สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) (K): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง

บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) (K) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 โดยมีรายได้จากการให้บริการ 172.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจงานแสดงสินค้า งานอีเว้นท์ หรือ งานส่งเสริมทางการตลาดที่เติบโตอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ บริษัทมีการรับงานตกแต่งภายในในปริมาณที่ไม่มาก เนื่องจากการปรับโครงสร้างองค์กร แต่ยังคงมีการทำกำไรได้ดี อีกทั้งบริษัทได้เลิกกิจการของสาขาในพม่าแล้ว (29 มีนาคม 2567) และอยู่ระหว่างการดำเนินการจดเลิกกิจการของสาขาในกัมพูชา

แผนธุรกิจในอนาคตของบริษัทมุ่งเน้นการขยายการรับงานในธุรกิจงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงงานของกลุ่มลูกค้าในส่วนของ Luxury Brand โดยบริษัทมีเป้าหมายในการขยายงานด้านการออกแบบ และงานธุรกิจตกแต่งภายในยังคงมุ่งเป้ารับงานทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทเน้นลักษณะงานที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญและสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการได้อย่างชัดเจน อีกทั้งบริษัทยังได้เพิ่มการติดตามตรวจสอบเทียบเคียงกับงบประมาณที่กำหนดไว้ก่อนดำเนินงาน เพื่อส่งมอบงานคุณภาพให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ K โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีรวม 6.77 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ 2.49 ล้านบาท และบริษัทย่อย [พม่า] 4.28 ล้านบาท) การปรับโครงสร้างองค์กรทำให้บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึง 94% แม้ว่าต้นทุนการให้บริการจะเพิ่มขึ้นเพียง 26% เท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น ทำให้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมลดลงอย่างมาก

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางการเงินย้อนหลัง บริษัท K มี D/E ที่อยู่ในระดับปานกลาง (ล่าสุด 1.38) ซึ่งบ่งบอกว่าบริษัทมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย P/E ล่าสุดของบริษัทอยู่ที่ 13.26 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน

## โอกาสและความเสี่ยง

**โอกาส**

* การขยายตัวของธุรกิจงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดในประเทศไทย
* การเติบโตของกลุ่มลูกค้า Luxury Brand ที่มีการใช้จ่ายสูง
* โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย

**ความเสี่ยง**

* ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง
* ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน เช่น การล่าช้าในการส่งมอบงาน หรือคุณภาพของงานไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

## ความเหมาะสมในการลงทุน

ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของ K แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง รวมถึง D/E ที่อยู่ในระดับปานกลาง สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาจากช่วงต่ำสุด แต่ P/E ล่าสุดที่ 13.26 ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม ส่งผลให้ K เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว

การลงทุนใน K เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล หรือต้องการถือหุ้นเพื่อรอการเติบโตในระยะยาว บริษัทมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน และยังมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

**หมายเหตุ:** บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง