สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ INSURE มีผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท ลดลงอย่างมากจาก 52 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้น 15% เป็น 1,443 ล้านบาท โดยเฉพาะประกันภัยทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าสินไหมจากอุทกภัย 36 ล้านบาท ส่งผลให้มีผลขาดทุนจากการรับประกันภัย 12 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนเพิ่มขึ้น 75% เป็น 21 ล้านบาท เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่สูงขึ้น ในงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ลดลงจาก 145 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้น 5% เป็น 3,509 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ลดลง 26% เป็น 863 ล้านบาท จากการปรับสัดส่วนการรับความเสี่ยงของบริษัทฯ โดยมีผลขาดทุนจากการรับประกันภัย 105 ล้านบาท แต่มีกำไรจากการขายทรัพย์สิน 103 ล้านบาท จากการขายอาคารสำนักงานใหญ่เดิม รายได้จากการลงทุนเพิ่มขึ้น 158% เป็น 62 ล้านบาท จากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้และเงินปันผลจากตราสารทุนที่สูงขึ้น

บริษัทฯ วางแผนที่จะมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจประกันภัยทรัพย์สิน โดยปรับปรุงระบบการประเมินความเสี่ยง เพื่อให้บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการรับความเสี่ยง และควบคุมค่าสินไหมให้เหมาะสม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาผลตอบแทนและความมั่นคงทางการเงิน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและรายได้

INSURE มี P/E เท่ากับ 6.13 P/BV เท่ากับ 0.74 และ YIELD เท่ากับ 0 โดยราคาหุ้น 52 สัปดาห์สูงสุด/ต่ำสุด คือ 255.75/0.52 บาท และราคาหุ้นล่าสุด คือ 59.63 บาท ราคาหุ้น INSURE อยู่ในช่วงที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับช่วง 52 สัปดาห์ โดยมี P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม และ YIELD อยู่ที่ 0 จึงไม่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไร และมีแผนการเติบโตในอนาคต อาจเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตในระยะยาว โดยเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง และถือหุ้นในระยะยาวเพื่อรอการเติบโต