สรุปงบล่าสุด HL
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) (HL) ไตรมาส 3 ปี 2568
**ภาพรวมผลการดำเนินงาน**
บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยมีรายได้รวม 556.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 0.11% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 12.77 ล้านบาท ลดลง 23.87% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 24.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (หน้า 1)
**รายได้**
* **รายได้รวม:** 556.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.72% (YoY) แต่ลดลง 0.11% (QoQ) (หน้า 1)
* **รายได้จากการขาย:** 545.64 ล้านบาท คิดเป็น 98.01% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 8.43% (YoY) แต่ลดลง 0.49% (QoQ) (หน้า 1)
* **การเติบโตของรายได้:** เป็นผลมาจากการขยายธุรกิจโดยการเปิดร้านขายยาใหม่ 2 สาขา ได้แก่ ฟาร์แมกซ์ สาขาโลตัสพระราม 4 และฟาร์แมกซ์ สาขาซัสโก้ สแควร์ ปิ่นเกล้า ทำให้มีสาขารวม 69 สาขา (หน้า 1)
* **กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโต:** กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับการใช้ภายนอกร่างกาย และกลุ่มยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่ 14.01% และ 10.38% ตามลำดับ (หน้า 1)
* **กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่รายได้ลดลง:** รายได้จากการขายอุปกรณ์การแพทย์และของใช้ในบ้านลดลง 3.57% (YoY) และ 16.06% (QoQ) เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในไตรมาส 2/2568 ทำให้ยอดขายชุดตรวจหาเชื้อไวรัสสูงเป็นพิเศษ (หน้า 2)
* **รายได้อื่น:** 11.06 ล้านบาท เติบโต 24.86% (YoY) และ 22.48% (QoQ) จากการขยายพื้นที่ขายและรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับการใช้ภายนอกร่างกาย รวมถึงยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (หน้า 2)
**สถานการณ์เศรษฐกิจ**
ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้จากการขาย (หน้า 1)
**การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **กำไรขั้นต้น:** 128.28 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 23.51% ลดลงเล็กน้อยจาก 24.35% ในไตรมาส 2/2568 แต่สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 3)
* **ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำไรขั้นต้น:** โครงสร้างรายได้ (product mix) ที่ดีขึ้น และยอดขายสินค้าใหม่ของบริษัท เฮลทิเนส จำกัด (บริษัทย่อย) ที่เพิ่มขึ้น (หน้า 3)
* **ต้นทุนในการจัดจำหน่าย:** 98.32 ล้านบาท คิดเป็น 18.02% ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 17.12% (YoY) แต่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** 23.30 ล้านบาท คิดเป็น 4.19% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 10.64% (YoY) และ 6.04% (QoQ) (หน้า 3)
* **ต้นทุนทางการเงิน:** 4.15 ล้านบาท คิดเป็น 0.75% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 21.47% (YoY) และ 1.47% (QoQ) (หน้า 3)
* **กำไรสุทธิ:** 12.77 ล้านบาท ลดลง 23.87% (YoY) และ 24.03% (QoQ) (หน้า 3)
* **สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง:** อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายที่ชะลอตัว และต้นทุนการจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา (หน้า 3)
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์รวม:** 1,500.46 ล้านบาท ใกล้เคียงกับสิ้นปี 2567 (หน้า 4)
* **หนี้สินรวม:** 527.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.93% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** 973.06 ล้านบาท (หน้า 5)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** 0.54 เท่า (หน้า 4)
**กระแสเงินสด**
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** ลดลง 109.74 ล้านบาท หรือ 65.06% จากสิ้นปี 2567 เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ทำให้บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การบริหารสภาพคล่องโดยย้ายเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น (หน้า 4)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
* **ความเสี่ยง:** ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ซบเซา (หน้า 3)
* **โอกาส:** การขยายสาขาใหม่ และการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับการใช้ภายนอกร่างกาย และกลุ่มยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (หน้า 1)
**สรุปความสัมพันธ์ระหว่างรายได้, กำไร, อัตรากำไรขั้นต้น, อัตรากำไรสุทธิ, และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E)**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 HL มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ และต้นทุนการจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าวได้ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับต่ำ แสดงถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่บริษัทฯ จำเป็นต้องบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาระดับกำไรในอนาคต
**การซื้อหุ้นคืน**
บริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นสามัญภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวน 5,523,100 หุ้น มูลค่ารวม 36,557,492 ล้านบาท (หน้า 5)
(0.11%)
(8.72%)
(3.92%)
(9.53%)
(3.84%)
(0.74%)
(0.90%)
(15.82%)
(24.02%)
(23.87%)
(6.43%)
(102.74%)