CHEWA
บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

CHEWA ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัว! สรุป OPPDAY ไตรมาส 3/2568: กลยุทธ์ฟื้นยอดขาย, โอกาสใหม่, และแผนลดหนี้

สรุปผลการประชุม Oppday ของบริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 ซึ่งนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจ, โอกาส, ความเสี่ยง, แนวทางการแก้ไข, แนวโน้มในอนาคต, และช่วงถาม-ตอบ

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

    ธุรกิจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการซบเซา ส่งผลให้กำลังซื้อลดลงและยอดขายตกต่ำ

    • รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์รวม 545.44 ล้านบาท ลดลง 61.77% เมื่อเทียบกับปี 2567
    • ขาดทุน 106.49 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 559.60% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

    ปัจจัยสำคัญ: เศรษฐกิจขาลง, ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์, และนโยบายภาครัฐที่ยังไม่กระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์มากพอ

  2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

    บริษัทมองเห็นโอกาสในการร่วมทุนกับพันธมิตร, ขยายธุรกิจให้เช่า, และพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

    • กลยุทธ์: แสวงหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ, ร่วมทุน, จัดแคมเปญ Mega Sales, คืนและลดการออกหุ้นกู้, และรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์
    • เป้าหมาย: เป็น Smart Affordable Property Developer ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนเมืองในราคาที่เข้าถึงได้
  3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

    บริษัทเผชิญความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน, การแข่งขันที่สูง, และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐ

    • ผลกระทบ: ยอดขายลดลง, กำไรลดลง, และภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
    • ความเป็นไปได้: ความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะสั้น
  4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

    บริษัทใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย, ลดภาระหนี้สิน, และรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์

    • แผนการดำเนินการ: จัดแคมเปญ Mega Sales, คืนและลดการออกหุ้นกู้, และพัฒนา Corporate Identity (CI)
    • ตัวชี้วัดความสำเร็จ: ยอดขายเพิ่มขึ้น, หนี้สินลดลง, และความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้น
  5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

    บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงทรงตัวในระยะสั้น แต่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวในระยะยาว หากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

    • วิสัยทัศน์: เป็น Smart Affordable Property Developer ที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
    • เป้าหมาย: เพิ่มรายได้, ลดหนี้สิน, และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
  6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 58:55]
    1. คำถาม: รายได้รวมไตรมาส 3 ลดลงเกือบ 65% สาเหตุหลักมาจากอะไร และมีแผนการอย่างไรในการฟื้นฟูยอดขายในไตรมาส 4 คำตอบ: ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ, ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา และมาตรการการเข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อ ไตรมาสที่เหลือจะใช้กลยุทธ์ด้านราคาเข้ามาช่วย
    2. คำถาม: ทำไมบริษัทถึงต้องลดเป้ายอดขายปี 2568 ลดลงมาเหลือ 600 ล้านบาท และกลยุทธ์ใหม่ที่จะใช้เน้นจุดไหนเพื่อดึงดูดลูกค้า คำตอบ: ในปี 2568 เคยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากแนวโน้มไตรมาส 1-2 ยอดรายได้ลดลงต่ำ จึงปรับเป้าลงมาในช่วงไตรมาส 2 เหลือ 900 ล้านบาท (ไม่ใช่ 600 ล้านบาท) โดยใช้กลยุทธ์ที่ใช้ น่าจะมีโอกาสที่จะทำให้ไปถึงเป้าได้
    3. คำถาม: ผลกระทบของภาระต้นทุนทางการเงินและดอกเบี้ยหุ้นกู้สูงที่อัตรา 7.25% มีผลอย่างไรต่อสภาพคล่องและผลประกอบการในอนาคตบ้าง คำตอบ: อัตราดอกเบี้ยสูงหรือต่ำก็มีผลต่อผลประกอบการ แต่ภาระที่จะกระทบกับผลประกอบการคือภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายได้ แต่พยายามลดหนี้ลงมาเรื่อย ๆ เพื่อลดต้นทุนและรักษากำไรของบริษัทเอาไว้
    4. คำถาม: สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลอตัวและกำลังซื้อที่อ่อนแรง จะมีมาตรการใดที่ช่วยบรรเทาผลกระทบนี้ได้หรือไม่ คำตอบ: อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยในการผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ผ่อนปรนเงื่อนไขในการกู้ เพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น
    5. คำถาม: บริษัทมีแผนอย่างไรกับการลดภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินในระยะยาวข้างหน้าบ้าง คำตอบ: บริษัทมีภาระหนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการระบายสินค้า จากปี 2566 น่าจะลดลงไปเกือบ 2,000 ล้านบาท ทำให้ต้นทุนของบริษัทก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ
    6. คำถาม: ในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ มีอะไรใหม่ ๆ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้บ้าง คำตอบ: มีโครงการที่ร่วมทุนกับญี่ปุ่น เป็นโครงการ Low Rise คอนโด 8 ชั้น ชื่อโครงการ ชีวาทัย ฮอร์มาร์ค เอกมัยรามอินทรา จะเสร็จภายในปีนี้และน่าจะโอนได้ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า นอกจากนี้มีโรงงานสำเร็จรูปที่จังหวัดระยอง มีจำนวน 4 ยูนิต ตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คิดว่าจะเสร็จภายใน Q1 และตอนนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตเปิดโรงงาน
    7. คำถาม: คาดการณ์อย่างไรกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 4 นี้คะ และปัจจัยอะไรที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนในการฟื้นตัว คำตอบ: ตลาดยังทรง ๆ ตัวอยู่ อาจจะดีขึ้นเล็กน้อย ต้องรอมาตรการของภาครัฐและเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น
    8. คำถาม: ตัวเลข Backlog ค่ะ แล้วก็การรับรู้รายได้ในปี 2568 นี้เป็นยังไงคะ คำตอบ: Backlog ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1,051 ล้านบาท โครงการแนวราบ 900 ล้าน โครงการแนวสูง 100 กว่าล้าน ยังคงยึดถือเป้าเดิมที่เคยตั้งไว้ คือประมาณ 900 ล้านบาท
    9. คำถาม: คาดการเติบโตของชีวา ทั้งปี 2568 จะเป็นไปตามแผนหรือไม่ แล้วเป็นไปอย่างไร แล้วในปี 2569 จะไปอย่างไรคะ ไปในทิศทางไหนคะ คำตอบ: ปี 68 ปรับเป้าลงกว่า 50% คาดว่าคงไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ต้นปี แต่ปี 69 น่าจะดีขึ้นดีกว่าปีนี้แน่นอน
    10. คำถาม: สอบถามถึงปัจจัย ด้านบวกและด้านลบ ของปี 2576 ในกลุ่มอสังหา อันนี้คือมีปัจจัยบวก ลบ ในปีหน้า ของอสังหา ยังไงบ้างคะ คำตอบ: เรามองว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่อยู่ bottom line แล้ว ปีหน้าน่าจะดีขึ้น แต่ภาค รัฐ เศรษฐกิจโดยรวมมันคิดว่ามันน่าจะดีขึ้น แล้วก็ภาครัฐควรจะต้องเข้ามาช่วยกระตุ้นให้มากกว่านี้

โดยสรุป, CHEWA กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน