดันการเติบโตของยอดขาย บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2567 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2566 และจะมุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรของบริษัท

**วิเคราะห์**

* **รายได้** ในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้รวม 308.8 ล้านบาท เติบโต 29.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 45.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม
* **กำไรสุทธิ** บริษัทมีกำไรสุทธิ 38.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 20.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม
* **อัตรากำไรขั้นต้น** อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 53.2% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีสาเหตุจากจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ US Dollar ที่อ่อนค่าลง แต่ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
* **อัตรากำไรสุทธิ** อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 12.5% เพิ่มขึ้นจาก 11.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ
* **D/E** D/E อยู่ที่ 0.28 ต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* **P/E** P/E ล่าสุดอยู่ที่ 17.72 ต่ำกว่า 35 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีราคาหุ้นที่เหมาะสม
* **P/BV** P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 2.18 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีราคาหุ้นที่เหมาะสม
* **YIELD** YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 3.75% แสดงให้เห็นว่าบริษัทจ่ายเงินปันผลในระดับที่น่าพอใจ
* **ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง** ราคาหุ้นเฉลี่ยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567
* **เก็บหนี้เฉลี่ย วัน** เก็บหนี้เฉลี่ย วันอยู่ที่ 142.73 วัน
* **ขายสินค้าเฉลี่ย วัน** ขายสินค้าเฉลี่ย วันอยู่ที่ 126.83 วัน
* **วงจรเงินสด** วงจรเงินสดอยู่ที่ 145.77 วัน
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน** เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 20.348302 ล้านบาท
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน** เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ที่ -16.922339 ล้านบาท

**ฐานะทางการเงิน**

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีหนี้สินรวม 283.4 ล้านบาท ลดลง 26.6 ล้านบาทจากสิ้นปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักจาก
* ทรัสต์รีซีท (สินเชื่อเพื่อการนำเข้า) ลดลง 30.5 ล้านบาท บริษัทปรับปรุงการบริหารสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดการใช้วงเงินกู้ลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัท
* เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นเพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาท

ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 1,085.2 ล้านบาท ลดลง 7.5 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักจาก
* ส่วนของผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ลดลงจำนวน 76 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ในช่วงไตรมาส 1/2567 ส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 100% ในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด
* รายการอื่นในส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้น 52.8 ล้านบาท สาเหตุหลักจากส่วนเกินทุนจากเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้น 46.9 ล้านบาท จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด เป็น 100%
* กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร เพิ่มขึ้น 15.7 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2567 ซึ่งเท่ากับ 31.0 และ 38.7 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเท่ากับ 69.7 ล้านบาท หักด้วยเงินปันผลจ่ายจากผลการดำเนินงานในรอบเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงธันวาคม 2566 จำนวน 54 ล้านบาท ซึ่งได้จ่ายไปแล้ว ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567

**กระแสเงินสด**

ในช่วงระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน 63 ล้านบาท บริษัทมีกระแสเงินสดใช้ในกิจกรรมลงทุนลดลง 1 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนสูง เพื่อเป็นการบริหารเงินสดส่วนเกิน ตราสารดังกล่าวได้ครบกำหนดและได้ต่ออายุในเวลาเดียวกัน บริษัทมีกระแสเงินสดใช้ในกิจกรรมจัดหาเงินลดลง 117 ล้านบาท จากการจ่ายชำระคืนสินเชื่อเพื่อการนำเข้า เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัท นอกจากนั้น ได้มีการจ่ายลดทุนหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด จำนวน 30.3 ล้านบาท และจ่ายเงินเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ทั้งหมด 100% ในไตรมาส 1/2567 และจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานในรอบเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงธันวาคม 2566 จำนวน 54 ล้านบาท ส่งผลให้เงินสดของบริษัท ณ 30 มิถุนายน 2567 เท่ากับ 423 ล้านบาท ลดลง 55 ล้านบาท จาก ณ 31 ธันวาคม 2566


**โอกาส**

* บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม
* บริษัทมีแผนธุรกิจที่จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ
* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* บริษัทจ่ายเงินปันผลในระดับที่น่าพอใจ

**ความเสี่ยง**

* การแข่งขันในตลาด
* สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

**สรุป**

KISS เป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่าง กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม ที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และการทำการตลาดดิจิตอลอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง นอกจากนี้ บริษัทมีแผนธุรกิจที่จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ และคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2567 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2566 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดย KISS เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจความงาม และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว และนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด และพิจารณาถึงความเสี่ยงของการลงทุนก่อนตัดสินใจ


รายได้รวม
310.75 ล้านบาท
96.03ล้านบาท
(44.72%)
ไตรมาสก่อนหน้า
70.89ล้านบาท
(29.56%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
164.27 ล้านบาท
55.33ล้านบาท
(50.79%)
ไตรมาสก่อนหน้า
32.86ล้านบาท
(25.01%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
52.86 ล้านบาท
2.13ล้านบาท
(4.20%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1.93ล้านบาท
(3.52%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
111.53 ล้านบาท
41.47ล้านบาท
(59.20%)
ไตรมาสก่อนหน้า
17.00ล้านบาท
(17.98%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
35.89 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
38.71 ล้านบาท
7.70ล้านบาท
(24.83%)
ไตรมาสก่อนหน้า
11.29ล้านบาท
(41.15%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
12.46 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
8.07 ล้านบาท
46.80ล้านบาท
(85.29%)
ไตรมาสก่อนหน้า
26.08ล้านบาท
(144.81%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล