สรุป OPPDAY หุ้น HMPRO
Oppday
สรุป OPPDAY
HMPRO Oppday Q3/2568: วิเคราะห์ผลกระทบ, โอกาส และความท้าทาย พร้อมแนวโน้มในอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):รายได้รวมลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อัตราการทำกำไรขั้นต้นลดลง 25 Basis Point
ยอดขายของสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) ของ HomePro ติดลบประมาณ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขายเครื่องปรับอากาศและพัดลมเนื่องจากผลกระทบจากฤดูกาล (Seasonal Impact) ในช่วงไตรมาส 2 ที่มีฝนตกมาก
ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท เนื่องจากสาขาใหม่ส่วนใหญ่เป็นการเช่าที่ดิน (ตามมาตรฐานบัญชี IFRS16) และดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ระยะยาวบางส่วนที่ออกในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):การขยายสาขาในรูปแบบ Hybrid Store (HomePro และ MegaHome ในพื้นที่เดียวกัน) เพื่อลดต้นทุนการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่และบุคลากร
การพัฒนา Marketplace ออนไลน์ของตัวเองเพื่อจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีวางขายที่หน้าร้านเนื่องจากพื้นที่จำกัด
การขยายฐานลูกค้า B2B โดยพัฒนาเว็บไซต์และบริการเฉพาะกลุ่มเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าองค์กร
บริการ Home Service (ช่าง HomePro) ยังคงเป็น Growth Engine ที่แข็งแกร่ง โดยมีการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 21.5% ในไตรมาสที่ 3
จัดแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):กำลังซื้อที่ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
สภาพอากาศที่แปรปรวน (ฝนตกหนักและน้ำท่วม) ทำให้ลูกค้าไม่สะดวกในการเดินทางมาใช้บริการที่สาขา
ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงมีความไม่แน่นอน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง
ปัญหาชายแดนที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายในบางสาขา (เช่น สาขาอรัญประเทศ)
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):การใช้แหล่งเงินกู้ระยะสั้นมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน
การพิจารณาโครงสร้างเงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวให้เหมาะสมตามความสามารถในการชำระหนี้
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านการยกระดับระบบ Supply Chain ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยี
การสร้างคลังสินค้าใหม่พร้อมติดตั้งระบบ ASRS (คลังสินค้าอัตโนมัติ) ที่ศูนย์กระจายสินค้า
การผลักดันและขยายบริการ Home Service ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):คาดว่าดอกเบี้ยน่าจะมีการปรับตัวลดลง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาลงทุนในการปรับปรุงหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยเดิมมากขึ้น
ยังคงเดินหน้าตามแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลยุทธ์การเปิดสาขาในรูปแบบ Hybrid Store มากขึ้น
ตั้งเป้าที่จะ Achieve สัดส่วนยอดขาย Private Brand ที่ 22% สำหรับทั้ง Format ของ HomePro และ MegaHome
มีแผนที่จะเปิดสาขาร่วมทั้งสิ้น 11 สาขาในปี 2568 โดยแบ่งเป็น Hybrid Store 9 สาขา และ Stand Alone 2 สาขา
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่ม นาทีที่ 40.45
- หัวข้อ: การเติบโตของรายได้จากส่วนบริการช่าง
- คำถาม: รายได้จากส่วนบริการช่างมีการเติบโตหรือลดลงอย่างไร มีเป้าหมายการเติบโตในส่วนนี้หรือไม่ และเมื่อเทียบกับตลาดแล้วเป็นอย่างไร
- คำตอบ: รายได้จากส่วนบริการช่างมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ปีนี้มีการเติบโตเกือบ 10% แม้ว่ายอดขายโดยรวม (Same Store Sale) จะติดลบ แสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังคงมอง HomePro เป็น Solution ที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับบ้านได้
- คำตอบ: รายได้จากบริการในไตรมาส 3 อยู่ที่ 245 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว 20% สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน
- หัวข้อ: Performance ของแต่ละ Business Unit
- คำถาม: อธิบาย Performance หรือผลประกอบการของแต่ละ Business Unit (HomePro, MegaHome, HomePro S, มาเลเซีย)
- คำตอบ:
- HomePro: Same Store Sale ยังถือว่าเหนื่อยอยู่ เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม กำลังซื้อ และความเชื่อมั่น
- MegaHome: Same Store Sale ติดลบน้อยกว่า HomePro และดีขึ้น แต่ Performance อาจจะไม่ได้เติบโตมากนัก มีประเด็นเรื่องของ GP (Gross Profit) และการปรับเปลี่ยนกลุ่มสินค้า
- HomePro S: มีตัวเลขน้อย และปิดไป 1 สาขาเนื่องจากหมดสัญญาเช่าในห้างสรรพสินค้า (Traffic น้อย)
- มาเลเซีย: มีผลกระทบ และยังคงมีอยู่แค่ 7 สาขา ทำให้ Scale ไม่ใหญ่มากนัก มี Same Store Sale ติดลบ
- หัวข้อ: ปัญหาและคุณภาพของช่าง
- คำถาม: มี Complaint เกี่ยวกับช่างหรือไม่
- คำตอบ: มี Complaint บ้างในเรื่องของคุณภาพการบริการที่อาจจะไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ลูกค้าสามารถร้องเรียนเข้ามาได้ และบริษัทจะรีบเข้าไปแก้ไข พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงต่อไป
- หัวข้อ: สัดส่วนที่ดินในการลงทุน
- คำถาม: มีสัดส่วนการซื้อที่ดิน การเช่าที่ดิน และการเช่าพื้นที่ (เช่น ในห้างสรรพสินค้า) อย่างไร
- คำตอบ:
- เช่าที่ดิน: 40-50%
- ซื้อที่ดิน: ประมาณ 30%
- เช่าพื้นที่: ประมาณ 20%
- หัวข้อ: HomePro Expo
- คำถาม: HomePro Expo ครั้งล่าสุดเป็นอย่างไร
- คำตอบ: ครั้งล่าสุดจัดที่เมืองทองธานี แต่ไม่ได้จัด Scale ใหญ่เหมือนเดิม (จัดแค่ Hall เดียว) เน้นการขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก ยอดขายไม่ได้สูงเท่ากับการจัดงาน Expo แบบเต็มรูปแบบ แต่ก็ถือว่าได้ยอดขายในระดับหนึ่ง และไม่ได้ขาดทุน
- หัวข้อ: Same Store Sale ตามภาค
- คำถาม: Same Store Sale ภาคไหนติดลบเยอะสุด
- คำตอบ: ภาคที่ฝนตกเยอะในช่วงก่อนหน้านี้ (ภาคเหนือและภาคอีสาน) และกังวลเรื่องน้ำท่วม ทำให้ยอดขายชะลอตัว
- หัวข้อ: ผลกระทบจาก "คนละครึ่ง"
- คำถาม: โครงการ "คนละครึ่ง" มีผลอย่างไร
- คำตอบ: "คนละครึ่ง" ไม่ได้ใช้กับ HomePro โดยตรง แต่คาดหวังว่าจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการซื้อเติม ซื้อซ่อมบำรุง
- หัวข้อ: สาขาที่ใกล้ชายแดน
- คำถาม: สาขาที่ใกล้ชายแดนได้รับผลกระทบอย่างไร
- คำตอบ: สาขาอรัญประเทศ (MegaHome) ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากมีการปิดด่าน ส่วนสาขาทางอ้อม (บุรีรัมย์ สุรินทร์ จันทบุรี) ก็ได้รับผลกระทบบ้าง นอกจากนี้ การขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชาในภาคก่อสร้างก็มีผลกระทบเช่นกัน
- หัวข้อ: Capex ในไตรมาส 4
- คำถาม: มี Capex ในไตรมาส 4 เท่าไหร่
- คำตอบ: คาดว่าจะมี Capex อีกประมาณ 2-3 พันล้านบาท เนื่องจากการเปิดสาขาในไตรมาส 4 ค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนใหญ่เป็นการขยายสาขาในรูปแบบ Hybrid ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก
- หัวข้อ: Break Even ของสาขาใหม่
- คำถาม: สาขาใหม่ใช้เวลา Break Even นานเท่าไหร่
- คำตอบ: โดยเฉลี่ย 6 เดือนถึง 2 ปี บางสาขาเปิดมา 2-3 เดือนก็เริ่มมีกำไรแล้ว Payback Period อยู่ที่ 5-8 ปี ขึ้นอยู่กับ Model
- หัวข้อ: ผลกระทบจากการขยายสาขา
- คำถาม: การขยายสาขามีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายอย่างไร
- คำตอบ: การขยายสาขามีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการเตรียมการเปิดสาขา และในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ perform เต็มที่ แต่บริษัทมองเป็นการลงทุนในระยะยาว และมีโอกาสในการเติบโต
- หัวข้อ: การซื้อหุ้นคืน
- คำถาม: การซื้อหุ้นคืนเป็นอย่างไร มีแผนอย่างไรต่อไป
- คำตอบ: ซื้อหุ้นคืนไปแล้วประมาณ 180 ล้านหุ้น (1.37%) หมดอายุโครงการแล้ว ต้องรอ 3 เดือนเพื่อขออนุมัติบอร์ดว่าจะขายคืนหรือไม่ หากไม่ขายคืนก็ต้องทิ้งไว้ 3 ปี แล้วค่อยขออนุมัติใหม่ แต่จะถือได้ไม่เกิน 3 ปี ต้องลดทุน
- หัวข้อ: สาเหตุที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในมาเลเซีย
- คำถาม: สาเหตุที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในมาเลเซีย
- คำตอบ: บริษัทค่อนข้าง Focus ที่เมืองไทย และมีอยู่แค่ 7 สาขา ทำให้การสร้าง Scale ค่อนข้างยาก ต้องจัดการปัญหาภายในและมองเรื่องการขยายสาขาในอนาคต
- หัวข้อ: สัดส่วนยอดขายออนไลน์
- คำถาม: สัดส่วนยอดขายออนไลน์เป็นอย่างไร
- คำตอบ: ยอดขายออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 8% รวมทุก Channel (Platform ของตัวเอง และ Marketplace) เติบโตดีกว่า Physical Store
- หัวข้อ: กำไรจากการขายออนไลน์
- คำถาม: การขายออนไลน์มีกำไรหรือขาดทุน
- คำตอบ: Model การขายออนไลน์ยังมีกำไร ไม่ได้ขาดทุน
- หัวข้อ: ผลประกอบการไตรมาส 4 และมาตรการกระตุ้น
- คำถาม: ผลประกอบการไตรมาส 4 จะเป็นอย่างไร และมีมาตรการกระตุ้นอย่างไร
- คำตอบ: ปีนี้ค่อนข้างเหนื่อยจากปัจจัยภายนอก (กำลังซื้อ ความเชื่อมั่น หนี้ครัวเรือน) อาจจะยังอยู่ในแนวลบคล้ายกับ 9 เดือนแรก ต้อง Focus กลุ่มที่มีโอกาส และทำ Promotion ที่คุ้มค่าในการทำ
- หัวข้อ: แนวโน้มกลุ่มวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4
- คำถาม: แนวโน้มกลุ่มวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4 เป็นอย่างไร
- คำตอบ: โดยปกติไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่เริ่มมีการ Pick Up จากไตรมาส 3 เนื่องจากหลุดจากหน้าฝน และเตรียมขึ้นปีใหม่ แต่ปีนี้ยังฝนตกอยู่ และกังวลเรื่องน้ำท่วม อาจจะเหนื่อยหน่อย
- หัวข้อ: HomePro ระยอง
- คำถาม: HomePro ระยองที่เปิดเมื่อปี 2564 เป็นอย่างไร Break Even แล้วหรือยัง
- คำตอบ: Break Even แล้ว อยู่ในกรอบ 6 เดือนถึง 24 เดือน
โดยสรุปแล้ว HMPRO ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆ แต่บริษัทก็มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา, คว้าโอกาส, และสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยเน้นการขยายสาขาในรูปแบบ Hybrid, พัฒนาช่องทางออนไลน์, และผลักดันบริการ Home Service ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน