สรุปงบล่าสุด FTI
บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้รวม 422.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 21.62 ล้านบาท ลดลง 28% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายและบริการ เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของรายได้ ในขณะที่กำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น 7.34 ล้านบาท คิดเป็น 7% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวแทนจำหน่าย โดยสินค้าในกลุ่มเชิงพาณิชย์และกลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของภาคธุรกิจ
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ FTI ยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต FTI ตั้งเป้ารายได้ในปี 2567 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง FTI อาจเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในระยะยาว ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ FTI อยู่ที่ระดับ 2.10 บาท ในขณะที่ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 22.28 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนคาดหวังการเติบโตของกำไรในอนาคต P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.32 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน นอกจากนี้ อัตรากำไรสุทธิของ FTI ยังคงอยู่ในระดับที่ดีที่ 5.56% และ D/E อยู่ที่ระดับ 0.49 แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 3.11 ล้านบาท ในขณะที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ติดลบ 49.65 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า FTI ใช้เงินลงทุนต่อยอดธุรกิจ วงจรเงินสด 258.66 แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสดที่ดี อย่างไรก็ตาม FTI มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดน้ำในประเทศและต่างประเทศมีขนาดใหญ่ และความต้องการระบบบำบัดน้ำที่สะอาดและมีประสิทธิภาพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา เช่น
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง
* การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
* ความผันผวนของราคาสินค้าวัตถุดิบ
FTI อาจเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการถือหุ้นระยะยาว โดยมุ่งหวังการเติบโตของกำไร และเงินปันผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FTI มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อัตราส่วนทางการเงินอยู่ในระดับที่ดี และมีโอกาสเติบโตในอนาคต
(15.75%)
(5.59%)
(13.18%)
(4.70%)
(2.21%)
(0.83%)
(4.96%)
(14.17%)
(23.49%)
(37.97%)
(46.44%)
(679.37%)