สรุปด้วย AI(O) BOT

ผลประกอบการของบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จํากัด (มหาชน) ECL ในไตรมาส 2/2567 แสดงให้เห็นถึงผลกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิลดลง 34.92% ในช่วง 3 เดือน และ 52.56% ในช่วง 6 เดือน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายรวม ซึ่งเกิดจากขาดทุนขายรถยึดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมีการยึดรถเพิ่มขึ้นและราคารถยนต์ลดลง นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินก็เพิ่มขึ้น 36.71% ในช่วง 3 เดือน และ 43.54% ในช่วง 6 เดือน เนื่องจากธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายของบริษัทย่อย บริษัทฯ ยังได้ตัดหนี้สูญและตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งค่าเผื่อสำหรับลูกหนี้ที่ดําเนินคดีและพิจารณาเป็นรายกรณี

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ ECL ยังคงเน้นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองและสินเชื่อให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการซื้อรถยนต์ (Car Loan) โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าและเพิ่มช่องทางการให้บริการ เพื่อเพิ่มยอดขายและรายได้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไร

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง ECL มี P/E ที่ 10.53 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด P/BV ที่ 0.45 และ YIELD ที่ 6.49% ถือว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล ราคาหุ้น 52 สัปดาห์ สูงสุด/ต่ำสุด อยู่ที่ 3.06/0.86 บาท ในขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 1.3 บาท แม้ว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาสล่าสุดจะไม่ดีนัก แต่ YIELD ที่สูงและ P/E ที่ต่ำก็บ่งชี้ถึงความน่าสนใจในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรติดตามผลประกอบการและการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนอย่างรอบคอบ