สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 639.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 18.7% จากไตรมาสที่ผ่านมา กำไรสุทธิอยู่ที่ 101.9 ล้านบาท ลดลง 36.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 0.8% จากไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุหลักของการลดลงของกำไรสุทธิมาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อผลกำไรของกลุ่มบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก ANI ในช่วงไตรมาส 3/2567

บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศรูปแบบ Multimodal (โหลทรอ๐ฟลน์อท เชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านไปยังประเทศปลายทางโดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง) และการเติบโตของตลาดสินค้า e-Commerce อีกทั้ง บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในระบบเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการให้บริการ บริษัทคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักจะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568

จากข้อมูลการเงินของ III แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E อยู่ที่ 0.86 ซึ่งต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี และมีอัตรากำไรสุทธิ 15.9% ส่วนราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังอยู่ที่ 6.27 บาท มี P/E ที่ 6.23 และ P/BV ที่ 1.26 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความคาดหวังต่อผลประกอบการของ III อยู่ในระดับที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 96.01755 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ 348.178809 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับตัวของราคาหุ้นขึ้นในระยะสั้น โดยรวมแล้ว III เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต แต่ยังมีบางประเด็นที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น การแข็งค่าของเงินบาท การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

**โอกาสการลงทุน**
- ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ต่ำกว่า 1
- มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวก
- มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์
- บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

**ความเสี่ยง**
- การแข็งค่าของเงินบาท
- การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

โดยรวมแล้ว III เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต หรือต้องการรับเงินปันผล III มีผลประกอบการที่ค่อนข้างเสถียร และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต แต่เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ และมีความเสี่ยงบางอย่าง จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงและสามารถลงทุนระยะยาว

**(หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน นักลงทุนควรทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง)**

**ข้อมูลเพิ่มเติม:**
* บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 เท่ากับ 3,814.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จํานวน 51.6 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานในปี 2567 โดยบริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลประจําปี 2566 จำนวน 140.1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 และได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจํานวน 93.9 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 กุย. 2567 ที่ผ่านมา
* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ 0.27 เท่า และ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity) ที่ 0.18 เท่า
* ในไตรมาส 3/2567 บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจําปี 2567 อัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายจํานวนทั้งสิ้น 93,930,374.40 บาท โดยกำหนดให้วันที่ 21 สิงหาคม 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลและกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2567

**ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* บริษัทมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท ANI ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในช่วงไตรมาส 4/2567
* บริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั่วโลกในปี 2568 จะขยายตัวร้อยละ 3.4 จากปี 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.1 (ข้อมูลจาก IMF)
* ค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดสินค้า e-Commerce ทั่วโลก ซึ่งต้องพึ่งพาการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นหลักเพื่อรองรับความต้องการจัดส่งสินค้าในระยะเวลาอันสั้น
* ค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเลคาดว่าจะมีทิศทางไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม เนื่องจากอุปทานพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อค่าระวางทางทะเลในระยะยาว
* บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายแหล่งรายได้ใหม่ทั้งธุรกิจใหม่ และขยายขอบเขตการให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่พึ่งพาแหล่งรายได้จากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นหลัก
* บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
* บริษัทมีแผนจะติดตามและบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้เครื่องมือทางการเงิน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท