สรุป OPPDAY หุ้น KCG
Oppday
สรุป OPPDAY
KCG สร้างสถิติใหม่ ยอดขายโตต่อเนื่อง Q3/2568 พร้อมลุยตลาดอาเซียน
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ KCG Corporation ในส่วนของ Quarter 3/2568 ในเรื่องของ Oppday วันนี้ขอแนะนำผู้ที่มาให้ข้อมูลในวันนี้ ท่านแรกคุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้ อำนวยการค่ะ ท่านที่ 2 ค่ะ คุณทวัต ธีรานุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้ อำนวยการอาวุโสค่ะ ค่ะดิฉันกนกวรรณ ธรรศรีมณีศิริ เป็นรองกรรมการผู้ อำนวยการฝั่งการเงิน CFO ค่ะ อย่างนี้เดี๋ยววันนี้เราเริ่มในส่วนเซสชั่นของคุณวงษ์ชัยก่อนนะคะ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ยอดขายใน Q3/2568 เติบโตขึ้น 12.3%
- เติบโตแบบ Double Digit ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 จากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว
- Gross Profit (GP) ลดลง 1% เนื่องจากการปิดโรงงานเนยเพื่อปรับปรุงสายงานผลิต และเสริม Automation
- SGA ลดลง 1% จากปีที่แล้ว สืบเนื่องจากยอดขายที่เติบโตขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี
- Net Profit Growth เติบโต 15.6% จากปีที่แล้ว
- เงินกู้ลดลงประมาณ 83 ล้านบาทจากปีที่แล้ว
- ยอดหนี้คงเหลืออยู่ที่ประมาณ 1,439 ล้านบาท
โดยภาพรวม ธุรกิจของ KCG ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า GP จะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการลงทุนปรับปรุงโรงงาน แต่ SGA ที่ลดลงและการเติบโตของยอดขายส่งผลให้ Net Profit ยังคงเติบโตได้ดี นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถลดหนี้สินลงได้อีกด้วย
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- ความเป็นไปได้ในการยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าบางชนิดภายใต้การเจรจาการค้ากับ US
- การลดภาษีนำเข้าสินค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ยุโรป ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา
- จุดแข็งของ KCG: ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เนยและชีสในไทย, ระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งแบบควบคุมอุณหภูมิ, พันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
KCG มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีนำเข้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของ KCG ในด้านต่างๆ จะช่วยให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ส่วนต่างของราคาสินค้าระหว่างสหรัฐฯ, ยุโรป, และโอเชียเนีย ซึ่งต่างกันประมาณ 10%
- ต้นทุนค่าขนส่งที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า
- รัฐบาลที่อาจอยู่สั้นเกินไป ทำให้การต่อเนื่องในนโยบายไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร
KCG ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าขนส่ง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การลดภาษีอาจช่วยให้ต้นทุนสินค้านำเข้าลดลง และสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น
- การควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- การมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
KCG มีแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้โดยการควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- คาดว่ายอดขายใน Q4/2568 จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Festive Season
- คาดว่าจะ Break Record และได้ New Record ในส่วนของ Performance ในปี 2568
- คาดว่าราคา Raw Material จะ Remain เหมือนปีที่แล้ว แต่เฉลี่ยทั้งปีอาจสูงกว่าปีที่แล้ว High Single Digit
- Target ว่าจะลด SGA Year on Year และ Q on Q ใน Q4
KCG มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยได้รับแรงหนุนจาก Festive Season และการเติบโตของตลาด B2C บริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างสถิติใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 34:47]
- การเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า:
- คำถาม: บริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าหรือไม่?
- คำตอบ: บริษัทคิดว่าคงต้องเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้องพัฒนาการขาย โดยเฉพาะยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง GP คงจะทำให้มี เท่าที่ได้ดีขึ้นกว่าปีนี้อีก เนื่องจากแนวโน้มของราคาวัตถุดิบ ค่อนข้างคงที่และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการผลิตของโรงงานไป 2 ปีซ้อน ปีแรกก็เป็นตัวชีส ปีที่ 2 ก็เป็นตัวเนย ซึ่งจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และเราก็ยังมีทำโปรแกรมเรื่อง Cost Saving อย่างต่อเนื่อง และยังมีการพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายในการ ในส่วนของการบริหารจัดการ การขายและการจัดการ และก็ยังมีการปรับตัวของยอดขายที่สูงขึ้นทุกปี
- วัฒนธรรมองค์กร:
- คำถาม: วัฒนธรรมองค์กรของบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง เช่น มีการกระจายอำนาจตัดสินใจอย่างเหมาะสม หรือว่ามีการเน้นย้ำเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และตระหนักถึงการลดต้นทุนอยู่เสมอหรือเปล่า?
- คำตอบ: วัฒนธรรมองค์กรของบริษัท ใช้ตัวย่อจากคำว่า Heart Heart ที่แปลว่าหัวใจ ตัว H ย่อมาจาก Heart Driven คือการเทใจเทใจในการทำงาน ในส่วนตัวที่ 2 ก็ตัว E ตัว E ก็คือการ เป็นเรื่อง Expert เรื่อง เป็นคำว่าย่อมาจากคำว่า Expertise คือความใส่ใจตั้งใจ และมีความชำนาญพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัว A เนี่ยก็คือ Agile คือการเปิดใจ การพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ในส่วนตัวที่ 4 ก็คือตัว R นะครับ ตัว R คือ Responsible ครับ คือความใส่ใจ การรับผิดชอบทุกด้าน ส่วนของตัว T ตัวสุดท้ายนี้ก็คือการร่วมใจกัน การทำงานกับทีมอย่างเป็นทีมเวิร์ค ในส่วนของเรื่องจริยธรรม หรือการคุณธรรมในการทำงาน เราจริงๆ เราคำนึงถึงเรื่อง บริษัทวิบาล ธรรมาภิบาลในการปฏิบัติ การบริษัทอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องเรื่องพวกนี้คือเรื่องที่สำคัญที่ใส่ใจ
- สัดส่วนยอดขาย B2B และ B2C:
- คำถาม: ในอนาคตสัดส่วนยอดขายแบบ B2B จะมีแนวโน้มสูงกว่า B2C หรือเปล่า?
- คำตอบ: จากที่พรีเซนต์ไปแล้ว สัดส่วนของ B2B และ B2C อยู่ในสัดส่วนที่กำลังดี B2C ตอนนี้อยู่ประมาณ 51% และ B2B อยู่ประมาณสัก 46 45% ผมว่ามันอยู่ในสัดส่วนที่กำลังดีแล้ว แล้วก็สิ่งที่เราต้องทำให้มากขึ้น ก็คือเราต้องพยายามขยาย ขยายก้อนก้อนเค้กเนี่ยให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นการขยายยอดขายทั้ง 2 ฝั่งจริง ๆ แล้วต้องเน้นทั้ง 2 ฝั่งเลย เมื่อเมื่อเกิดปัญหาใน Channel Channel ใด Channel หนึ่ง เหมือนในอดีตที่มี Pandemic โควิด 19 เนี่ยในส่วนของที่เป็น Food Service หรือเป็นพวกที่เป็นบริการทั้งหลายเนี่ย หายไปหมดเลย แต่ว่าใน Channel ที่เป็น B2C ของเรายังแข็งแรงอยู่เนี่ยก็สามารถที่จะ recover บางส่วนของที่เป็น B2B ได้ ก็ก็คิดว่าเราให้ความสำคัญของ Channel ทั้งสองเนี่ยพอๆ กัน
- ความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ B2B:
- คำถาม: จากยอดขายแบบ B2B บริษัทมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่รายหรือเปล่า?
- คำตอบ: เรื่องประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ทุกด้าน ทางบริษัทจะมีการประเมินความเสี่ยงอยู่แล้วทุกปี การประเมินเนี่ยเราก็จะดูว่าความเสี่ยงของเราเนี่ยมันมาจาไหนบ้าง ในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ ๆ ปัจจุบันนี้นะเราก็มีการขยายออกไป แล้วก็ขยายลูกค้ามากขึ้น ดูจากสัดส่วนได้นะจาก Top B2B ท็อปยอดขาย B2B เรา 5 5 ท็อปแรกเนี่ยถ้าสัดส่วนของเขาเนี่ย Total B2B ลดลงมา 40% จาก 40% เนี่ยมาเหลืออยู่ 38% เอง นั่นแสดงว่าเราเนี่ยมีการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายใหญ่เนี่ยเริ่มลดลง มีการขยายลูกค้าที่มีฐานกว้างมากขึ้น
- การกู้เงินจากต่างประเทศ:
- คำถาม: บริษัทมีการกู้เงินจากต่างประเทศหรือเปล่า?
- คำตอบ: ไม่มีครับ
- การลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง:
- คำถาม: บริษัทมีแนวโน้มที่จะลดต้นทุนต่อเนื่องอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการแข่งขันของบริษัทในอนาคตและสร้างกำไรอย่างยั่งยืนหรือเปล่า?
- คำตอบ: การทำเรื่องลดต้นทุน หรือทำ Cost saving Cost reduction เนี่ยเป็นหัวใจหลักของของของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่อง Supply ใน Supply chain ทั้งหมดเลยเนี่ยสืบเนื่องจาก Raw mat ของเราเนี่ยมันเป็น Commodity เนี่ย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ เราสามารถควบคุมได้ ภายในองค์กรเราก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพ การการทำงาน การผลิต ดังนั้นเราเลยมีการใส่ Automation ไปในสายการผลิต มากขึ้นจากเดิมเนี่ยในปีที่ปีที่ผ่านมาเนี่ยของโรงงานเนยที่เราทำเนี่ยฮะ ก่อนที่เราจะมีการปรับปรุง Automation ที่เราใช้ อยู่ในสัดส่วน percentage เนี่ยอยู่ประมาณ 39% นะฮะ หลังจากสิ้นปีนี้ที่มีการปรับปรุงรายการผลิตเพิ่มกำลังผิดแล้วเนี่ย Automation เราจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 54% นะครับ แล้วก็ยังทำต่อเนื่อง ต่อไปเรื่อยๆ เรื่องการทำ Cost saving การทำ เกี่ยวกับเรื่องห่วงโซ่อุปทานต่างๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง เราก็มีการทำ Cost saving สืบ ต่อเนื่องต่อ ไปตลอดเลยฮะ
- การส่งออกไปยังประเทศอินโดนีเซีย:
- คำถาม: หลังจากที่ได้รับการรับรองฮาลาลจากประเทศอินโดนีเซียแล้ว ทางบริษัทมีแผนจะส่งออกผลิตภัณฑ์เนยและชีสไปยังประเทศดังกล่าวหรือเปล่า?
- คำตอบ: จริง ๆ แล้วตอนนี้เราก็มีดูที่เป็น potential distributor อยู่ 2-3 รายนะครับ ซึ่งมี 1-2 รายเนี่ยได้มีการพูดคุยกันแล้วก็มี เรามีไปวิสิตทางเขาแล้วก็ทางเขาก็มีมาวิสิตทางเรา เพื่อที่จะดูบริษัทกันอะไร เดี๋ยวอาจจะน่าจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้ครับ
- การส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน:
- คำถาม: บริษัทมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกหรือเปล่า?
- คำตอบ: มีครับเรามี เมื่อปีที่แล้วปีนี้เรามีการยื่นเรื่องขอเรื่องฮาราวในมาเลย์นะครับ แล้วก็ฮาราวของอินโดซึ่งทั้ง 2 ประเทศเนี้ยฮาราวก็จะเป็นฮาราวที่ค่อนข้าง จะเป็น specific สำหรับประเทศเขาเลยโดยเฉพาะฮะ เราก็ได้รับการ approve จากทางอินโดแล้วแล้วก็กำลังจะได้ approve จากทางมาเลย์เพิ่มเติมนะ ในส่วนของตัวมาเลย์เนี่ยเราก็มี potential นะครับ ลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่เป็น Dairy product จากเราจากเราเหมือนกันนะครับ ซึ่งรอรอฮาราวอยู่ครับ
- มุมมองต่อการเติบโตของบริษัทในปี 2569:
- คำถาม: ทางผู้บริหารมีมุมมองอย่างไรต่อการเติบโตของบริษัทในปี 2569?
- คำตอบ: สืบเนื่องมาจากที่อยู่ในระหว่างการทำบัดเจ็ตอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ยื่นแผนเนี้ยให้ กับทางบอร์ดได้ทราบนะฮะจึงไม่สามารถออกบอกได้ตอนนีแต่ว่าจริงๆแล้วเรามีเป้าหมายตั้งไว้การเติบโตเนี่ยอยู่ที่ High Single Digit ครับ
- การนำเข้าสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ:
- คำถาม: ทางบริษัทมีแนวโน้มจะนำเข้าสินค้าแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมหรือเปล่า?
- คำตอบ: มีแน่นอนครับ เรามีมองหา ในส่วนของตัว product ใน 3 category ของเราที่เป็นตัวหลัก ๆ เนี่ยเป็นตัวใหม่ ๆ เข้ามานะครับ แล้วก็บางตัวเนี่ยก็อยู่ในธุรกิจ อ่า ที่เก็บสืบเนื่องกับของเราอยู่ เพียงแต่เราไปเพียงแต่เราไปเพิ่มเติม อ่า เป็นพวกสินค้าที่เป็น อ่า New Technology ใหม่ ๆ เข้ามานะฮะ ซึ่งเราก็มีมองเอาไว้ อ่า หลายตัวนะฮะ ซึ่ง ในปีหน้าก็จะมีเข้ามาให้ให้เห็นกันนะฮะ
- การส่งออกไปยังประเทศที่มีกำลังซื้อสูง:
- คำถาม: บริษัทมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์เนยและชีสไปยังประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น UAE กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้นหรือเปล่า?
- คำตอบ: ถ้าถ้ามีโอกาสเราไปแน่นอนฮะ ส่วนจริง ๆ แล้วทุกประเทศเนี่ยถ้าเกิดมี requirement มาเราเราเราไปแน่ ๆ แต่ว่าจริง ๆ แล้วเนี่ยในส่วนของ KCG เราเองเนี่ยตอนนี้เรามุ่ง Focus เน้นอยู่ในประเทศกลุ่ม อาเซียน ก่อนนะฮะ
- โอกาสในการทำ M&A:
- คำถาม: บริษัทมีโอกาสในการทำ M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันในอนาคตอันใกล้หรือเปล่า?
- คำตอบ: ต่าง ๆ ที่เข้ามา มีมีการนำเสนอเข้ามาโดยตลอดนะฮะก็จริง ๆ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาแล้วก็พูดคุยกันอยู่ทั้งหมดนะฮะ ก็ตอนเนี้ยถ้ามีถ้าคิดว่ามันเป็น เป็นตัวโอกาสแล้วก็เสริมกันได้จริง ๆ เนี่ย ผมคิดว่าก็เป็นโอกาสดีที่เราก็จะทำ นะครับ กับพาร์ทเนอร์ได้ แต่ตอนเนี้ยมันอยู่ในขั้นตอนศึกษาขึ้นกันหลายโปรเจคด้วยกันนะฮะ
- ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน:
- คำถาม: บริษัทได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ ถ้าได้รับผลกระทบบริษัทมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร?
- คำตอบ: จริง ๆ ตัวบริษัทภายในเรามีนโยบายนะค่ะที่ป้องกันความเสี่ยงนะค่ะ คือไม่ได้นะค่ะ ก็คือเราจะมีการนะค่ะ
- ยอดขายบิสกิตปี 2567:
- คำถาม: สิ้นปีนี้บิสกิตมีโอกาสจะกลับมามียอดขายเท่ากับปี 2567 หรือเปล่า?
- คำตอบ: 9 เดือนยอดขายบิสกิตตอนเนี้ยมัน ที่ผ่านมาเนี่ย 3 เตอร์ โชว์ติด -8% นะครับ ในส่วนเตอรที่ 4 เนี่ย ซึ่งเป็นยอดขายที่โตที่สุดเนี่ยทั้งปีเนี่ย เราเราเอามา estimate คำนวณดูแล้วเนี่ย ยอดขายน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับของปีที่แล้วนะครับ
- KCG เป็นบริษัทที่น่าภาคภูมิใจในระดับสากล:
- คำถาม: KCG มีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะกลายเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยในระดับ อาเซียน เอเชีย และระดับโลกในอีก 1-2 ทศวรรษข้างหน้าได้หรือไม่?
- คำตอบ: อันนี้เป็นความหวังนะครับ แต่ว่าเราก็ต้องคงต้องเป็น step by step ไปในในส่วนของที่เราจะเติบโตไปอย่างยั่งยืนแล้วก็มั่นคง เราคิดแน่นอนว่าเราอยากจะเติบโตเป็นระดับที่ท่านที่ท่านถามมาเนี่ย แต่จริง ๆ เนี่ย ในช่วงในในระดับ 3-5 ปีเนี่ยเราคงจะมุ่งเน้น Focus ไปที่ Regional นะฮะ ไปเป็น Regional Player ในในส่วนของตัว อาเซียนคันทรีทั้งหลายเนี่ยฮะ
- งบประมาณด้านการตลาด:
- คำถาม: บริษัทใช้งบประมาณด้านการตลาดต่อปีเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของยอดขาย?
- คำตอบ: ประมาณ 5-6% ครับ To Sale นะฮะ
- ยอดขายผ่านช่องทาง Traditional Trade:
- คำถาม: บริษัทมียอดขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทาง traditional trade หรือไม่?
- คำตอบ: มีครับปัจจุบันเนี่ย ในในมันตัวช่องทางของ traditional trade เนี่ยอยู่ในช่องทางของ B2C นะฮะ ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ประมาณสัก 37% จากTotal B2C นะครับ อ่า Traditional State trade ปัจจุบันเนี่ย อ่า อยู่ประมาณ 19% ของ B2C
- ยอดขายในร้าน 7-Eleven:
- คำถาม: ยอดขายคุกกี้เวเฟอร์แครกเกอร์ เนย และชีสและซอส ท็อปปิ้งในร้านเซเว่น อีเลเว่นเป็นอย่างไรบ้าง?
- คำตอบ: ยอดขายตัวชีส เนยนะครับแล้วก็ขนมนะฮะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนี่ยชีส กับเนยเนี่ยเรามีการโตเติบโตแบบ Double digit ในเซเว่น อีเลเว่นเนื่องจากว่าเรามีการทำเรียกว่าทำ Business Plan กับลูกค้าอย่างใกล้ชิดนะครับแล้วก็มีการนำเสนอเมนูใหม่ๆ ตลอดเวลานะครับ ทำให้เราเติบโตแบบ Double digit อย่างต่อเนื่องฮะ
- แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบปี 2569:
- คำถาม: ปี 2026 ต้นทุนวัตถุดิบน้ำมัน เนย ชีส จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร?
- คำตอบ: ดูจากสถิติแล้วก็จากข้อมูลที่เราได้จากหลายแหล่งนะครับในทั่วโลกเรื่อง demand Supply ต่างๆ นานาเนี่ยเราประเมินว่าราคาในครึ่งปีแรกของปีหน้าเนี่ยน่าจะอยู่ใกล้เคียงกับปี 2025 นะฮะ ราคาค่อนข้างจะรีเทน คือประมาณเดิม ๆ ประมาณปีนี้เลยฮะ เท่าใกล้เคียงกับปี 2025
- ผลลัพธ์หลัง Go-Live SAP PP:
- คำถาม: Actual result จริง ๆ หลัง SAP PP Production Planning ที่เรา Go Life ไปแล้วในเตอร์ 1 ปีนี้ นะคะ เรามีผลลัพธ์ด้านการลดสต็อกและ การเพิ่ม ฟิวเรท เป็นไปตาม KPI หรือเปล่าค่ะ?
- คำตอบ: เรา go Life ตัว เอ่อ SAP PP เนี่ยใน ในเดือนมีนาคมปี 25 ปีนี้นะฮะ แล้วก็ อ่า เราไม่ได้ใช้ตัว ในการวัดนะฮะ เราใช้ตัว supply accuracy Rate นะครับ เป็นตัววัด อ่า หลังจากที่เราขึ้น PP แล้วเนี่ยอ่าอ่า supply accuracy Rate เนี่ยปรับตัวสูงขึ้นนะฮะ จาก 55% เป็น 70% นะฮะแล้วก็ material planning ก็ดีขึ้นนะฮะ ทำให้เราไม่ต้องไปเก็บ สต๊อกเยอะเกินความจำเป็นนะฮะ
- กลยุทธ์ในการเพิ่ม Top Line และ Bottom Line:
- คำถาม: กลยุทธ์ ในปีหน้ามีกัน ในการเพิ่ม Top line และ Bottom Line เนี่ย มีกลยุทธ์ อย่างไร ค่ะ?
- คำตอบ: การเพิ่ม Top line เนี่ย มันก็ต้องทำได้หลาย ๆ อย่างนะครับ คืออาจจะขยาย ลูกค้ามาก ใหญ่ อ่า มากขึ้นนะครับ แล้วก็อ่า มีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้นนะ ครับ อ่า แล้วก็รีเทนลูกค้าเก่าให้ได้นะฮะ ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ย อ่า ในปี ใน 2 ปีที่ผ่านมา ในปี 23 และ 24 เนี่ย เรามีการทำ เรียกว่า ขยาย Channel ใหม่นะฮะ แล้วก็ยังขยาย ในปีนี้ อย่างต่อเนื่องนะฮะ แล้วก็ อ่า ผลของการเติบโตเนี่ย ใน 2 ปีแรกเนี่ย เป็น 3 เป็น 3 Digit ในปีนี้เนี่ยเรา expect อยู่ ที่ประมาณ Double Digit กลาง ๆ ก็คือ เกิน 2 เกิน 20% นะฮะ แล้วก็ อ่า ในปีหน้าเราคง ยังคงคิดว่าดโตอย่างต่อเนื่องในการขยาย อ่าอ่า การยอดขายลนเนี่ย จริง ๆ แล้วเนี่ยเนื่องจาก product portfolio ของ KCG เราเนี่ยมันเป็น product ที่ตรง Channel แล้วก็ในในในตรง Channel แล้วเนี่ยบางครั้งเนี่ยถ้าเราสามารถ ฟิว สินค้าใน portfolio เนี่ย เข้าไปให้มากที่สุด นะครับ อ่า ใน Channel ในลูกค้า line นั้น ๆ เนี่ย ก็ทำให้ยอดขายเติบโตได้นะฮะ โดยที่ เรา ไม่ต้องมี สินค้า ใหม่ โดยด้วยซ้ำ แต่ แต่ เราทำควบคู่ กันไป โดย ทั้ง มี สินค้า ใหม่ด้วย สินค้า เก่า ที่ มี gp ดี ส่วน GP ไม่ดี เนี่ยเรามีการทำ SKU rationalization ไปเรียบร้อยแล้วตอนนี้มันก็เหลือ แต่ SKU ที่ เป็น ตัว เงิน ทำ เงิน จริง ๆ เนี่ยเราก็พยายามผลักดัน SKU ที่เรา Focus พวกนั้นลงไปนะ ครับ ในส่วนของตัว ลด ต้นทุน ใน ส่วน ของ ตัว gp เนี่ย Bottom Line เนี่ย gp เนี่ย เรา ก็ พยายามที่ จะไป ปรับปรุง ใน ด้าน ของ การ จัด ซื้อ จัด จ้าง จัด หา เนี่ยให้มีประสิทธิภาพ มาก ขึ้น ทำ ซึ่ง cost saving reduction นะฮะรวมไปถึง การ ลดอ่า SGA เนี่ย ก็จะทำให้ตัว Bottom Line เราดีขึ้นฮะ
- การเข้าถึง Bakery Industry ท้องถิ่น:
- คำถาม: ดูเหมือนกลยุทธ์การ Cover B2B ท้องถิ่นน่าจะไปถึง Bakery Industry นะคะ ที่อยู่ต่างจังหวัด จะได้ผลตอบรับที่ดีนะ คะ ยังเห็นโอกาสเพิ่มเติมจากส่วนนี้ อีก มาก น้อยแค่ไหน?
- คำตอบ: เมื่อกี้ผมตอบไปแล้วว่าเรายังทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ยมันยังมีเยอะ แล้วก็ในในไลน์ที่ ที่เราไปขยายเนี่ยตอนนี้เราใช้สเตจ 2 ก็คือฟิวสินค้า อื่น ๆ ที่เรานำสิน สินค้าที่ เป็น หัว หอก ดำ เข้าไป แล้วเนี่ย เรา จะ นำ สินค้า ที่ เป็น ตัว ตาม เข้า ไป อีก หลาย ตัว ในใน ลูก ค้า ราย ใหญ่ ๆ พวก นั้น อีก นะ ครับ
- การแข่งขันกับ Denisa:
- คำถาม: ช่วงนี้เดนิสา ดูกินพื้นที่ shelf เรามาได้เยอะ คิดว่าเป็นเพราะอะไร ราคา เค้าถูกกว่า เราไหม มาก น้อย แค่ ไหน แล้ว จะ แก้ไข อย่าง ไร รบ กวน คุณ ทวัฒน์ ค่ะ?
- คำตอบ: จริง ๆ แล้วราคา พ ๆ กันนะครับ นอกจาก เนื่อง จาก ตอน นี้ เป็น ช่วง ที่ เป็น สินค้า ก็ จะเริ่ม ทยอย เข้า ไป ตั้ง กอง หรือ ว่า เข้า ไป ใน เชลฟ์ เนี่ย มาก ขึ้น นะ ครับ ตั้ง แต่ ประมาณ เดือน นี้ นะ ครับ ก็ จะ เริ่ม เต็ม พื้น ที่ แล้ว ครับ
- การทำ Logistics Distribution ให้คนอื่น:
- คำถาม: เรามีแผนที่จะทำตัว Logistics distribution น่ะค่ะให้คนอื่นหรือไม่แล้วเราเริ่มหรือยังค่ะ?
- คำตอบ: ตอนนี้เป็น อยู่ในระหว่างการจัดการภายในนะฮะ ที่คือ ที่จะ ให้ มี ความ พร้อม ใน การ ที่ จะ ไป ก็ เปลี่ยนแปลง จากจาก เป็น Cente นะ ครับ
โดยสรุป KCG ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากหลายด้าน ทั้งโอกาสทางธุรกิจจากภายนอก และความแข็งแกร่งภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ซึ่งผู้บริหารจะต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้