สรุปงบล่าสุด HMPRO

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการปี 2567 ของ HMPRO: เติบโตท่ามกลางความท้าทาย
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567**
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO สรุปผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ **72,576.52 ล้านบาท** ลดลงเล็กน้อย **0.34%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรสุทธิสำหรับปีอยู่ที่ **6,503.55 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น **0.96%** ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตนี้มาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีการเปิดสาขาใหม่รวม 9 สาขา (6 สาขาโฮมโปร และ 3 สาขาเมกาโฮม) ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น ลำพูน หนองคาย ระยอง แม่สอด เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี และศรีราชา อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปิดสาขารัตนาธิเบศร์เนื่องจากสัญญาเช่าหมดอายุ แต่ได้เปิดสาขาใหม่ในบริเวณใกล้เคียงที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น
**รายได้จากการขายและให้บริการ (ธุรกิจโฮมโปร และธุรกิจเมกาโฮม)** ลดลง 0.49% อยู่ที่ 67,952.02 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ
**รายได้ค่าเช่า** ลดลง 1.48% อยู่ที่ 1,854.37 ล้านบาท เนื่องจากการงดจัดงาน HomePro Expo ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม และเปลี่ยนมาจัดงาน HomePro Super Expo ที่สาขาและออนไลน์แทน เพื่อลดต้นทุนและเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
**รายได้อื่น** เพิ่มขึ้น 4.29% อยู่ที่ 2,770.13 ล้านบาท จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและออนไลน์
**สถานการณ์เศรษฐกิจปี 2567**
เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ยังคงเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ส่งผลให้มีการเติบโตในอัตราที่ไม่สูงมากนัก ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของภาคธุรกิจมีการปรับตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อโดยรวมที่อ่อนแอลง ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ส่งผลต่อเงินหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นในพื้นที่ท่องเที่ยว
ในช่วงครึ่งปีแรก รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Easy E-Receipt 2567 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเสริมสร้างกำลังซื้อต่อประชาชน นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นฤดูร้อนของประเทศไทย สินค้ากลุ่มเครื่องทำความเย็นมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง กำลังซื้อที่ลดลงและการเริ่มต้นฤดูฝนที่เร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่งผลต่อความไม่สะดวกสบายในการเดินทางมาใช้บริการที่สาขาของลูกค้า อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง ได้มีอุปสงค์การซื้อสินค้าเพื่อทดแทนสินค้าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และสินค้าเพื่อซ่อมแซมและทำความสะอาด ทำให้ยอดขายสินค้าของสาขาที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการออก 'โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ' มอบเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาท แก่กลุ่มเปราะบาง ส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
**การวิเคราะห์รายได้และกำไร**
**กำไรขั้นต้นจากการขายและให้บริการ** เพิ่มขึ้น 0.32% อยู่ที่ 18,223.57 ล้านบาท และ**อัตรากำไรขั้นต้น** เพิ่มขึ้นจาก 26.60% เป็น 26.82% จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ทั้งจากธุรกิจโฮมโปร และธุรกิจเมกาโฮม
**ต้นทุนค่าเช่า** เพิ่มขึ้น 3.82% อยู่ที่ 816.45 ล้านบาท จากการเปิดสาขาโฮมโปรในปี 2567, ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาคาร และกิจกรรมในศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น
**ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร** ลดลง 0.46% อยู่ที่ 13,340.93 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค, ค่าใช้จ่ายจากการจ้างแรงงานภายนอก และค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางการตลาด, ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต และค่าเสื่อมราคา
**รายได้ทางการเงิน** เพิ่มขึ้น 123.42% อยู่ที่ 61.95 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น
**ค่าใช้จ่ายทางการเงิน** เพิ่มขึ้น 21.16% อยู่ที่ 687.53 ล้านบาท จากการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อชำระหนี้ที่ครบกำหนดในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น, การออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น และสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น
**ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้** เพิ่มขึ้น 1.94% อยู่ที่ 1,562.40 ล้านบาท จากกำไรก่อนหักภาษีที่เพิ่มขึ้น
**สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น**
* **สินทรัพย์รวม** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 69,664.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.89% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ และสินทรัพย์ถาวร ในขณะที่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง
* **หนี้สินรวม** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 42,862.43 ล้านบาท ลดลง 1.44% จากปีก่อน โดยหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยรวมลดลง
* **อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น** เท่ากับ 1.60 เท่า
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น** เท่ากับ 0.62 เท่า
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 26,802.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.87% จากปีก่อน
* **อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)** เท่ากับ 24.84%
**สภาพคล่องทางการเงิน**
* **กระแสเงินสด** ในรอบปีลดลง 874.95 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 10,153.21 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน ลดลง 3,691.31 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน ลดลง 7,339.30 ล้านบาท
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เท่ากับ 0.87 เท่า
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**
**ปัจจัยความเสี่ยง:**
* ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน
* การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
* โครงการปรับปรุงถนนหน้าโฮมโปรสาขาราชพฤกษ์ ทำให้การเข้ามาใช้บริการที่สาขาลดลง
**โอกาสการเติบโต:**
* การขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ
* การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
* การใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการขายสินค้า
* การขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B)
**แนวโน้มอนาคตของการลงทุน:**
* บริษัทฯ ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว จากการขยายสาขา การพัฒนาสินค้าและบริการ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
* การลงทุนในเทคโนโลยีและระบบต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
* การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและนักลงทุน
**สรุป**
ถึงแม้ว่า HMPRO จะเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2567 และมีปัจจัยภายนอกกระทบต่อรายได้บางส่วน แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานไว้ได้ในระดับที่ดี จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การปรับกลยุทธ์ทางการตลาด และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรขั้นต้นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในตลาดค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ฐานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ยังควบคุมได้ การลงทุนใน HMPRO ยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว จากศักยภาพในการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
(7.22%)
(0.35%)
(8.68%)
(0.91%)
(1.34%)
(0.52%)
(10.07%)
(0.53%)
(19.77%)
(2.96%)
(211.32%)
(15.44%)