สรุปงบล่าสุด CENTEL
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL: เดินหน้าขยายธุรกิจ สู่เป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 5,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารทรงตัวเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 43%:57% บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นรวม 2,910 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 54% ของรายได้ (ไม่รวมรายได้อื่น) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2566: 56%) บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 1,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เทียบไตรมาส 3/2566 โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ ต่อรายได้รวม (% EBITDA) 24% เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรับรู้ (ขาดทุน) กำไรตามวิธีส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้าเพิ่มขึ้นเทียบปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ (EBIT) 495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เทียบปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท เติบโต 123% เทียบปีก่อน
**แผนธุรกิจ**
แผนธุรกิจของ CENTEL ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง เช่น เซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve), เซ็นทาราบูติกคอลเลกชัน (CentaraBoutique Collection), เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand), เซ็นทารา(Centara), เซ็นทรา บาย เซ็นทารา (Centra by Centara) และ โคซี่(COSI) รวมถึงธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม บริษัทฯ ยังมีแผนขยายธุรกิจอาหารในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ของตนเอง เช่น เดอะ เทอเรส,อร่อยดี, เกาลูน, อาริกาโตะ, แกร็บ คิทเช่น บาย เอวี่ ฟู้ด และแฟรนไชส์ เช่น มิสเตอร์โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้แอนส์, เปปเปอร์ลันช์, ชาบูตง, โคล สโตนครีมเมอร์, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, ราเมน คาเกทสึ อาราชิและแบรนด์ร่วมค้าอื่นๆ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่ในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
**วิเคราะห์โอกาสการลงทุน**
CENTEL ถือเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง สะท้อนจากอัตราส่วน D/E ที่ต่ำกว่า 1 หมายถึง ภาระหนี้สินที่ต่ำและมีโอกาสขยายธุรกิจหรือลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยการกู้เงินได้ง่ายขึ้น อัตราส่วน P/E ล่าสุดอยู่ที่ 33.01 ซึ่งสูงกว่า 35 แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 2.29 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง บ่งบอกถึงความคุ้มค่าของราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าทางบัญชี ข้อมูลวงจรเงินสด (Cash Conversion Cycle) ที่ติดลบแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและการเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มั่นคง แม้ว่าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ แต่ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับบริษัทที่เน้นการลงทุนขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามดูว่าบริษัทฯ มีการจัดการเงินทุนหมุนเวียนอย่างไร เนื่องจากข้อมูลขายสินค้าเฉลี่ย วัน และ ชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า วัน มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
**ผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรม**
* รายได้จากธุรกิจโรงแรมไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 2,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
* รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของโรงแรมทั้งหมดในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 3,429 บาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) เพิ่มขึ้น 6% ขณะที่อัตราการเข้าพัก (Occupancy) ทรงตัวอยู่ที่ 69%
* รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ 3,388 บาท จากการเพิ่มขึ้นของอัตราการเข้าพัก (Occupancy)
* รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ในต่างจังหวัดลดลง 3% เป็น 2,535 บาท เนื่องจากอัตราการเข้าพัก (Occupancy) ลดลงจากผลกระทบของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหญ่
* รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ในต่างประเทศ แบ่งเป็น:
* มัลดีฟส์ ลดลง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 6,409 บาท โดยอัตราการเข้าพัก (Occupancy) ลดลง
* ดูไบ เพิ่มขึ้น 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราการเข้าพัก (Occupancy) เพิ่มขึ้น
* ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 34% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของอัตราการเข้าพัก (Occupancy) และราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR)
**ผลการดำเนินงานธุรกิจอาหาร**
* รายได้จากธุรกิจอาหารไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 3,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
* อัตราการเติบโตสาขาเดิม (SSS) ของธุรกิจอาหาร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2%
* อัตราการเติบโตจากยอดขายรวม (Same Store Sales) ของธุรกิจอาหารอยู่ที่ 4%
**สถานะทางการเงิน**
* บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 56,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับสินปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เนื่องจากการก่อสร้าง 2 โรงแรมใหม่ที่มัลดีฟส์
* บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 36,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบสินปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะยาวและระยะสั้น
* บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 19,919 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากสินปี 2566 เนื่องจากการจ่ายเงินปันผล
* บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 4,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
* บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 4,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจ่ายเพื่อซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
**ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินงาน**
* **ธุรกิจโรงแรม:** บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานด้วยความระมัดระวังโดยการปรับกลยุทธ์ทางการขายและตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง การติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ การมีวินัยทางการเงิน ขณะที่บริษัทฯ ยังคงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเพื่อสร้างความเติบโตในอนาคต ด้วยการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดหาแหล่งเงินทุนทีมีต้นทุนที่เหมาะสมจากการกู้ยืมเงินสถาบันการเงิน และการออกตราสารหนีตามภาวะตลาดการเงิน
* **ธุรกิจอาหาร:** ธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากในแต่ละปีมีผู้ประกอบการใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาแบรนด์เพื่อสร้างความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่ดีในการรับประทานอาหารของลูกค้า หาแบรนด์ใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มมีการเติบโตที่ดีมาเสริมทัพ หาช่องทางการขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงของลูกค้า และ เน้นการบริหารจัดการต้นทุนในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเติบโตของรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน
**สรุปโอกาสการลงทุน**
CENTEL เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน และมีโอกาสเติบโตในอนาคตจากการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาความเสี่ยง ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมโรงแรมและอาหาร
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวแบบ Value Investing หรือ ถือหุ้นรอการเติบโต (Growth Investing) ควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิดและพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
**ข้อมูลเพิ่มเติม**
* บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ 2 แห่ง ภายในปี 2568
* บริษัทฯ มีแผนที่จะปรับปรุงโรงแรมในประเทศไทย 2 แห่ง ภายในปี 2568
* บริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีพ.ศ. 2593
* บริษัทฯ ประมาณการอัตราการเติบโตของสาขาเดิม (SSS) ของธุรกิจอาหาร ในปี 2567 อยู่ที่ 1% - 3% เทียบปีก่อน และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (Same Store Sales) จะอยู่ในช่วง 4%- 6% เทียบปีที่ผ่านมา
(3.89%)
(3.51%)
(5.14%)
(2.53%)
(1.28%)
(0.92%)
(10.42%)
(0.50%)
(2.64%)
(22.76%)
(96.68%)
(95.34%)