สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS มีผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 สินสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 1,255.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีที่ผ่านมา 331.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 36% และมีกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็นจำนวน 2,103.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีที่ผ่านมา 455.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27.6% ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่น มาจากปริมาณการขายน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยของน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังคงส่งผลในทางบวก ขณะที่ต้นทุนการขายและการให้บริการลดลง ส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณการขายน้ำตาลที่ลดลง และต้นทุนในส่วนงานสาธารณูปโภคยังคงอยู่ในระดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ไว้ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่า กำไรสุทธิจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตจากไร่อ้อย และการปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงงานน้ำตาล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย และลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาในประเทศ บริษัทฯ คาดหวังว่า แผนธุรกิจดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการในปี 2567 มีกำไรสุทธิสูงขึ้น

จากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มในอนาคตที่สดใส KBS น่าจะเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการถือหุ้นเพื่อรับเงินปันผล และรอการเติบโตอย่างต่อเนื่อง KBS มี P/E ล่าสุด อยู่ที่ 2.51 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการประเมินมูลค่าที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตของกำไร P/BV ล่าสุด อยู่ที่ 0.52 แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นมีส่วนลดเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี ทำให้ราคาหุ้นน่าสนใจ YIELD ล่าสุด อยู่ที่ 13.03% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม เป็นตัวชี้วัดว่า KBS จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง นอกจากนี้ D/E ของ KBS อยู่ในระดับต่ำ ที่ 1.98 สะท้อนถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน ที่ 1,251.06 ล้านบาท แสดงถึงศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ที่ -196.55 ล้านบาท บ่งบอกถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ โดยรวมแล้ว KBS มีศักยภาพในการเติบโต และจ่ายเงินปันผลในอัตราที่น่าดึงดูด ทำให้เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ

**โอกาส**
- บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย และลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาในประเทศ
- บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตจากไร่อ้อย และปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงงานน้ำตาล
- บริษัทฯ มีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง

**ความเสี่ยง**
- ราคาอ้อยอาจผันผวน
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจมีผลกระทบต่อผลประกอบการ
- คู่แข่งอาจมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น