GLOBAL
บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

GLOBAL เติบโตต่อเนื่อง ขยายสาขา มุ่งสู่ 100 แห่ง พร้อมกลยุทธ์เพิ่มกำไร

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน พบกับ Oppday ของ GLOBAL โดยคุณพิภพ วัฒนาอาชาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และคุณยุทธนา สุริยวนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 สยาม Global House ได้รับรางวัล ASEAN CG Scorecard สะท้อนการกำกับดูแลกิจการที่ดีใน 6 ประเทศอาเซียน (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย, เวียดนาม)

บริษัทได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีเลิศระดับ 5 ดาว ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

รางวัลเหล่านี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลที่ดีในทุกมิติ (ESG: สิ่งแวดล้อม, สังคม, เศรษฐกิจ) สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่าย

บริษัทดำเนินการขยายสาขาและ renovate สาขาเพื่อรองรับเทรนด์และตลาดใหม่ๆ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • ขยายสาขาต่อเนื่อง: คาดว่าจะขยายสาขาถึง 96 สาขาภายในสิ้นปี 2568 และเกิน 100 สาขาในปีหน้า
  • ที่ดินพร้อมรองรับการขยายสาขาในอนาคต

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

การชะลอการเปิดสาขาในอรัญประเทศเนื่องจากสถานการณ์ชายแดน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • เปลี่ยนพื้นที่ขยายสาขาไปที่กาฬสินธุ์และนครสวรรค์
  • คํานึงถึงต้นทุนและยอดขายในการตัดสินใจขยายสาขา

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • สาขาเชียงใหม่เป็นสาขาต้นๆ ของสยาม Global House ตั้งแต่ปี 2540 มีการปรับปรุง renovate เพื่อให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการลูกค้า
  • ขยายสาขาไปนครปฐม (1 ใน 5 สาขาแรก) มีการ renovate อย่างต่อเนื่อง
  • ขยายสาขาใน Southeast Asia: พม่า (13 สาขา), ลาว (8 สาขา), กัมพูชา (2 สาขา), อินโดนีเซีย (16 สาขา)
  • เปิดสาขาเพิ่มในพม่า (ย่างกุ้ง, สาขาที่ 14) และลาว (เวียงจันทน์, สาขาที่ 9)
  • เตรียมเปิดสาขาเพิ่มที่อินโดนีเซีย (สิ้นเดือนนี้, สาขาที่ 17)
  • เตรียมจัดโปรแกรมฉลองครบรอบ 28 ปี (28 พ.ย. - 11 ม.ค.): ลุ้นทองคำ 60 บาท มูลค่า 8 ล้านบาท

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 26.07]

  1. สัดส่วนการขายเหล็กและปัญหา Supply:

    • สัดส่วนขายเหล็กประมาณ 15%
    • ไม่มีปัญหา supply เหล็ก ไม่มีการขาดแคลน
  2. แนวโน้ม Same Store Sales Growth (SSSG):

    • ตุลาคม SSSG ลดลง 5%
    • November ยังไม่มีข้อมูล
    • การหดตัวของ SSSG เกิดขึ้นในหลายสาขา (เหนือ, กลาง, อีสาน)
  3. ผลกระทบจากการ Renovate:

    • ยอดขายโต 5-10% หลัง renovate
    • ค่าใช้จ่ายในการ renovate: 12-25 ล้านบาท (ขึ้นกับขนาด)
    • อดีต SSSG โต 10-15% (ช่วงเศรษฐกิจดี), ปัจจุบันโตน้อยลง
    • ยอดขายสาขาเดิม (ก่อนปี 2019) ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับก่อน COVID
  4. Quarter-to-date SSSG และ House Brand:

    • ตุลาคม SSSG ติดลบ single digit
    • House brand สัดส่วนใกล้เคียง Q3 (26.49%)
  5. Customer Type Breakdown:

    • ผู้รับเหมา (รายย่อย): 30-35%
    • เจ้าของบ้าน: 10-15%
    • หน่วยงานภาครัฐ: ส่วนที่เหลือ
    • ลูกค้าปลีกหน้า ร้าน 90%
  6. มุมมองต่อ SSSG ใน Q4 และปีหน้า:

    • Q4: อยากให้ SSSG ใกล้เคียง Q3, รอประเมินผล 2 เดือนสุดท้าย
    • ปีหน้า: เศรษฐกิจมีผล, คาดการณ์ใกล้เคียงปีนี้
  7. ความคืบหน้าธุรกิจย่อย:

    • บริษัท ชิค (ประเทศไทย) เริ่มทำธุรกิจแล้ว
    • ยอดขายน้อย (ไม่ถึง 100 ล้าน), จดทะเบียนเรียบร้อย
    • เริ่ม distribute สินค้าในสาขา แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้า
  8. ยอดขายสาขากัมพูชา:

    • สัดส่วน 1% ของยอดขายรวม
    • ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง
  9. แผนขยายสาขาต่างประเทศ:

    • ลาว: 9 สาขา (เปิดใหม่ที่เวียงจันทน์), วางแผนเปิดเพิ่ม 1-2 สาขา
    • พม่า: 14 สาขา (เปิดใหม่ที่ย่างกุ้ง)
    • อินโดนีเซีย: 16 สาขา, เตรียมเปิดสาขาที่ 17 สิ้นเดือนนี้, แผนเปิดเพิ่ม 1-3 สาขา
    • เน้นการเติบโตในประเทศที่มี partner ที่ดี
  10. ผลกระทบต่อสาขาชายแดนกัมพูชา:

    • หลักๆ ที่ อ.กันทรลักษ์
    • ผลกระทบไม่แย่กว่าค่าเฉลี่ย, ได้รับผลกระทบจากการอพยพ/ปิดชายแดน
  11. สาเหตุ SSSG เดือนตุลาคมลดลง:

    • ผลกระทบจากน้ำท่วมปีก่อนและฝนตกหนัก
    • หากไม่รวมปัจจัยเหล่านี้ คาดว่า SSSG จะเป็นลบ single digit
  12. Margin ในเดือนตุลาคม:

    • คาดว่าจะไม่น้อยกว่า 26% (ใกล้เคียงเดิม)
  13. กระแสเงินสดและ Inventory:

    • เพิ่ม stock สินค้า (house brand)
    • Q3 House Brand ทำได้ดีมากที่ 27%
  14. Inventory Turnover:

    • ไม่ต่างจากสิ้นปีที่แล้ว
    • การขยายสาขาช่วย rotate stock
  15. งบลงทุนต่อสาขาใหม่:

    • 350-400 ล้านบาท (รวมที่ดิน)
    • Inventory ต่อสาขา: 100-150 ล้านบาท
  16. ปัจจัยที่ทำให้ Private Brand ขายดี:

    • ลูกค้า trade down และมี SKU ใหม่ๆ
  17. สถานการณ์ในพม่า:

    • ยังอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร, คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง
    • หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหลังเลือกตั้ง
    • การเดินทางเข้าออกพม่าทำได้, มีการควบคุมราคาและ license นำเข้า
  18. เงินลงทุนต่อสาขาและ Break Even:

    • Break even ภายใน 1 ปี, payback period 6-7 ปี
  19. เป้าหมาย GPM และ SG&A ต่อ Sales ใน Q4:

    • GPM: ใกล้เคียง Q3
    • SG&A ต่อ Sales: ดีขึ้น (ตัวเลขน้อยลง)
  20. แผนเปิดสาขาและ Partner ใหม่:

    • ไม่มีแผนเปิดสาขาหรือหา partner ใหม่ในประเทศอื่น
    • มุ่งเป้าที่ประเทศไทย
  21. เป้าหมาย House Brand:

    • อยากให้ถึง 30% ใน 3 ปีข้างหน้า
  22. สกุลเงินที่ใช้ในการนำเข้า:

    • จีน: เงินหยวน
    • ประเทศอื่น: USD
  23. ผลกระทบจากการขายสินค้าจีนบน Platform Online:

    • ไม่กระทบมากนัก เพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นชิ้นเล็ก (gadget, เสื้อผ้า)
    • สินค้าของ GLOBAL เป็นของชิ้นใหญ่
  24. Total SKU ใน Store และ House Brand:

    • Total SKU: ประมาณ 20,000
    • House Brand SKU: ประมาณ 30%
  25. การควบคุมราคาในพม่า:

    • รอหลังเลือกตั้ง
    • มีการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและเหล็ก
  26. สัดส่วนรายได้จากการซ่อมแซมบ้าน:

    • ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน
  27. จำนวนสาขาที่ไม่อยู่ในอำเภอเมือง:

    • ประมาณ 30-40 สาขา
    • เน้นขยายสาขาไปอำเภอรอง
  28. เป้าหมาย Top Line Growth ในปีหน้า:

    • อยากโตทุกตัว, รอประเมินภาวะเศรษฐกิจ
    • ตั้งเป้าเติบโต 2-5%

โดยสรุป GLOBAL ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการขยายสาขา การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการพัฒนาสินค้า House Brand พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป