สรุปงบล่าสุด CHASE
บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน): ผลประกอบการไตรมาส 3/2567
ผลประกอบการของ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (“CHASE”) ในไตรมาส 3/2567 สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยรายได้รวมของ CHASE อยู่ที่ 205.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดย CHASE ลงทุนซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรวม 523 ล้านบาท ในงวด 9 เดือน ส่งผลให้มีกระแสเงินสดรับจากธุรกิจดังกล่าวจำนวน 423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของ CHASE ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 9.5 ล้านบาท ลดลง 79.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 66.1 ล้านบาท จากการรับชำระเงินที่ชะลอตัวของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และการตั้งสำรองตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
แผนธุรกิจในอนาคตของ CHASE ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และรอบคอบ เนื่องจากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจในภาพรวม บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ในระดับที่น่าพอใจในปี 2568 โดยจะเน้นการลงทุนในพอร์ตสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดี
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ CHASE สะท้อนถึงความเสี่ยงของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ราคาหุ้นของ CHASE ปรับตัวลดลงจาก 1.86 บาท ในไตรมาส 3/2566 เหลือ 1.43 บาท ในไตรมาส 3/2567 ส่งผลให้ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 17.15 เทียบกับ 28.71 ในไตรมาส 2/2566 แม้ว่า P/BV ล่าสุดจะอยู่ที่ 0.72 เทียบกับ 1.07 ในไตรมาส 2/2566 แสดงให้เห็นถึงราคาหุ้นที่ถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี แต่ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 0% บ่งบอกถึงโอกาสในการรับเงินปันผลที่ต่ำ นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของ CHASE เพิ่มขึ้นจาก 0.15 เท่า ในปี 2566 เป็น 0.21 เท่า ในไตรมาส 3/2567 สะท้อนถึงระดับหนี้สินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม CHASE มีอัตราส่วนการครอบคลุมผลขาดทุนด้านเครดิต (Coverage Ratio) ที่ค่อนข้างสูง บ่งบอกถึงความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงด้านเครดิตได้ดี
จากข้อมูลงบกระแสเงินสดในไตรมาส 3/2567 แสดงให้เห็นว่า CHASE มีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน (231.8) ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในงวด 9 เดือนแรก จํานวน (523) ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน (7.4) ล้านบาท โดยมาจากการลงทุนในอาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาคารสำนักงานแจ้งวัฒนะ แต่มีเงินสดสุทธิรับจากกิจกรรมจัดหาเงิน 198.6 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากเงินสดรับจากการกู้ยืมสถาบันการเงินจำนวน 315.8 ล้านบาท
โดยสรุปแล้ว โอกาสการลงทุนใน CHASE ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตระยะยาว CHASE อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเน้นการลงทุนในระยะยาวและติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก CHASE มีศักยภาพในการเติบโตในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผล CHASE อาจไม่เหมาะสม เนื่องจาก YIELD ที่ต่ำ และความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูง นอกจากนี้ การใช้เงินสดในกิจกรรมดำเนินงานที่สูง อาจเป็นสัญญาณของความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของ CHASE ในระยะสั้น
(0.46%)
(11.35%)
(10.60%)
(0.61%)
(10.19%)
(12.12%)
(1.51%)
(19.23%)
(66.80%)
(79.56%)
(0.00%)
(44.80%)