สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL มีรายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 175.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิลดลง 53.20% เหลือ 7.24 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 14.18% เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 3 ปี 2567 ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกผลจากการขายตามสัญญาเช่าซื้อ เพิ่มขึ้น 15.44% สืบเนื่องจากบริษัทปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในปีก่อน ทำให้มีพอร์ตลูกหนี้เพิ่มขึ้นและมีผลต่อรายได้ในปี 2567 นอกจากนี้ การตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 10.78 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็น 22.60 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นผลมาจากการตั้งค่าเผื่อสำหรับลูกหนี้ที่ดําเนินคดีและพิจารณาเป็นรายกรณี ส่งผลต่อกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567

บริษัท ECL มีแผนธุรกิจในอนาคตมุ่งเน้นการพัฒนาบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองและสินเชื่อให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการซื้อรถยนต์ (Car Loan) โดยจะเน้นการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ บริษัทคาดการณ์ว่า อัตราการปล่อยสินเชื่อในปี 2568 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อ Car Loan ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต

จากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ผ่านมา แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลง แต่บริษัทมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและมีแนวโน้มเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาความเสี่ยงจากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต ซึ่งอาจมีผลต่อกำไรในอนาคต ราคาหุ้น ECL ในช่วง 52 สัปดาห์สูงสุดอยู่ที่ 3.06 บาท ต่ำสุดอยู่ที่ 0.91 บาท และราคาล่าสุดอยู่ที่ 1.43 บาท โดยมี P/E เท่ากับ 15.82 P/BV เท่ากับ 0.58 และ YIELD เท่ากับ 5% ซึ่งจัดว่าเป็นระดับที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล แต่ควรติดตามผลประกอบการและความเสี่ยงจากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตอย่างใกล้ชิด