สรุปงบล่าสุด HTC

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการและความยั่งยืน บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) (HTC) ปี 2567
บทความนี้สรุปและวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) (HTC) ประจำปี 2567 โดยผสานรวมข้อมูลจากรายงานการวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการสำหรับงบการเงินรวมประจำปี 2567 และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์การท่องเที่ยว, การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, และการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ
**1. สรุปรายได้รวมและกำไร:**
ในปี 2567 บริษัทฯ มี**รายได้จากการขายรวม 8,129.8 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมี**กำไรสุทธิ 601.7 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้รายได้เติบโตมาจากการเติบโตของปริมาณการขายที่ 3.5% ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการบริหารการเติบโตของรายได้ (Revenue Growth Management) ผ่านกลยุทธ์ Pack/Price Mix และการปรับราคาสินค้าในบางผลิตภัณฑ์
บริษัทฯ มีการลงทุนเครื่องจักรบรรจุเครื่องดื่มประเภทขวดแก้วที่ทันสมัย ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานสู่การเป็น Total Beverage Company
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว:**
จากข้อมูลของ นีลเส็น ประเทศไทย ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้มีการเติบโต 10.1% โดยกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมเติบโต 9.5%, น้ำดื่ม 10.9% และน้ำผลไม้พร้อมดื่ม 15.2% บริษัทฯ เป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดรวม 24.7% โดยมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำดื่มเพิ่มขึ้นเป็น 8.0% และน้ำอัดลมยังคงเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 78.3%
ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภาคใต้ปี 2568 จะขยายตัว 3.1%-4.1% จากผลผลิตทางการเกษตรที่ฟื้นตัว การท่องเที่ยวที่เติบโต และอุปสงค์จากต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ เทรนด์การท่องเที่ยวตามรอยหนังและซีรี่ย์ที่ถ่ายทำในภูเก็ตและสมุย (เช่น The White Lotus Season 3) และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน (การปรับปรุงและขยายสนามบินในภูเก็ตและสมุย, โครงการสนามบินนานาชาติอันดามัน, และโครงการท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เกาะสมุย) จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวในภาคใต้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ปรับตัวดีขึ้นเป็น 42.7% เพิ่มขึ้น 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีก่อน จากการบริหารการเติบโตของรายได้ผ่านการปรับราคาขาย (Price Mix) ในบางขนาดและตราสินค้า และการปรับขนาดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ (Pack Mix) รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel Mix)
* **ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร (SG&A):** เพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นตามช่องทางการขายที่เปลี่ยนไป (ร้านสะดวกซื้อและกลุ่มโรงแรม/ร้านอาหาร/คาเฟ่) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรที่เพิ่มขึ้น
* **ต้นทุนทางการเงิน:** เพิ่มขึ้น 69.2% จากปีก่อน เนื่องจากการมีเงินกู้ยืมระยะยาวจากการลงทุนในเครื่องจักรสายการผลิต
* **ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้:** เพิ่มขึ้น 21.5% จากปีก่อน เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ของบริษัทย่อยหมดอายุลง
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นปี 2567 มีมูลค่า 7,314.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% จากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ โดยเฉพาะเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้ว
* **หนี้สินรวม:** มีมูลค่า 3,192.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.0% จากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะยาวสำหรับการลงทุน
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** มีมูลค่า 4,122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน จากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้น
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** อยู่ที่ 0.8 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 0.7 เท่าในปีก่อน
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** ณ สิ้นปี 2567 มีมูลค่า 89.3 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน:** เป็นบวก 1,089.5 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน:** เป็นลบ 961.1 ล้านบาท เนื่องจากการลงทุนในธุรกิจผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้ว
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน:** เป็นลบ 137.0 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการจ่ายเงินปันผล
**6. การดำเนินงานด้านความยั่งยืน (ESG):**
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับแนวทางความยั่งยืน โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน:
* **ด้านสิ่งแวดล้อม:**
* **การบริหารจัดการน้ำ:** ปริมาณการใช้น้ำรวมเพิ่มขึ้น 10% จากการขยายสายการผลิตขวดแก้ว แต่มีการบำบัดน้ำเสียผ่านระบบ RO และ UASB ก่อนปล่อยสู่ภายนอก
* **การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ:** มีมาตรการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการซื้อไฟฟ้าได้มากกว่า 12.96%
* **การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก:** มีการรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและอยู่ระหว่างการรับรองจาก อบก. ผลิตภัณฑ์ 88 SKU ได้รับการประเมิน Carbon Footprint Product (CFP)
* **โครงการจัดการขยะและวัสดุรีไซเคิล:** ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ดำเนินโครงการ "จัดการขยะและวัสดุรีไซเคิลบนพื้นที่เกาะอย่างยั่งยืน" ในเกาะลิบงและเกาะกลาง รวบรวมวัสดุรีไซเคิลได้รวม 516.33 ตัน
* **ด้านสังคมและชุมชน:**
* **หาดทิพย์เคียงข้างชุมชน:** มอบถุงยังชีพและเครื่องดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
* **กิจกรรม “รวมใจ เราอยู่”:** พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม
* **ความปลอดภัยในการทำงาน:** มีมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย
* **โครงการเพิ่มศักยภาพการเข้าถึงน้ำสะอาด:** ปรับปรุงจุดบริการน้ำในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ
* **โครงการทุนการศึกษา:** มอบทุน "ต้นกล้า สงขลานครินทร์" ให้กับเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
* **ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี:**
* ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน THSI ESG Ratings ระดับ "AA"
* ได้รับคะแนน CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ"
* รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน
**7. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ปัจจัยความเสี่ยง:** บริษัทฯ อาจเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
* **โอกาสในการลงทุน:** บริษัทฯ คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในภาคใต้จะเติบโตได้ดีจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนในเครื่องจักรใหม่และการขยายไปยังตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้ว รวมถึงการสนับสนุนจากเทรนด์การท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยส่งเสริมการเติบโตในอนาคต
**8. สรุป:**
บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) (HTC) มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนและราคาขาย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นจะเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเพื่อลงทุน
บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การขยายไปยังตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้ว และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG) อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
**หมายเหตุ:** บทวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(2.11%)
(1.43%)
(21.25%)
(14.96%)
(18.75%)
(13.34%)
(26.59%)
(15.66%)
(0.80%)
(14.15%)
(11.66%)
(45.79%)