INGRS
บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 2 ปี 2568

สรุป OPPDAY

INGRS: สรุปประเด็นสำคัญจาก Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568 - โอกาสและความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์

สรุปผลการดำเนินงานและแนวโน้มธุรกิจของ Ingress Industrial Thailand Public Company Limited (INGRS) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ครอบคลุมภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ โอกาสทางธุรกิจ ความเสี่ยง และแผนการเติบโตของบริษัท

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

    ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์:

    • การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 2568 คาดว่าจะลดลง 1.4% อยู่ที่ 1.45 ล้านคัน
    • ยอดขายรถยนต์ในประเทศ (TIV) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.3% เป็น 600,000 คัน
    • มาเลเซีย: การผลิตลดลง 6.3% แต่ยอดขายลดลง 7.3%
    • อินโดนีเซีย: การผลิตลดลง 4.2% และยอดขายลดลง 12.8% เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
    • อินเดีย: การผลิตเพิ่มขึ้น 7% และยอดขายเพิ่มขึ้น 0.6%

    ผลการดำเนินงานของ INGRS:

    • ปริมาณการขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากการเติบโตในอินเดีย
    • รายได้จากอินเดียมีสัดส่วนเพียง 8% ของรายได้รวมของกลุ่ม
    • ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ปริมาณการขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 10%
    • มาเลเซียและอินโดนีเซียมีการเติบโตของปริมาณการขาย 3.4% และ 11.4% ตามลำดับ
  2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

    การเติบโตในตลาด EV:

    • การฟื้นตัวของการผลิตในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
    • การหารือและกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเจาะตลาด EV ในอินโดนีเซียและไทย

    โครงการใหม่และการขยายตลาด:

    • การได้รับคัดเลือกจาก Stellantis เป็นผู้จัดจำหน่ายระดับโลก
    • การเจรจาเพื่อรับโครงการใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มในปี 2571 (2028)
    • การได้มาซึ่ง 5 โครงการใหม่จากผู้ผลิตรถยนต์ (OEMs) ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย
  3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

    ความท้าทายทางเศรษฐกิจ:

    • การลดลงของยอดขายในประเทศในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย เนื่องมาจากหนี้สินผู้บริโภคที่สูงขึ้น การอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวด และปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก
    • การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในอินโดนีเซียเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ระมัดระวัง
  4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

    การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าหลัก:

    • รายได้จาก Perodua ในมาเลเซียยังคงที่ แม้ว่า TIP และ TIV จะลดลง
    • ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าหลัก เช่น Perodua และ Mitsubishi Motors

    การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่:

    • การพัฒนา Multi-Material Body in White Structure Modules เพื่อเป็น Tier 0.5 supplier
    • การผลิตชิ้นส่วนที่ใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง อะลูมิเนียม และวัสดุผสม
  5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

    วิสัยทัศน์และการเติบโตในระยะยาว:

    • การขยายการเข้าถึงไปยังผู้ผลิตรถยนต์ (OEMs) มากขึ้นในอนาคต ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก
    • การเป็นผู้จัดจำหน่าย Body in White Structure Modules ซึ่งจะทำให้ Ingress เป็นหนึ่งในสี่ผู้จัดจำหน่ายหลักของโลก
    • การมุ่งเน้นไปที่ Smart Factory Initiative และ Automation Solutions
  6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):

    นาทีที่ 59:37

    • โครงการ BIW: รายได้, กำไร, IRR และระยะเวลาคืนทุน

      ผู้ถาม: โครงการ BIW ที่เพิ่งประกาศไป คาดหวังรายได้และกำไรสุทธิเท่าไร IRR กี่เปอร์เซ็นต์ และระยะคืนทุนนานเท่าไร

      ผู้ตอบ: คาดว่าโครงการ BIW จะสร้างรายได้ประมาณ 400-500 ล้านริงกิตต่อปีจากมาเลเซีย หรือประมาณ 4 พันล้านบาทต่อปี ระยะเวลาคืนทุนโดยทั่วไปในธุรกิจนี้คือ 3-4 ปีหลังจากการผลิตเต็มรูปแบบ และ IRR ของโครงการนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14%

    • BCA และ DHIE: รายได้ต่อปีและผลขาดทุนช่วงแรก

      ผู้ถาม: ข้อตกลง BCA กับ DHIE จะสร้างรายได้ต่อปีเท่าไร และจะเกิดผลขาดทุนในช่วงแรกหรือไม่

      ผู้ตอบ: ข้อตกลง BCA เป็นเพียงความพยายามทางการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ภายนอกของ Talent Synergy ยังไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายโครงการหรือปริมาณรายได้และกำไรที่ชัดเจน ดังนั้นจึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลขาดทุนในช่วงแรก

สรุป: Ingress มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีการเติบโตในหลายตลาดและโอกาสในการขยายธุรกิจในตลาด EV และการเป็นผู้จัดจำหน่าย Body in White Structure Modules อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์