สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างที่ยังคงซบเซา โดยบริษัทฯ เข้าร่วมประมูลงานจํานวน 20 โครงการ คิดเป็นมูลค่างาน 15,208 ล้านบาท ได้รับงานจํานวน 8 โครงการ มูลค่า 3,909 ล้านบาท มีสัดส่วนในเชิง จํานวนโครงการ 2.5:1 และสัดส่วนในเชิงมูลค่าประมูล 3.9:1 ในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มเติม จํานวน 4 โครงการ เป็นมูลค่าโดยประมาณ 405 ล้านบาท นอกจากนี ยังมีงานก่อสร้างทางหลวงมูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท ของกรมทางหลวง ทีอยู่ระหว่างรอการประกาศผลเพื่อลงนามในสัญญา) ซึ่งคาคว่าจะลงนามได้ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึง เดือนกันยายนปีนี่ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเร่งเพิ่มเติมงานบางส่วนในงานประเภททีบริษัทฯ มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันและมีศักยภาพสูงในการก่อสร้าง เพื่อเป็นการเพิ่มเติมปริมาณงานในมือ และรักษา ความสามารถในการแข่งขันในโครงการทีต้องการความชํานาญพิเศษเฉพาะด้าน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจทีเกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯ ยังคงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจากการได้รับงานเพิ่มเติมจากงานทีมีอยู่ จนสินไตรมาสที 2 ของปี 2567 ร

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ CNT เน้นการเพิ่มปริมาณงานในมือโดยเฉพาะในงานที่มีความชำนาญพิเศษและมีศักยภาพในการก่อสร้าง โดยบริษัทฯ มีแผนเข้าแข่งขันและประมูลงานที่มีมูลค่ารวมกันประมาณ 20,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าบริษัทฯ มีโอกาสที่จะได้รับงานที่มีมูลค่ารวมกันประมาณ 4,000 -- 5,000 ล้านบาท ขณะนีบริษัทฯ ยังมีปริมาณงานคงเหลือในมือมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ในด้านพลังงานทดแทน บริษัทฯ มองเห็นโอกาสจากนโยบายสนับสนุนพลังงานทางเลือกและพลังงานสีเขียวของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักคันการเติบโตของตลาด " พลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี่ บริษัทฯ มีเป้าหมายในการเจรจาและขอเพิ่มกําลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อรองรับ การขยายโรงงานทีกําลังดําเนินการอยู่

ผลประกอบการของ CNT ในไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้รวม 2,699.3 ล้านบาท ลดลง 32.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากงานก่อสร้างลดลง 39.2% เนื่องจากงานก่อสร้างในมือที่ยกมาจากปีก่อนส่วนใหญ่ได้ดําเนินการแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีการบันทึก ประมาณการค่าใช้จ่ายสําหรับโครงการที่คาดว่าจะเกิดขึ่นในอนาคตสําหรับโครงการใหม่ อิกทั้ง มีโครงการก่อสร้างหลายโครงการของบริษัทฯ ที่ อยู่ในช่วงเริมต้นของงานก่อสร้าง ซึ่งโดยปกติจะยังมีกําไรไม่มากนัก จึงทําให้กําไรขันต้นลดลง

CNT มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 18.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 48.6 ล้านบาท จากการโอนกลับรายการค่าเผื่อหนี่สงสัยจะสูญซึ่งเกิดจากรายการรับโอนที่ดินเพื่อชําระหนีจากลูกหนี่ทีค้างชําระนาน ค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้น 3.9% เนื่องจาก บริษัทฯ มีการจ้าง พนักงานในจํานวนทีเพิ่มมากขึ้นเพื่อเตรียมรองรับโครงการก่อสร้างทีบริษัทฯ คาคว่าจะได้รับงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี| 2567

สำหรับงวดครึ่งแรกของปี 2567 CNT มีกำไรสุทธิ 19.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวม 2,699.3 ล้านบาท ลดลง 32.6% โดยรายได้จากงานก่อสร้างลดลง 34.6% และต้นทุนงานก่อสร้างลดลง 34.4%

CNT น่าสนใจในแง่ของการเป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดที่แข็งแกร่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และมีแผนขยายธุรกิจในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลต่อการเลื่อนโครงการออกไป และทำให้บริษัทฯ ต้องปรับลดเป้าหมายรายได้ของสินปี 2567 จาก 550 ล้านบาท ลงเหลือ 450 ล้านบาท ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ CNT สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยง เช่น การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง และ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงทุนและการเติบโตของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนาน และ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ ซึ่งอาจช่วยให้บริษัทฯ สามารถผ่านพ้นความท้าทายในอนาคตได้

โอกาสการลงทุนใน CNT ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ และ เป้าหมายในการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ "ถือยาวรอการเติบโต" CNT น่าจะเหมาะสม เนื่องจากบริษัทฯ มี P/E และ P/BV ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 35 และ 1 ตามลำดับ สะท้อนถึงการคาดหวังผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสมเหตุสมผล รวมถึง บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น พลังงานทดแทน และ ธุรกิจก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท อย่างไรก็ตาม นักลงทุน "เก็งกำไรระยะสั้น" อาจต้องระมัดระวัง เนื่องจาก P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย สะท้อนถึง การเติบโตของผลประกอบการที่ยังไม่แน่นอน และ ตลาดรับเหมาก่อสร้างยังคงมีความเสี่ยง

ข้อมูลเพิ่มเติมด้านฐานะการเงิน:

- CNT มีสินทรัพย์รวม 7,133.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากสิ้นปี 2566
- หนี้สินรวม 5,434.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากสิ้นปี 2566
- ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 1,698.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากสิ้นปี 2566
- อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 3.20 เท่า สูงกว่าปี 2566 ที่ 2.87 เท่า ซึ่งเกิดจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้รับเงินรับล่วงหน้าสำหรับโครงการก่อสร้างใหม่ส่งผลให้หนีสินทีเกิดจากสัญญาเพิ่มขึ้น
- อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 0.85 เท่า ณ สิ้นปี 2566 มาเป็น 0.67 เท่า ในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทฯ ได้ทยอยจ่ายชําระหนีคืนให้แก่สถาบันการเงิน

ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่า CNT เหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนของตนเองหรือไม่