สรุปงบล่าสุด KCC
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ หุ้น KCC (บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)) ไตรมาส 3 ปี 2568
**สรุปสั้น:**
KCC HLD มีกำไรสุทธิ 18.02 ล้านบาทในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้า แม้รายได้จากการดำเนินงานรวมจะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการโอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) บางส่วน ซึ่งแสดงถึงคุณภาพพอร์ตที่ดีขึ้น
**เศรษฐกิจ:**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับผลกระทบจากทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ ภาคอุตสาหกรรมมีการผลิตลดลง และการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์ (AMC) ไทยยังคงมีความเปราะบาง แม้ว่าการจัดเก็บเงินสดรวมจะเพิ่มขึ้น แต่ยอดจัดเก็บหนี้อื่นกลับอ่อนตัวลง (หน้า 2)
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้น 5% YoY เป็น 18.02 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินงานรวมลดลง 9% YoY เป็น 60.21 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจและที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 18% YoY และมีการโอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตฯ (ECL) บางส่วน (หน้า 3)
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 กำไรสุทธิอยู่ที่ 130.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131% YoY รายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้น 48% YoY เป็น 291.27 ล้านบาท (หน้า 3)
**สินเชื่อและสัดส่วน:**
บริษัทมีการบริหารพอร์ต NPL และ NPA อย่างมีระบบ โดย NPL ลดลง 9% จากการปิดบัญชีลูกหนี้และการรับชำระเงิน ในขณะที่ NPA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% สะท้อนผลจากการรับโอนหลักประกัน (หน้า 5)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
บริษัทให้ความสำคัญกับการเลือกพอร์ตที่มีคุณภาพและมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดได้จริงมากกว่าการขยายพอร์ตเชิงปริมาณ โดยเฉพาะพอร์ตลูกหนี้ภาคธุรกิจที่มีหลักประกัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนในตราสารทุน (หุ้น) เพื่อกระจายแหล่งรายได้และเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในอนาคต (หน้า 1, 6)
**สรุปสั้นท้ายสุด:**
ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อรายได้และกำไรในช่วงรายงาน ได้แก่ การบริหารพอร์ต NPL และ NPA อย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารต้นทุนเงินลงทุน การลดลงของ NPL และการเพิ่มขึ้นของ NPA เป็นผลมาจากการบริหารพอร์ตตามปกติ และการรับโอนหลักประกัน บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง และมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยสนับสนุนศักยภาพในการเติบโตในอนาคต (หน้า 3, 5, 6)
(74.35%)
(0.00%)
(45.65%)
(0.00%)
(111.84%)
(0.00%)
(9.56%)
(0.00%)
(81.72%)
(0.00%)
(153.15%)
(0.00%)