สรุปงบล่าสุด BVG

บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
BVG ปี 67 รายได้รวมลดลงเล็กน้อย (-1% YoY) อยู่ที่ 517.6 ล้านบาท แต่ธุรกิจระบบ (+29% YoY) และ InsureTech (+20% YoY) ยังคงเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ 52.1 ล้านบาท (-25% YoY) ลดลงเนื่องจากการลงทุนในธุรกิจใหม่และค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจ ฐานะการเงินแข็งแกร่งด้วย D/E 0.24
ธุรกิจ EMS โต 18%, ธุรกิจอื่นๆ โต 20% จากจำนวนกรมธรรม์ภาคสมัครใจและฐานลูกค้าดีลเลอร์ EV AI มีสัดส่วน 9% และเติบโต, ขยายธุรกิจสู่กัมพูชา และให้บริการปรึกษาด้านการแพทย์สำหรับผู้ป่วยต่างชาติ BVG มีความเสี่ยงด้านการแข่งขัน TPA, เศรษฐกิจ, และภัยคุกคามไซเบอร์
นักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 4.20 บาท (Upside 105.88%) และแนะนำ Hold ณ 2025-03-27 BVG มี P/E 17.61 Yield 4.17% และให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการจัดการค่าใช้จ่าย
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการ BlueVenture Group (BVG) ปี 2567 และวิเคราะห์โอกาสการลงทุน**
BlueVenture Group (BVG) ในปี 2567 มีรายได้จากการให้บริการรวม 517.6 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ว่าธุรกิจ EMCS (ระบบแพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์) จะเติบโตถึง 18% และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยเติบโตถึง 20% แต่รายได้จากบริการ TPA (บริหารจัดการสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล) ลดลง 18% เนื่องจากบริษัทตัดสินใจหยุดให้บริการลูกค้ารายใหญ่บางรายเพื่อบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการลงนามสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ในช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2568 กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 52.1 ล้านบาท ลดลง 25% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการหยุดให้บริการลูกค้าบางราย และมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นบริษัท BlueVenture HCM (BVH) ที่เริ่มมีรายได้เข้ามาในช่วงปลายไตรมาส 2
BVG วางแผนที่จะมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจ EMCS และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย โดยเฉพาะการให้คำปรึกษาตามมาตรฐาน IFRS 17 บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่และขยายฐานลูกค้าเดิมในธุรกิจ EMCS อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ BVG ยังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต และการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในระยะยาว การคาดการณ์ที่สำคัญคือการเติบโตของธุรกิจ EMCS และการกลับมาเติบโตของธุรกิจ TPA หลังจากปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตแล้ว
การพิจารณา BVG เป็นโอกาสในการลงทุนต้องมองอย่างรอบด้าน แม้ว่าราคาหุ้นเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน และ P/E ratio จะลดลงมาอยู่ที่ 15.74 ซึ่งอาจดูน่าสนใจ แต่การลดลงของกำไรสุทธิในปี 2567 และการชะลอตัวของรายได้รวมเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน การเติบโตของธุรกิจ EMCS และการขยายธุรกิจไปยัง BVH เป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังต้องติดตามผลประกอบการในอนาคตเพื่อประเมินศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน
**ความสัมพันธ์และวิเคราะห์เพิ่มเติม:**
* **รายได้และกำไร:** รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิลดลง แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ลดลงจาก 271.803 ล้านบาท ในปี 2566 เหลือ 231.485 ล้านบาท ในปี 2567 สะท้อนถึงต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้น
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ลดลงจาก 9.76% ในปี 2566 บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ลดลง
* **D/E:** ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก 0.24 แสดงว่าบริษัทยังคงมีการบริหารจัดการหนี้สินที่ดี
* **ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:** การหยุดให้บริการลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจ TPA และค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจใหม่
* **พัฒนาการสำคัญ:** การก่อตั้ง BVH และการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจ EMCS
* **อนาคตการลงทุน:** ต้องติดตามการฟื้นตัวของธุรกิจ TPA และการเติบโตของ BVH เพื่อประเมินศักยภาพในการทำกำไรในอนาคต
**โอกาส:**
* การเติบโตของธุรกิจ EMCS และการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจนี้
* การเติบโตของธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยตามมาตรฐาน IFRS 17
* การขยายธุรกิจไปยัง BVH
**ความเสี่ยง:**
* การแข่งขันในตลาดบริการ TPA ที่สูง
* ความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกค้า
* ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยรถยนต์
* ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย
(2.00%)
(2.25%)
(1.57%)
(14.06%)
(3.64%)
(12.09%)
(9.93%)
(19.28%)
(5.87%)
(26.95%)
(55.61%)
(56.21%)