CHAO
บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

```html

เปิดกลยุทธ์ CHAO ปี 2568: ขยายตลาดต่างประเทศ, เน้นสินค้า Better for You, และควบคุมต้นทุนเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

สรุปผลการดำเนินงานและกลยุทธ์สำคัญจากงาน Oppday ไตรมาส 3 ปี 2568 ของบริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO โดยเน้นภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ, โอกาสทางธุรกิจ, ความเสี่ยง, แนวทางแก้ไข, แนวโน้มในอนาคต, และช่วงถาม-ตอบ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ผลการดำเนินงานโดยรวม: รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3 อยู่ที่ 341.3 ล้านบาท เติบโต 0.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 121 ล้านบาท เติบโต 5.3% (QoQ)
  • ปัจจัยบวก: การออกงานแสดงสินค้า Anuga ที่เยอรมนีได้รับการตอบรับที่ดี, การทำ Product Collaboration กับ Ko ব্র্যান্ড และ Macro, การรุกตลาดจีนด้วยสินค้าใหม่ข้าวตังหน้ากุ้งรสชาติผัดไทย
  • ปัจจัยภายนอก: World Bank คาดการณ์ GDP ประเทศไทยปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2%, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเล็กน้อย, ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (คนละครึ่ง)
  • ราคาวัตถุดิบ: ราคาเนื้อหมูและสุกรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (-12.2% QoQ), อัตราแลกเปลี่ยนค่าเฉลี่ยดอลลาร์อยู่ที่ 33.3 บาท (ต่ำกว่าปีที่แล้ว)
  • สัดส่วนต้นทุน: เนื้อหมูคิดเป็น 18% ของต้นทุนรวมของบริษัท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • ตลาด Better for You Snack: มุ่งเน้นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและผู้บริโภคยุคใหม่
  • Product Collaboration: ขยายความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงช่องทาง B2B และตลาดใหม่
  • ตลาดต่างประเทศ: เจาะตลาดจีนและอเมริกาอย่างต่อเนื่อง, ขยายไปยังอินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย, และยุโรป
  • ช่องทางออนไลน์: สร้างการเติบโตผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเองและ KOLs

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • เศรษฐกิจในประเทศ: การฟื้นตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังไม่เต็มที่
  • ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ: ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูและอัตราแลกเปลี่ยน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • ควบคุมต้นทุน: บริหาร Product Mix และ Channel Mix, Optimize Procurement, ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ, พลังงานทดแทน (Solar Rooftop)
  • ลดการพึ่งพาเนื้อหมู: พัฒนาสินค้าใหม่ที่ไม่ใช้เนื้อหมู (ข้าวตังหน้ากุ้ง, ซีฟู้ด)
  • บริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน: ล็อกราคาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • เป้าหมายการเติบโต: ตั้งเป้าเติบโต 12-15% ในปี 2569 โดยเน้นการเติบโตจากตลาดส่งออก (15-20%)
  • กลยุทธ์ระยะยาว: ขยาย Portfolio สินค้า Better for You, เพิ่ม Visibility ของสินค้า, ขยายช่องทาง B2B, สร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ
  • สัดส่วนรายได้: คาดการณ์สัดส่วนรายได้ปี 2571-2573: ส่งออก 35%, ในประเทศ 65%

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม 01:08:13]

Q: ไกด์ไลน์สำหรับไตรมาส 4 ปี 2568 และปี 2569 บริษัทจะสามารถรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าฤดูการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบแล้วในประเทศไทย

A: น่าจะรักษาโมเมนตัมที่ดีต่อไปได้ในไตรมาสที่ 4 ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และการออกสินค้า SKU ใหม่ๆ

Q: บริษัทคาดว่าจะ Positive Upside อย่างต่อเนื่องในต่างประเทศหรือไม่ และคิดว่าจะมาจากกลุ่มสินค้าใดเป็นหลัก รวมถึงคาดว่าจะมีโมเมนตัมแบบนี้ต่อไปหรือไม่ในช่วงปี 2569

A: โมเมนตัมของต่างประเทศยังดีอยู่ สินค้าจะมาจากทั้งสองกลุ่มหลักของเรา กลุ่มข้าวตัง ซึ่งมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่กับลูกค้าอยู่แล้ว และกลุ่มของแครกเกอร์เอง ในปี 2569 ก็คิดว่าโมเมนตัมกลับมาแล้ว

Q: GP ในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น ในแนวโน้มของไตรมาส 4 และปีถัดไปเป็นไปในทิศทางไหน

A: GP ในไตรมาส 3 ปิดที่ 35.5% เห็นการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 เป็นผลมาจากการทำหลายๆโปรเจค เช่น การลดการ rely on สินค้าจากเนื้อหมู การขยายในช่องทางที่มี GP สูง รวมถึง Productivity Project ที่ทำค่อนข้างเข้มข้นมากๆภายในปีนี้

Q: ค่าใช้จ่าย SG&A มีการปรับตัวลดลงมาประมาณ 5.3 ล้านบาทในไตรมาสล่าสุด อยากทราบว่าบริษัทมีแผนจัดการ การ ค่าใช้จ่ายในตรงเนี้ย ในไตรมาสถัดไปอย่างไร โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่มาจากกิจกรรมด้านการตลาด

A: ในไตรมาส 3 และปีนี้ จะอยู่ใน Level ที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า และมองว่าสัดส่วนตรงนี้ในปีถัดไปจะลดลงเมื่อเทียบกับยอดขายที่จะเติบโตขึ้น การควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของการขาย การตลาด และการบริหารอย่างเข้มงวด

Q: ยอดขาย ต่างประเทศจะไปในประเทศใดเป็นหลัก

A: ลูกค้าหลักๆในปัจจุบันยังอยู่ในประเทศใหญ่ๆ จีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการบริโภค Snack ค่อนข้างเยอะ ทางจีนได้มีการไปพาร์ทเนอร์กับลูกค้า ในการทำสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ในแง่ของ Better for You Snack สินค้าที่ลูกค้าต้องการ ต้องการสินค้าที่ทานแล้วมีประโยชน์ หรือว่า Clean label คือไม่ผสมสารอะไรต่างๆ อเมริกาเองก็เหมือนกัน

Q: อยากให้อัพเดท ความร่วมมือของ Partnership นะครับ กับแบรนด์เถ้าแก่น้อยครับ ว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหนแล้วครับ

A: มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เรื่องของ co-branding ในส่วนของ co-product ที่จะทำร่วมกัน ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนา ทั้งสินค้าใหม่ที่จะ ร่วมกันออกภายในประเทศ และส่งออก

สรุป:

CHAO มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการขยายตลาดต่างประเทศ, พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภค, และควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า

```